เลือกตั้งและการเมือง
คนเพื่อไทยเรียงหน้าซัด 'หญิงหน่อย' หลังปูดจะแก้ รธน.โละปาร์ตี้ลิสต์ ไล่ไปทำพรรคตัวเองให้ดีก่อน
โดย nattachat_c
25 มิ.ย. 2567
45 views
จากกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งของ The Standard โดยมีช่วงหนึ่งบอกว่า ได้ข่าวจากคนในพรรคเพื่อไทยบอกว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะแก้ให้ไม่มี สส.บัญชีรายชื่อ เป็นคำบอกเล่า จริงหรือไม่จริง ไม่รู้ เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการชนะ 'ก้าวไกล' คือรวบรวมบ้านใหญ่ และ ไม่มี สส.บัญชีรายชื่อ
วานนี้ (24 มิ.ย. 67) คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ว่า เรื่องนี้จะเลอะเทอะหรือไม่ ให้ไปถามกันเองในพรรคเพื่อไทย บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่มีคนนั่งฟังกันหลายคน และถ้าจะไม่เป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ขอให้นายเศรษฐาทำสัญญาประชาคมออกมาเลยว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
ต่อมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวคิดดังกล่าว เราเชื่อว่าการเมืองต้องมี สส.ทั้งสองส่วน สส.เขตต้องทำงานใกล้ชิดประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาแล้วหาแนวทางแก้ปัญหาให้เขา สส.บัญชีรายชื่อต้องอยู่ส่วนกลางคอยคิดนโยบาย หาแนวทางทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น นี่คือปรัชญาของพรรคเพื่อไทย
คุณหญิงสุดารัตน์เคยอยู่เพื่อไทยมา น่าจะรู้ตรงนี้ ทำไมถึงไปพูดไม่ตรงกับปรัชญาและสิ่งที่พรรคเพื่อไทยยึดถือปฏิบัติ ที่ทำให้ผมสงสัยคือ ทำไมคุณหญิงสุดารัตน์รู้ดีกว่าคนเพื่อไทย และสงสัยว่าการที่อ้างพรรคพวกในเพื่อไทยนั้น เป็นพรรคพวกในเพื่อไทยจริงๆ หรือว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์คิดเอาเองกันแน่
อยากถามว่ายังไม่หายโกรธพรรคเพื่อไทยหรืออย่างไร ผมอยากให้เราต่างคนต่างอยู่ พยายามพัฒนาพรรคของตัวเองให้เติบโต เพื่อไทยเราพยายามปรับปรุงพรรคอยู่ เห็นได้ว่าการอภิปรายงบฯ มีการพัฒนาการเมืองให้สร้างสรรค์มากกว่าที่เคยมี และให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ขอให้ต่างคนต่างทำพรรคของตัวเองให้ดีขึ้น ๆ จะดีกว่า
ด้าน สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่า ไม่เข้าใจว่าอยู่กันเฉย ๆ ไม่ได้หรืออย่างไร ชอบปั่น ชอบอะไรแบบนี้ และเรื่องนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกอย่างมีขั้นตอน ซึ่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ก็มีทุกพรรคการเมืองอยู่ด้วย ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ใครจะไปทำอะไรได้ดั่งใจ
เราไม่มีความคิดที่จะทำด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเลย ทุกพรรคต้องหวังบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว และผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นข่าวเช่นนี้ได้ ทำไมคุณหญิงสุดารัตน์ถึงไปพูดแบบนั้น
รับประกันได้ว่าในที่ประชุมพรรคไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย ขอให้พูดมาเลยว่าใครเป็นคนพูด แบบนี้ตนก็พูดได้ว่าคนในพรรคไทยสร้างไทยมาบอกตนเช่นนั้นเช่นนี้ ตนอยากให้มีความราบรื่นในการทำงานดีกว่า
นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พูดถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้น่าจะเป็น "จินตนาการบริสุทธิ์" ของคนที่พูด เพราะในพรรคเพื่อไทยไม่มีการพูดคุยกันเลย ตนไม่เคยได้ยิน และคงจะไม่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายประเด็น เพื่อยกเลิก ส.ส.บัญชีรายชื่อ
และย้ำว่า การจุดประเด็นคงไม่สามารถลดทอนความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยว่าวันๆ เอาแต่จะแก้กฎ กติกาเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ ซึ่งไม่เคยคิดที่จะทำเช่นนั้น เพราะสิ่งที่พรรคดำเนินการไปแล้ว คือเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. ไปร่างรัฐธรรมนูญ
คุณนพดล บอกว่า สมมุติว่ามีแนวคิดที่จะยกเลิก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ยากที่จะผลักดันให้สำเร็จได้ เนื่องจาก สว.และ สส.ฝ่ายค้านสามารถบล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 นั้น จะต้องได้เสียงฝ่ายค้านสนับสนุนอย่างน้อยร้อยละ 20 และ สว. 67 เสียง จึงจะผ่านได้ ถ้าจะเรียกว่าฝ่าย ส.ว.และฝ่ายค้านมีสิทธิวีโต้ก็พูดได้
ดังนั้น จึงอย่าไปเสียเวลามาถกเถียง ในประเด็นที่ไม่มีอยู่จริง และไม่เป็นความจริง เลย
ส่วน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบอกว่า เสียดาย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์...ใส่ต่างหูบ้าง อย่าหูเบา พร้อมกับโพสต์คลิป บอก คุณหญิงคงจะลืมหลัก กาลามสูตร ที่ไปเรียนมาจาก มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (คุณหญิง จบ ป.เอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตที่นั่น) ที่บอกอย่าเพิ่งไปเชื่อเพียงเพราะมีคนมาเล่าให้ฟัง ยืนยันเป็นไปไม่ได้ ที่จะยกเลิก สส.ปาตี้ลิสต์
คุณอดิศร บอกผมไม่ได้อยากเอ่ยชื่อท่านนะ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไปแล้วก็ไปเลยเถอะครับ อย่ามาพูดอะไรผิด ๆ แม้แต่นายกฯ ยังบอกว่า เลอะเทอะ
คุณอดิศร บอกอีกว่า อย่างสร้างโรงงานน้ำแข็งในพรรคของท่านเลย (ปั้นน้ำเป็นตัว) เอาตัวให้รอดก่อน เพราะตั้งแต่ออกจากเพื่อไทย ในแวดวงทางการเมืองก็ไม่ค่อยต้อนรับท่าน ริบรี่ไปเรื่อย เลยต้องออกมาโหนกระแส แต่ ยิ่งพูดก็ยิ่งเละ
---------------------
ด้าน เพจ พรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความระบุว่า
โล๊ะ หรือลด Party List จะจริงเท็จ เลอะเทอะหรือไม่?
