จับตาเลือก สว.ระดับประเทศ ไลน์หลุดแฉบังคับโหวต กกต.ลั่น! ใครทำผิด โดนสอยย้อนหลัง

วันนี้ (26 มิ.ย. 67) เวลา 06.30 น. บรรดาผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทยอยเดินทางมาถึงที่อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี เรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก สว.ระดับประเทศ ในรอบสุดท้าย บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ส่วนใหญ่มาก่อนเวลา เนื่องจากแต่ละคนกังวลเรื่องรถติด บางคนมารอตั้งแต่ 05.00 น.


เมื่อมาถึงแล้วได้รออยู่ที่หน้าประตู และบางส่วนได้อยู่ในห้องรับรองผู้สมัคร โดยห้องรับรองจะให้ผู้สมัครรอได้ถึงเวลาแสดงตนเวลา 08.00 น. จากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการเลือกต่อไป


ทั้งนี้ กลุ่มคนที่เข้ามาส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีคนมีชื่อเสียง เนื่องจากตกรอบระดับจังหวัดกันไปแล้ว เป็นที่สังเกตว่า ผู้สมัครหลายคนนั่งรอกันเป็นกลุ่ม แต่งตัวคล้ายกัน เช่น ใส่สูทลำลอง มีเสื้อเหลืองด้านใน ในขณะผู้สมัครกลุ่มชาติพันธุ์ก็ใส่สวมเสื้อพื้นเมือง

------------------

ทั้งนี้ การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 มีขั้นตอนดังนี้

ผู้สมัครทั้งหมด 46,206 คน

ได้รับเลือกระดับอำเภอ 23,645 คน

ได้รับเลือกระดับจังหวัด 2,995 คน

เลือกระดับประเทศ วันที่ 26 มิ.ย. 67 เพื่อให้ได้ สว. 200 คน

คาดว่า ต้นเดือน ก.ค. จะได้ประกาศผลการเลือก สว.

------------------

ขั้นตอนการเลือก สว.ระดับประเทศ

ผู้สมัครจะต้องลงคะแนนเลือกผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดในกลุ่มเดียวกันไม่เกิน 10 คน ในบัตรสีชมพู โดยจะลงคะแนนให้กับตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้

และเมื่อปิดลงคะแนน หากผู้ใดได้รับคะแนนสูงสุด 1- 40 ลำดับแรกของกลุ่ม จะถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มนั้น แต่หากกลุ่มใดมีผู้สมัครไม่ถึง 40 คน ก็จะถือว่าผ่านเข้ารอบการเลือกขั้นต้นไปโดยปริยาย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการเลือกขั้น 2 ต่อ คือลงคะแนนเลือกผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน (แบ่งเป็น 4 สาย) ในบัตรสีเขียว จำนวนไม่เกิน 5 คน (ไม่สามารถลงคะแนนให้แก่ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มเดียวกัน หรือ เลือกตัวเองได้)

ดังนั้น เมื่อปิดลงคะแนนแล้ว หากผู้ใดได้คะแนนสูงสุด 10 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม จะกลายเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของกลุ่มนั้น ๆ

ส่วนผู้ใดได้คะแนนลำดับที่ 11-15 จะถูกนำไปอยู่ในบัญชีสำรองของกลุ่มดังกล่าว

------------------
วานนี้ 25 มิ.ย. 67 นายแสวง บุญมี เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่าจับกลโกงในการเลือกสว. ที่ไม่ง่ายจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ กกต.หมดท่า ว่า

การที่ตนเองสื่อสารไปเมื่อวาน คือรูปแบบการทุจริต หรือการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อวานเป็นเรื่องการรวบรวมหลักฐานแต่กลับถูกตีความว่า กกต. หมดท่าหรือไม่กล้าซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นไรแต่สิ่งที่อยากจะสื่อออกไปคือ อยู่ในขั้นพยานหลักฐานไม่รู้สึกเกรงกลัวหรือเกรงใจใคร ตั้งแต่มีการเลือกระดับจังหวัดได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้มีสิทธิ์เลือกทุกคน จนเข้ามาสู่รอบเลือกระดับประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัคร ผ่านเกณฑ์ระดับประเทศ 2,995 คน จากเดิม 3,000 คนโดยถูก ตัดสิทธิ์เนื่องจาก ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ที่ศาลฎีกาได้ตัดสินแล้ว โดย จะถูกลบชื่อไป 5 คน ส่วนการร้องเรียนระดับจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ 2-3 เหตุการณ์ และระดับจังหวัดอีกทั่วประเทศ เกือบ 20 คดีที่ได้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา ได้มีการยกคำร้อง และสื่อตามมติของกกต. คือดังนั้นจึงไม่มีผู้สมัครเพิ่มขึ้น มีแต่ผู้สมัครลดลง

