‘พิธา’ ทวงสัญญา MOU คืบหน้านิรโทษกรรม จัดระเบียบกองทัพ - ‘อดิศร’ ย้อนทวงอะไรอยู่คนละฝั่งแล้ว

เปิดสมัยประชุมวันแรก สภาหมื่นล้านแอร์เสีย ด้าน “พิธา” ทวงสัญญา MOU ติดตามคืบหน้านิรโทษ-จัดระเบียบกองทัพ จี้รัฐบาล-สส.ดันให้สำเร็จ

เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรก มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างกฎหมาย ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี 4 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา, ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม, ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, และพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ

ช่วงก่อนพิจารณาร่างกฎหมาย บรรดา สส. ลงชื่อเข้าหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนกันอย่างคึกคักถึง 39 คน ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่พบเจอระหว่างลงพื้นที่ช่วงปิดสมัย เช่น เรื่องสาธารณูปโภค น้ำไฟ ที่ดิน ประเด็นการศึกษา การสาธารณสุข และประเด็นการเมือง

โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ขอหารือ 3 เรื่อง ระบุว่า เรื่องแรก การทำให้รัฐสภาไทย ก้าวหน้าโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง / เรื่องที่สอง เป็นความคืบหน้านิรโทษกรรมคดีการเมือง เพื่อความยุติธรรม นิติรัฐ นิติธรรม และแก้วิกฤตการเมือง ผู้เห็นต่างไม่ต้องติกคุก หรือลี้ภัย  / และเรื่องสุดท้าย เป็นการแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่พรรคก้าวไกลได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ทั้งร่าง พ.ร.บ.กฎอัยการศึก, ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งถูกตีความเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน จึงต้องส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน ซึ่งทั้งหมดเพื่อปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

นายพิธา ย้ำว่าทั้งหมดทั้ง 3 ประเด็นนี้ เป็นเนื้อหาใน MOU ที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ลงนาม เมื่อ 1 ปีที่แล้วพอดิบพอดี (3 ก.ค.66) โดยไม่ใช่ MOU ที่พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ แต่เป็น MOU ในการเสนอชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯ เพื่อผลักดันวาระก้าวหน้า เพื่อประชาชนตาม 3 ประเด็นดังกล่าว จึงขอให้นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สส. และพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันผลักดันตามที่เคยสัญญาไว้ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

 “MOU ที่ว่าไม่ใช่เอ็มโอยูที่จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ แต่คือ MOU ของการเสนอบุคคลให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภา ที่ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งทำเมื่อ 3 ก.ค. 2566 หรือ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาของการผลักดันวาระก้าวหน้า ที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรผลักดันตามสัญญาที่ให้ไว้” นายพิธา กล่าว

จากนั้น นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้ที่ประชุม พิจารณาเพิ่มวันประชุมในแต่ละสัปดาห์ เนื่องจาก มีกฎหมายที่ค้างการพิจารณา และร่างกฎหมายที่เสนอใหม่ รวมถึงรายงานของกรรมาธิการ และหน่วยงานต่าง ๆ ยังรอการพิจารณาจำนวนมาก ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ได้ให้คณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไปหารือร่วมกันถึงการเพิ่มวันประชุม จากเดิมที่ประชุมเพียงวันพุธ และวันพฤหัสบดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาวานนี้ มีสื่อมวลชนเดินทางมาทำข่าวกันอย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภานัดแรก แต่ปรากฎว่าแอร์เสีย ทำให้ทั้งห้องสื่อมวลชน เต็มไปด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว จนผู้สื่อข่าวต่างบ่นกันระงม พร้อมแซวกันเล่นๆ ว่าไปนั่งทำงานในห้องน้ำยังเย็นกว่า

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าแอร์เสียตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 2 ก.ค.  ขณะที่แอพ Traffy Fondue เคยระบุว่าสามารถแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาได้ แต่เมื่อแจ้งปัญหาไปแล้ว กลับได้รับการแจ้งกลับว่าต้องการแจ้งเรื่องไปที่กรุงเทพมหานครหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละหน่วยงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าปัญหาแอร์เสียนี้ เคยเกิดขึ้นตั้งแต่เปิดประชุมสภาสมัยที่แล้ว ซึ่งช่วงหลังเกิดบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับการจัดการจริงจัง โดยเช้าวานนี้เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไขแล้วเมื่อเวลา 10.00 น.  