คุณเศรษฐา และพรรคเพื่อไทยต้อง เป็นผู้ยืนยัน “เป็นสัญญาประชาคม” ต่อประชาชน ว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อความได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางการเมืองของนักการเมืองเท่านั้น และต้องให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากประชาชนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ภายในเวลารวดเร็ว โดยไม่ใช้เทคนิคการถ่วงเวลา
ดิฉันอยากเห็นรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย อยู่บนพื้นฐานของการดูแลสิทธิ และโอกาสของประชาชน อย่างทั่วถึงทัดเทียม รวมทั้งสามารถรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคง โดยไม่ปล่อยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีวาระซ่อนเร้น เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และเพื่อเตรียมการ ให้มีโอกาสชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไปมากที่สุดเท่านั้น ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน และอาจเป็นชนวนนำมาสู่ ความวุ่นวายของบ้านเมืองในอนาคต
สำหรับแนวคิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดจำนวนหรือยกเลิกสส.ระบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ตามที่ปรากฏข่าวไปแล้ว จะเป็นเรื่องเท็จ หรือเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องที่เลอะเทอะ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีต้องให้คำมั่น เป็น“สัญญาประชาคมกับประชาชน” ว่าจะไม่มีการแก้ไข และการยกเลิกหรือลดจำนวน สส.ปาร์ตี้ลิสต์ หรือ สส.แบบบัญชีรายชื่อ เพราะเจตนารมณ์ของการกำหนดให้มี สส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อให้พรรคการเมือง ได้คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและมีความชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อนำความรู้มาช่วยในการพัฒนาประเทศชาติ
อีกทั้งปรากฎว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบัตรใบเดียว เป็นบัตรสองใบ และมีการลดจำนวน สส.ปาร์ตี้ลิสต์ จาก 150 คนให้เหลือ 100 คน เพื่อเพิ่มสส.เขตจาก 350 เป็น 400 คนมาแล้ว
รวมถึงหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก่อนเลือกตั้งพูดอย่าง หลังเลือกตั้งทำอีกอย่าง แล้วบอกว่าเป็น “เทคนิคการหาเสียง” ซึ่งทำให้ระบบการเมืองถูกมองว่า“เลอะเทอะที่สุด” ในยุคนี้ ทั้งที่ประชาชนต้องการการเมืองที่มี“คุณภาพและคุณธรรม” และต้องการความจริงใจจากนักการเมือง
เคยบอกให้สัญญากับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับ 3ป.เพราะรังเกียจเผด็จการ ด่าเขาสารพัด
ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ยอมตระบัดสัตย์ กับคนที่ตนเคยด่าเขาว่าเป็นเผด็จการ และก็ไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
บอกกับประชาชนว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาล จะลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันทันที แต่จนถึงวันนี้ ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย กระทบรายได้ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง
และยังบอกว่า เมื่อได้เป็นรัฐบาลจะแจกดิจิทัลวอลเลททันที ไม่กู้ซักบาท แต่สุดท้ายต้องกู้ทุกบาท และจนถึงตอนนี้ประชาชนก็ยังไม่ได้สักบาท หรือหากได้ ก็มาพร้อมกับภาระหนี้สินมหาศาลถึง 500,000 ล้านบาท ของคนไทยทุกคนไปพร้อม ๆ กัน เป็นการแบกรับความเสี่ยง ทางการเงินและการคลังในระยะยาว
รวมทั้งยังมีอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้เดินหน้าตามที่ได้ประกาศไว้ตอนหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูประบบราชการ, ปฏิรูปการศึกษา, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย และอีกหลากหลายนโยบายสวยหรู โดยเฉพาะจะทำให้ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน
จึงขอถามคุณเศรษฐาในฐานะหัวหน้ารัฐบาลว่า นโยบายเหล่านี้ และอีกหลายนโยบายที่เคยพูดไว้ เป็นเพียงเทคนิคการหาเสียงใช่หรือไม่ ถ้าทำแน่นอน จะทำเมื่อไหร่ ตอบประชาชนให้ชัดเจน อย่าพูด“เลอะเทอะ”
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย
------------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rDhiXULmimk