นายแสวง กล่าวถึง การรวมกลุ่มของบรรดาผู้สมัครสว.ที่มาพักโรงแรมเดียวกัน ว่า จะมี 2 เรื่องในเรื่องเดียวกันคือ ผู้สมัครมีสิทธิ์ พักโรงแรมเดียวกัน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง คนที่มาจากต่างจังหวัด ต่างพื้นที่กัน ทำไมมาอยู่ในโรงแรมเดียวกัน จึงเป็นเบาะแสว่า จะเกินกว่าการแนะนำตัวหรือไม่

ดังนั้น เมื่อวานนี้ กกต.ได้เข้าไป ในโรงแรม 2 แห่งที่มีผู้สมัคร พักอยู่ ซึ่งพบว่า เป็นการมาพบปะ พูดคุยกัน เพื่อแนะนำตัว โดยกกต. ได้ทำหน้าที่ทั้งกระบวนการป้องกัน รวบรวมพยานหลักฐาน หากเกิดการกระทำผิด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย การจะให้ใบเหลืองใบส้ม หรือใบแดงต่าง ๆ ก็ต้องส่ง สำนวนไปที่ศาลฎีกา จะเอาเพียงความเชื่อความเห็นอย่างเดียวไปให้ศาลไม่ได้ ต้องมีหลักฐานที่ศาลพอจะเชื่อได้ว่ามีการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกสว.

ดังนั้น ขอย้ำว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากส่วนหนึ่งทำถูกกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายระบุว่า การมารวมกันแล้วผิดก็เป็นเรื่องง่าย แต่สิ่งที่ผู้สมัครทำคือเรื่องที่ถูกกฎหมาย ครึ่งหนึ่งถูกกฎหมาย ส่วนอีกครึ่งจะผิดกฎหมายหรือไม่ อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ของกกต. และพฤติกรรมของผู้สมัครด้วย โดย กกต.ได้ดำเนินงานเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงอยากให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าไม่ได้ทำงานช้า ถึงยังไม่ได้หลักฐานในวันนี้ ก็อาจได้หลังจากนี้ และหากผ่านไปเป็น สว.ก็สามารถสอยภายหลังได้ ถ้ามีหลักฐานพยานครบถ้วน

จึงฝากไปยังผู้สมัครทุกคนว่า หากมีเรื่องไม่ชอบมาพากล ก็สามารถส่งหลักฐานมาที่ กกต.เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ยอมรับว่า ในทางการข่าวของ กกต.ได้รับร้องเรียนในทุกเรื่อง แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน

--------------------

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ ระบุข้อความว่า

ค่าหัวโหวตฮั้ว 1 ล้านพร้อมเครื่องราชย์ #สภาฮั้ว #ฮั้วเลือกสว #กกตไม่รู้แต่เรารู้

1 ในบันทึกวิดีโอจากในโรงแรมแห่งหนึ่งชื่อย่อ A ย่านดอนเมืองแอร์พอร์ต ที่กลุ่มขบวนการจัดฮั้วเลือก ส.ว. เตรียมการไว้เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย. 67)

ราคากว้านซื้อเสียงโหวต จากผู้สมัครอิสระที่ไม่ได้สังกัดพรรค เริ่มต้นที่ 300,000, 500,000 - 1,000,000 บาท

แหล่งข่าวที่ได้รับการต่อรองในห้องเฉพาะกับตัวแทนนักการเมือง ยืนยันว่า มีขบวนการซื้อเสียงเกิดขึ้นจริงกับทุกคน นอกเหนือจากเงินที่แต่ละคนจะได้รับในการเข้าร่วมกลุ่มฮั้วภายใต้พรรคแล้ว จะได้รับการต่อรองสิทธิเพิ่มเช่น ผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการประจำตัว สว. 1 ใน 8 ตำแหน่ง และได้ดำรงตำแหน่ง เลขานุการ นักวิชาการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ที่จะตั้งขึ้น มีโอกาสได้รับค่าตอบแทนรายเดือนและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย

