คดีเก่าพ่นพิษ! 'ลุงชาญ' อาจต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ - 'ภูมิธรรม' ชี้ชนะเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวมนต์ขลังทักษิณ

วานนี้ (1 ก.ค. 67) สำนักงาน กกต. ปทุมธานี แจ้งผลเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวานนี้ พบว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ จากพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง ที่ 203,032 คะแนน ขณะที่ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ 201,212 คะแนน ห่างกันเพียง 1,820 คะแนน

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ในนามของพรรค พท. ชนะการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ. ว่า

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่เสื่อมมนต์ขลัง ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ ตอบทันทีว่า “ไม่เสื่อมครับ ไม่เสื่อม นี่เห็นได้ชัดเลยว่า แม้เราจะต้องทำตามนโยบายหลายอย่าง แต่เราก็สามารถคว้าชัยมาได้ ถือเป็นการหักล้างคำสบประมาทว่ากระแสของพรรคเพื่อไทยยังครองใจประชาชน”

เมื่อถามว่า ที่ จ.ปทุมธานี สะท้อนภาพบ้านใหญ่ร่วมแรงกัน จังหวัดอื่นจะมีการรวมบ้านใหญ่เพื่อมาชูพรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่าไปรวบรวมอะไร แต่ตนคิดว่า นี่คือเสียงของประชาชนที่ยังไว้ใจพรรค เพื่อไทย แล้วเชื่อว่ากระแสเหล่านี้ยังมีอยู่ และจะสามารถทำให้พรรคเพื่อไทยคว้าชัยชนะได้

---------------

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า

การชนะการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่านายชาญทำงานอย่างเต็มที่ และการชนะครั้งนี้ถือว่าทีมงานพรรคเพื่อไทยได้ปรับกระบวนการทำงาน จึงสามารถดึงศรัทธาประชาชนกลับมา ตนขอดีใจกับนายชาญ รวมถึงเห็นใจผู้แพ้ และการที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้นั้นถือเป็นสปิริต เป็นเรื่องดี เพราะการเลือกตั้งเราต่อสู้กันทางการเมือง ตามกติกา แพ้ชนะเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ผู้ชนะดีใจก็อย่าให้มากจนเกินไป แล้วตั้งใจทำงาน ผู้แพ้ก็อย่าอาฆาต ยอมรับความพ่ายแพ้ แล้วช่วยกันทำงาน ใครครองใจประชาชนได้มากกว่าคนนั้นก็ชนะการเลือกตั้งครั้งต่อ ๆ ไปได้

เมื่อถามถึงกรณีนิด้าโพลระบุว่า คะแนนความนิยมพรรคก้าวไกลยังทิ้งห่างพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องรับฟังโพลทั้งหลาย แต่นิด้าโพลก็บอกว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะชนะไม่ใช่หรือ แล้วตกลงใครชนะ นิด้าโพล หรือไม่นิด้าโพล ไม่ว่าที่ไหน ก็มีทั้งตรงและไม่ตรง เราก็รับฟัง เป็นความเห็นส่วนหนึ่งของคนที่มองจากภายนอกแล้วนำมาดู แต่อย่าไปให้ความสำคัญของโพลเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตาย

อย่างที่นิด้าโพลบอกว่าเราแพ้พรรคก้าวไกล เหมือนที่บอกว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็แพ้ ดังนั้น มันก็มีผิดกันได้ทั้งนั้น อย่าไปใส่ใจที่จะเอามาเป็นประเด็นสำคัญมาก เป็นเสียงสะท้อนเสียงหนึ่ง ปัญหาอยู่ที่เราสู้กับตัวเราเอง ถ้าเรารู้ว่ามีข้อบกพร่องและพยายามปรับ แก้ไขได้ แต่ถ้าไม่ปรับจะเป็นปัญหา ถ้าถือโพลเป็นสรณะ บริหารตามโพล ป่านนี้ประเทศคงล่มสลายไปหมดแล้ว

