“ธรรมนัส” สั่งเร่งล่าฆ่าปลาหมอคางดำให้หมด ชี้ให้ตรวจสอบมาตลอดใครเป็นต้นเหตุนำเข้า

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการพบ การแพร่ขยายพันธุ์ปลาหมอคางดำ ว่า ได้รับทราบเรื่องนี้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรับทราบปัญหามาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะการขับเคลื่อนในสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงปี 2565-2566 ซึ่งตนได้สั่งการให้มีการจัดการปลาหมอคางดำ ซึ่งจากเดิมคือปลาหมอสีคางดำ แต่ขณะนี้ไม่มีสีแล้ว ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายถือเป็นเรื่องที่กระทรวงฯ ต้องนำมาเป็นวาระแห่งชาติ


ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของการศึกษาวิจัยสายพันธุ์ใหม่ที่จะทำให้ปลาหมอคางดำเป็นหมัน ซึ่งต้องมีการคิดหลายขั้นตอน โดยได้สั่งการไปยังกระทรวงศึกษาธิการศึกษาว่าเป็นไปได้หรือไม่ในการผลิตโครโมโซมที่จะทำให้ตัวผู้ผสมพันธุ์และเป็นหมัน แต่ต้องดูว่าจะกลุ่มพันธุ์หรือไม่ แต่ประเด็นสำคัญต้องปฏิบัติการล่าฆ่าให้หมด


พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้การยางแห่งประเทศไทยนำเงินกองทุนรับซื้อปลาหมอ เพื่อไปทำปุ๋ย


ส่วนการค้นหาว่าใครเป็นต้นเหตุหรือที่มาของป่าหมอคางดำ ได้สั่งการให้กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบมาโดยตลอด แต่ยังไม่มีความชัดเจน การโทษบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง ต้องหาข้อมูลให้ละเอียดขณะเดียวกันก็จะรับฟังข้อมูลจากสภาว่าใครเป็นผู้นำ คาดว่าจะทราบ ข้อเท็จจริงในเร็วๆ นี้


ขณะที่ในส่วนของข้อกฎหมายการนำเข้าปลาหมอคางดำ รวมถึงพืชและสัตว์ทุกประเภท ต้องได้รับการอนุญาตให้นำเข้าราชอาณาจักร


ร้อยเอกธรรมนัส ยังเปิดเผยว่า ปลาหมอคางดำ มีการระบาดมาหลายปีแล้ว ในพื้นที่ 3 สมุทร และขณะนี้ขยายไปยังเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และลำน้ำสาขา ทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม ต้องมีการปฏิบัติการ


ร้อยเอกธรรมนัส ยังยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงหากมีการระบาดเข้ามาในพื้นที่คลองชั้นในในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต้องมีการป้องกันอย่างจริงจัง ส่วนที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่าผู้ที่นำปลาหมอคางดำเข้ามาเป็นบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่มีการเชื่อมใน 3 คลองนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจะนำไปพูดไม่ได้ ต้องรอความชัดเจน


พร้อมเปิดเผยด้วยว่า ปลาหมอคางดำสามารถนำมาทำเป็นปลาป่น อาหารสัตว์ ปุ๋ย และปลาร้า ทานได้