"ทักษิณ" มอบทนายฟ้อง "หมอวรงค์" หมิ่นประมาท เรียก 100 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร เดินทางศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้อง นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และดูหมิ่นด้วยการโฆษณา กรณีที่นายแพทย์วรงค์โพสต์เฟซบุ๊ก และปราศรัยพาดพิงกล่าวหาเรื่องถุงขนม 2,000 ล้านบาท



นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนได้รับอำนาจจากนายทักษิณ ให้มาฟ้องคดี นายแพทย์วรงค์ 2 ข้อหา คือ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานจากสิ่งที่นายแพทย์วรงค์ได้โพสต์ทางเฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก และปราศรัยที่เวทีชุมนุมที่สะพานชมัยมรุเชษฐ รวมแล้วทั้งหมดเข้าข่ายกระทำความผิด 5 กรรม เป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และเห็นว่าแต่ละกรรมมีเจตนาชัดเจน มีความเกี่ยวโยงกัน

ต้องการสื่อให้เข้าใจถึงนายทักษิณชัดเจน และพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นในกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งในส่วนของนายทักษิณเห็นว่า การกระทำของนายแพทย์วรงค์ มีเจตนาให้คนเข้าใจว่า นายทักษิณวิ่งเต้นคดีให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา และพูดถึงเรื่องถึงขนม 2,000 ล้านบาท จึงมีการเรียกค่าเสียหายด้วย กรรมละ 20 ล้านบาท รวมเป็น 100 ล้านบาท ซึ่งศาลนัดไต่สวนนัดแรกวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ซึ่งนายทักษิณจะมาเบิกความเองหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต



ทั้งนี้ สำหรับการกระทำทั้ง 5 กรรมนั้น ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อนายทักษิณ แต่พฤติการณ์นั้นก็เป็นการทำให้ผู้ฟัง ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชน เข้าใจได้ชัดเจนว่าหมายถึงนายทักษิณ โดยชี้ให้เห็นว่าคนที่มาวันที่ 18 มิถุนายนคือใคร ซึ่งก็มีนายทักษิณที่มาขอประกันตัวหลังอัยการนัดฟ้องต่อศาลอาญา รวมถึงการโพสต์ในโซเชียล ก็ติดแฮชแท็กชื่อนายทักษิณ และมาตรา 112 ทำให้คนค้นหาง่ายขึ้น



นายวิญญัติ ยืนยันว่า การฟ้องครั้งนี้ ไม่ใช่การฟ้องปิดปาก เพราะคำว่าฟ้องปิดปากนั้น ต้องใช้กับการฟ้องประชาชนที่ใช้สิทธิโดยสุจริต กระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตรวจสอบการทุจริต แต่เรื่องนี้กระทำโดยสุจริตหรือไม่ ประชาชนคิดได้ และมองออกอยู่แล้วว่านายแพทย์วรงค์มีเจตนาใด ย้ำว่า การฟ้องครั้งนี้ เป็นการแสวงหาความยุติธรรมให้นายทักษิณ เพราะถูกกระทำมาหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่แค่นายแพทย์วรงค์ แต่ยังมีอีกหลายคนที่รวบรวมพยานหลักฐานอยู่



ส่วนที่นายแพทย์วรงค์เคยบอกว่าไม่กลัว ตนก็ขอให้เอาพยานหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องถุงขนมที่กล่าวอ้างออกมา ไม่ใช่กล่าวหากันลอยๆ จับแพะชนแกะ ถ้ามีหลักฐาน แหล่งข่าวที่อ้างถึง ขอให้นำมาศาลเลย ศาลต้องการความจริงอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า สิ่งที่นายแพทย์วรงค์พูด ไม่ได้มีความจริงอยู่เลย



อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ให้คำนึงถึงกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลด้วย หากทราบว่ามีการขอข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศของบุคคลที่ถูกอ้างถึง และให้ภาพวงจรปิดโดยไม่มีหมายศาล ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของข้อมูลนั้นว่าจะใช้สิทธิอย่างไร เพราะตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่นำข้อมูลมาให้ก็ถือว่าต้องมีความผิดด้วย



เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยหรือไม่ นายวิญญัติ บอกว่า หากคนที่ล้ำเส้น ใช้สิทธิเกินส่วน มีความรู้แก้โทษตัวเอง ยอมรับ และพยายามขอโทษ ก็ยินดีพูดคุย แต่ ณ เวลานี้ ยืนยันว่า ต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่