'เศรษฐา' ลั่นเลอะเทอะ แก้รธน. ตัดสส.ปาร์ตี้ลิสต์ 'พิธา' ไม่กังวล เผยเราชนะเกมที่ดีไซน์ให้เราแพ้มาตลอด

เศรษฐา ลั่นเลอะเทอะ ปมแก้รัฐธรรมนูญ ตัด สส.บัญชีรายชื่อออกทั้งหมด เหลือแค่ สส.เขต 500 คน เพื่อสกัดก้าวไกล ยันเพื่อไทยไม่เคยพูดเรื่องนี้ ชี้แก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ต้องผ่านรัฐสภา ด้าน พิธา ไม่กังวล ลั่นไม่ว่าเกมจะเป็นยังไง เราก็ชนะในเกมที่เขาดีไซน์ให้เราแพ้มาโดยตลอด


เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่า มีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ สส. มีที่มาจากระบบเขตทั้งหมด 500 ที่นั่ง ตัดระบบบัญชีรายชื่อออกไปทั้งหมด เพื่อสกัดพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยนายกฯถามกลับทันทีว่า ข่าวมาจากไหน ผู้สื่อข่าวจึงตอบไปว่ามาจากฝ่ายค้าน


ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวต่อว่า ผมไม่ทราบและไม่เคยได้ยิน ส่วนตัวมองว่า น่าจะเป็นเรื่องของเกมการเมือง เป็นเพียงข่าวมาจากที่อื่น ซึ่งตนไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย และไม่ได้อยู่ในวาระของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ต้องผ่านรัฐสภาอยู่แล้ว


ตนในฐานะฝ่ายบริหารและทำงานอยู่ในพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีการพูดคุยกัน แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้


เมื่อถามว่า การให้ข่าวเรื่องนี้ถือว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ นายกฯบอกว่า เป็นธรรมดาของการเล่นการเมือง เพื่อให้เกิดความสับสน แต่เราขอมุ่งแก้ไขปัญหาของประชาชนดีกว่า เมื่อมีคำถามว่าหน้าที่ตนก็คือต้องตอบไป และส่วนตัวก็คิดว่าไม่มีอะไรเลย ขณะที่ผู้ใหญ่ภายในพรรคเองไม่ว่าจะเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม รวมถึง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เมื่อตอนที่ได้ยินคำถาม ผมก็เหล่ตามอง ทั้ง 2 คนก็ยังยิ้มเลย พร้อมยืนยันว่า ไม่มีใครพูดในเรื่องนี้ ก่อนจะบอกทิ้งท้ายว่า "เลอะเทอะครับ"


ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนจะตอบต้องบอกว่า เมื่อวานนี้ตนปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดอุดรธานี และยังไม่มีโอกาสได้ฟังข้อมูลดังกล่าว จึงยังไม่ทราบบริบททั้งหมด แต่ในหลักการคือการแก้รัฐธรรมนูญจะต้องแก้โดยให้ประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชน ไม่ควรแก้เพื่อให้ประโยชน์ตกอยู่ที่นักการเมือง เป็นหลักที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นต้องเน้นว่า "การแก้รัฐธรรมนูญคือการคืนอำนาจให้กับประชาชนในระยะยาว" และทำให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุด ไม่ใช่แก้เพื่อให้พรรคหนึ่งได้ประโยชน์กับการแก้รัฐธรรมนูญ


เมื่อถามว่าการแก้ไขไปในทิศทางดังกล่าว มีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน นายพิธา กล่าวว่า สิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริงในสมัยที่แล้ว คือการแก้ไขสัดส่วน สส.แบบแบ่งเขต จาก 350 คนเป็น 400 คน และปรับสัดส่วน สส.แบบบัญชีรายชื่อจาก 150 คน เหลือ 100 คน และมีการปรับวิธีการคำนวณ "เพราะฉะนั้นผมไม่ได้กล่าวหาว่าจะทำให้พรรคได้พรรคหนึ่งได้ประโยชน์ เพราะยังไงที่ผ่านมาพรรคของเราก็ชนะอยู่ดีถึงแม้ว่าจะมีการแก้ ดังนั้นถ้าหลังจากนี้จะมีการปรับสัดส่วนจาก 400 คนให้มีมากขึ้นไปอีก ผมมองว่ามีความเป็นไปได้ในสภา"


นายพิธา กล่าวว่า ตนขอยึดหลักสำคัญว่าการแก้รัฐธรรมนูญมีความจำเป็น รัฐธรรมนูญปี 2560 คือระเบิดเวลา หากจะแก้ต่อไปต้องเอาประชาชนเป็นตัวหลักและให้ประชาชนได้ประโยชน์ อย่าให้พรรคใดพรรคหนึ่งได้ประโยชน์มากกว่ากัน หากกฎหมายสูงสุดของประเทศทำให้การเลือกตั้งหรือการเข้าสู่อำนาจไม่ยุติธรรมและเอนเอียง จะกลายเป็นระเบิดเวลาลูกต่อไป แทนที่จะสามารถแก้ระเบิดเวลาได้ก็จะก่อให้เกิดความขัดแย้งใหม่ในที่สุด


นายพิธา กล่าวว่า สำหรับพรรคก้าวไกล ไม่กังวลใจอะไร เพราะเอาประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้งมาก่อนความสามารถในการแข่งขันของพรรคเสมอ "เราเชื่อในตัวเราว่า ในอดีตที่ผ่านมาไม่ว่ารูปแบบเกมจะเป็นยังไง เราก็ชนะในเกมที่เขาดีไซน์ให้เราแพ้มาโดยตลอด"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MXhPkjp-eGc