----------------------

“อดิศร” ย้อน “พิธา” ตอนสมัยโหวตนายกฯ ก็ยกมือให้ จะมาทวงอะไรล่ะ อยู่คนละฝั่งกันแล้ว หลังเจ้าตัวจี้ “รบ.-เพื่อไทย” ทำตาม MOU ลั่น มันไม่มี ดีลเงื่อนไขประธานสภาฯ บอกอย่าฝันเรื่องเดิม เหน็บแสบสนับสนุนให้ไปขึ้นรถแห่


เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.67)  ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ทวง MOU จากพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ว่า เป็นความสนใจในหน้าที่ของนายพิธา สส.แต่ละคนก็สามารถหารือในสภาได้ 2 นาที นายพิธาก็อาศัยช่องทางนี้

“ผมชมเชยความขยันนะ เรื่องที่ทวงถามนี่ควรจะไปเป็นกระทู้หรือพูดในสภาใหญ่ ท่านก็พูดเพียง 2 นาที ก็ทวงถามในสิ่งที่ท่านเสนอไว้ เป็นเรื่องธรรมดา ผมว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาก็แก้ไขอยู่” นายอดิศร กล่าว

ส่วนจะเป็นการรื้อฟื้นหรือไม่ นายอดิศร กล่าวอีกว่า เป็นการทวงถาม สิ่งไหนที่ สส.เสนอไป ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ทำให้สำเร็จก็แล้วกัน ต้องขอบคุณนายพิธา

เมื่อถามว่านายพิธาทวงพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีด้วย นายอดิศร ย้อนถามกลับว่า “มาทวงอะไรล่ะ เราอยู่คนละฝ่ายแล้ว ผมนี่เป็นคนสนับสนุนท่านให้เป็นนายกฯนะ เมื่อไม่ได้เป็นนายกฯ ก็อย่าฝันเรื่องเดิม ก็ทำหน้าที่ตามระเบียบวาระตามข้อบังคับของสภาฯ”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าดีลนี้เป็น MOU ที่ทำกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคประชาชาติได้ตำแหน่งประธานสภาฯ  นายอดิศร กล่าวว่า มันไม่มี เรื่องประธานสภาฯ จบไปแล้ว อย่าพูดเรื่องที่จบไปแล้ว เอาไว้พูดในสิ่งที่ยังไม่จบ

“ผมก็สนับสนุนท่านไปขึ้นรถแห่เหมือนเดิม อันนี้ไม่ได้ว่ากันนะ คือไม่มีความสุขต่างกัน เพราะในการจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลชัดเจนไปหมดแล้ว ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ผมก็คิดว่าทางฝ่ายค้าน นำโดยพรรคก้าวไกล ก็ทำหน้าที่ได้ดี เมื่อฝ่ายค้านเข้มแข็งรัฐบาลก็ต้องเข้มแข็ง กำลังเข้าที่เข้าทางครับ ถ้าท่านทำดีก็อาจจะได้กลับมาเป็นรัฐบาล ผมอาจจะได้เป็นฝ่ายค้าน หรืออาจจะร่วมกันในอนาคต ไม่มีใครทราบ” นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร ย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ายังเหลืออีกหลายปี บางโพลก็ทำเหมือนอีก 2-3 วันจะเลือก ทั้งที่ยังเหลืออีก 3 ปี การเลือกตั้งหลายครั้งโดยเฉพาะท้องถิ่น ตนเห็นว่าทางพรรคเพื่อไทยก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่กาญจนบุรีแล้ว นอกจากนี้ยังมีจังหวัดเลย ชลบุรี และล่าสุดที่ปทุมธานี โพลกับความเป็นจริงอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกัน ตนอยากให้กำลังใจทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าพื้นที่ต่อไปที่พรรคเพื่อไทยจะชนะ ประเมินว่าจังหวัดไหน นายอดิศร กล่าวว่า พะเยา อุดรธานี ขอนแก่น  “ผมคิดว่าฝ่ายเพื่อไทยไม่ได้ไปถ่อมตัว เรามีเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องที่เราทำงานมาตลอด ก็ให้กำลังใจคู่ต่อสู้ มันถึงจะสนุกดีนะครับ อย่าถล่มกันเอง อย่าด้อยค่าคนอื่น สู้กันไปตามสถานการณ์” นายอดิศร กล่าว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VtV0Kghjjcw