คลังล้มใช้เงิน ธกส. แจกเงินดิจิทัล เคาะใช้ซื้อมือถือไม่ได้ – ‘ศิริกัญญา’ อัดรัฐยอมรับความจริง แนะลดผู้รับสิทธิ์

วานนี้ (10 ก.ค.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ 

ประเด็นสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสาร เช่น มือถือ สามารถร่วมโครงการได้หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้! โดยที่ประชุม ได้เพิ่มยการสินค้าในกลุ่มดังกล่าว เข้าไปในบัญชีสินค้าไม่สามารถร่วมรายการ Negative List เนื่องจากต้องการลดการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้านำเข้า รวมทั้งลดการใช้จ่ายสินค้าราคาสูง เพื่อให้มีการกระจายเม็ดเงิน ไปถึงร้าน และผู้ประกอบการ จำนวนมากขึ้น ส่วนปุ๋ยเคมียังใช้ได้

ส่วนแหล่งที่มาของเงิน จะมีการเปลี่ยนแปลง จากแหล่งเงินงบปี 67 และ 68 จะมีงบรวมกันประมาณ 4.5 แสนล้านบาท เพียงพอการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตคนละหมื่นบาท เพราะคาดว่าผู้มีสิทธิลงทะเบียน 50 ล้านคน จะมาลงทะเบียนไม่ครบทั้งหมด คาดว่าจะมีคนมาลงทะเบียนประมาณ 90% เท่านั้น

ทั้งนี้ จะใช้งบประมาณปี 67 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการทำงบเพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท และบริหารจัดการงบ 4.3 หมื่นล้านบาท

และงบปี 2568 ที่ตั้งไว้ 2.84 แสนล้านบาท เป็นการตั้งงบเพื่อโครงการนี้ 1.52 แสนล้านบาท และบริหารจัดการงบเพิ่มเติมอีก 1.32 แสนล้านบาท

ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เกิดความกังวลอีกต่อไป 

ส่วนการลงทะเบียน ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มวันไหน แต่เชื่อว่า สามารถเปิดลงทะเบียน และผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท ก่อนสิ้นปีนี้

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ข้อเสนอเรื่องแหล่งเงิน 4.5 แสนล้านบาท ดังกล่าว ยังไม่ใช่ข้อสรุป เนื่อกจากจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง

นายจุลพันธ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น จะต้องลงทะเบียนด้วยเบอร์มือถือที่เป็นลงทะเบียนแบบรายเดือนแล้วเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้เบอร์ของซิมเติมเงิน เนื่องจากต้องการให้ตรวจสอบได้ ขณะที่เรื่องของการแลกเป็นเงินสด (cash out) ยังคงเหมือนเดิมคือ ต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียน ในระบบภาษีกับกรมสรรพากรเท่านั้น

-------------

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลต้องยอมรับความจริงก่อนว่า รัฐบาลไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนได้ครบตามที่พูดไว้ และต้องปรับลดจำนวนคนรับสิทธิ์ลงมาเพื่อให้ได้สัดส่วน พูดให้ตรงไปตรงมาให้ชัดเจน และ ควรเคลียร์เรื่องแหล่งที่มาของเงินทุนให้ชัดเจนทั้งหมด ก่อนจะประกาศต่อประชาชน ไม่อย่างนั้นจะเป็นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แก่ประชาชน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ตามมาจากการใช้เงิน ธกส.ไม่ได้ คือ หากมีคนมาลงทะเบียนรับสิทธิ์เกิน จะหาเงินที่ไหนมา รวมไปถึงอาจจะทำให้ท้ายที่สุด การตั้งวงเงินไว้แค่ 4 แสน 5 หมื่นล้าน ก็จะเป็นปัญหาที่ทำให้ “แจกทั้งโครงการไม่ได้ หรือไม่” เรื่องนี้ต้องระวัง และถ้าจะไม่ให้ขัด พรบ.เงินตรา จะต้องมีวงเงินไปการันตี 5 แสนล้านครบถ้วน แต่ว่าตอนนี้รัฐบาลหาเงินไม่ทัน หาเงินได้ไม่พอ

ส่วนก่อนจะแถลงใหญ่ 24 ก.ค.นี้ รัฐบาลยังมีเวลาราว 2 สัปดาห์ จะหาแหล่งเงินอื่นมาได้ทันหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา มองว่า แหล่งเงินที่มีอยู่ ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา รวมถึงยังมีเรื่องที่รัฐบาลต้องทบทวนอีกหลายเรื่อง จึงมองว่าการปรับลดจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิ์ น่าจะทำได้มากกว่า

ขอเตือนว่า ต้องระวังหากประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์แล้วไม่ได้จริง ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่น ผลการกระตุ้นเศรษฐกิจก็อาจจะไม่สัมฤทธิ์ผลตามที่คาดหวัง

-----------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/G73bSc1p1uQ