--------------------

วานนี้ (25 มิ.ย. 67) เครือข่ายภาคประชาชน จัดงานสัมมนา สว.ประชาชน ที่ห้องจูปิเตอร์เมืองทองธานี โดยผู้ที่เข้าร่วม จะได้รับเชิญเป็นการเฉพาะ 300 คนเท่านั้น เมื่อมาถึงจะมีการลงทะเบียนและแจก สายรัดข้อมือสีเขียว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเข้าสู่ห้องสัมมนา นอกจากนี้ยังยึดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพภายในห้อง

นางจีรนุช เปรมชัยพร ผู้ประสานงานเครือข่าย รณรงค์รัฐธรรมนูญ อดีตผู้สมัครสว สว. กล่าวว่าได้เชิญผู้สมัครสว. ที่เข้ารอบระดับประเทศ 300 คนเข้าร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน พร้อมมองว่าสว.ชุดใหม่เป็นปัจจัยและกลไกสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่จะนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และผู้สมัครหลายคนต้องการฟื้นฟูประชาธิปไตย ขณะเดียวกันมีเหตุผลหลักคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นการพบปะเจอหน้ากัน ระหว่างผู้ที่มีอุดมการณ์ และยืนยันว่าเป็นเพียงการแนะนำตัว ทำความรู้จักกัน หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันให้เจอ ไม่ใช่การฮั้วกัน เนื่องจากการเลือกสว.ระดับประเทศ หลายคนอาจจะไม่รู้จักกัน โดยเฉพาะการเลือกข้ามกลุ่มอาชีพ

นางจีรนุช กล่าวว่า แม้จะมีกระแสข่าวว่ามีคนของกลุ่มบ้านใหญ่ หรือกลุ่มจัดตั้ง แต่ก็มีคนอิสระ สมัครเข้ามา ซึ่งมาโดยความบริสุทธิ์ และผ่านเข้ารอบ มาตามคุณสมบัติ ดังนั้นวันนี้มาเจอเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน แนะนำตัว ตามกติกา ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครไม่เคว้ง และสู้บ้านใหญ่ได้ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดรูปแบบในการสัมมนา แต่ยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย สามารถจัดได้ ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ต่างคนต่างมา ไม่ใช่การฮั้ว ที่มีการให้อามิสสินจ้าง หรือจูงใจให้ตำแหน่ง ซึ่งมีความผิด แต่การล็อบบี้เป็นเรื่องที่ไม่ผิด ล็อบบี้ไม่เท่ากับฮั้ว

--------------------
มีประเด็นที่ไลน์กลุ่ม ผู้สมัคร สว. กลุ่มหนึ่ง ใช้ชื่อว่า สว.ประชาชน มีผู้สมัครการประท้วงกันถึงการล็อบบี้ให้มีการเลือกผู้สมัครที่ทางกลุ่มวางตัวไว้

โดยผู้สมัครรายหนึ่งพาดพิง ถึง ไอลอว์ และย้ำว่า ผู้สมัคร สว. ทุกคนย่อมมีเอกสิทธิ์ในทางการเมือง เพราะใช้เงินของตัวเองสมัครเข้ามา จะบังคับให้คนทั้งหมดเทคะแนนสนับสนุนคนของคุณ ถามว่าคุณมีอำนาจอะไร และถามอีกว่า “เผด็จการหรือไง”

แต่ต่อมา ได้มีการดีดผู้ใช้ไลน์คนนี้ออกไป

--------------------
ด้าน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ แห่ง iLaw ได้ทวีตข้อความว่า

ใครก็ไม่รู้ส่ง LINE ไปในกลุ่มอะไรก็ไม่รู้ บอกว่าใครก็ไม่รู้ขอให้ลงคะแนนให้ใครก็ไม่รู้

แต่อ้างชื่อว่าไอลอว์สั่ง!! 

ไลน์แบบนี้ใครจะส่งจะแคปก็ได้

จะแปลกนะ ถ้ามีคนเชื่อว่าผมสามารถไปสั่งได้ว่าให้ใครลงคะแนนให้ใคร ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าใคร??

ใครส่งไลน์นี้เปิดหน้ามาเคลียร์กันเลยดีกว่า

--------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nnNJYr1__LU