นายทักษิณจะมีมนต์ขลังหรือไม่ อยู่ที่ตัวท่าน แต่จะเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่เกี่ยวโดยตรง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเลือกตั้งชนะ 1 คะแนน ก็ถือว่าชนะ จะชนะ 1 พัน 1 หมื่น หรือ 10 คะแนน ไม่ได้มีความหมายอะไร และพรรคเพื่อไทยอย่าได้หลงระเริงกับชัยชนะ เราต้องเคารพทุกเสียงของประชาชน แล้วทำงานเอาประชาชนเป็นที่ตั้งไปเรื่อย ๆ คนที่ไม่รักก็กลับมารักได้ คนที่เฉย ๆ ไม่ลงคะแนนก็มาลงคะแนนได้ ดังนั้น การทำงานของเราถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยปรับตัวได้ดีขึ้นจากการพ่ายแพ้ได้ สส.ปทุมธานี มาแค่คนเดียว แต่มาชนะในขอบเขตจังหวัดถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี

---------------

นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ปรากฏว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและ พรรคก้าวไกล ยังมีความนิยมเป็นอันดับ 1 ขณะที่พรรคเพื่อไทยรั้งท้าย จะต้องมีการปรับยุทธศาสตร์อะไรหรือไม่ ว่า สิ่งที่ทำอยู่ก็ถือว่ามาในแนวที่ถูกทางแล้ว แต่ทุกอย่างก็ต้องใช้เวลา ผลโพลก็คือผลโพล ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เรานำมาไว้เตือนใจตลอดเวลา

นายสรวงศ์กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ก็ทำงานอย่างเต็มที่ การบ้านของเราคือสิ่งที่เรายังขาดอยู่เราก็ต้องเข้าไปเสริมสิ่งนั้น

เมื่อถามต่อว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่อีกประมาณ 3 ปี ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจหรือไม่ว่า พรรคเพื่อไทยจะสามารถพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ประชาชนกลับมาเลือกอีกครั้งได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า มั่นใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เรากำลังทำ ประชาชนจะเห็น และปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน เรามีผลงานเยอะ แต่ทุกอย่างที่เราเห็น เช่น เรื่องของผลโพลก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง และปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนส่วนหนึ่งก็ยังไม่พอใจกับผลงานของรัฐบาล แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้รับการแก้ปัญหา

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ฝากถึงสื่อมวลชนและนักวิชาการที่ตอนนี้ออกมาพูดกันจนประชาชนเชื่อสิ่งที่พวกคุณพูดกันหมดแล้ว แต่เมื่อไม่เป็นเหมือนที่คุณพูดก็ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบ ฉะนั้น นักวิชาการก็กลับไปทำงานของตัวเอง ไม่ใช่ออกมาพูดเป็นต่อยหอยเลยว่ามีดีลเช่นนั้นเช่นนี้ ทั้งที่คนอยู่ในวงในจริง ๆ ผมเองก็งงว่าพูดเป็นฉากเลย แต่เราเองก็ไม่มีโอกาสออกไปตอบโต้ จึงขอฝากว่าขณะนี้ประเทศชาติและประชาชนต้องการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเมืองก็ว่ากันไปการเมือง แต่อย่านำมาปนกัน ผมอยากให้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่

---------------

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ถ้านายชาญ ได้รับการรับรองจาก กกต. ก็อาจจะยังไม่สามารถปฏิบัติ หน้าที่ในตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานีได้ เนื่องจากในปี พ.ศ.2555 นายชาญ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.ปทุมธานี เกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพ

โดยในปัจจุบัน ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบภาค 1 ได้มีคำสั่งประทับฟ้อง และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาฯ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในขณะที่ศาลอาญาฯ ได้มีคำสั่งประทับฟ้อง นายชาญจะไม่ได้ดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.ปทุมธานี ก็ตาม แต่เมื่อล่าสุด นายชาญได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.ปทุมธานี ในอีกวาระหนึ่ง นายชาญ จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพ.ร.บ. ป.ป.ช. 2561 ซึ่งสอดคล้องกับความเห็น คณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565 ด้วย

---------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Oygxj4_hhzE