“พิธา” สอนมวยรัฐบาล เรียงลำดับความสำคัญ เอา “คนไทย” เป็นที่หนี่งก่อน หลัง มท. เตรียมศึกษาการแก้ไข กม.อสังหาฯ

“พิธา” สอนมวยรัฐบาล เรียงลำดับความสำคัญ เอา “คนไทย” เป็นที่หนี่งก่อน หลัง มท. เตรียมศึกษาการแก้ไข กม.อสังหาฯ ปรับสัดส่วนต่างด้าวมากขึ้น แนะ ถ้าทำเองจะจัดการคนในชาติดีก่อน ค่อยเริ่มคิดเรื่องดึงดูดนักลงทุน ชี้ 3 ใน 4 ของคนไทยยังไม่มีที่ดินทำกิน ฝาก รบ.ให้รอบคอบ บอกทรัพยากรมีจำกัด ยกโมเดล “ฮ่องกง” สุดท้ายห้องชุดกลายเป็นกรงนกเล็กๆ



22 มิ.ย. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการที่กระทรวงมหาดไทย เตรียมศึกษาแก้ไขกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารชุดของต่างด้าว จากเดิม 49% เป็น 75% ของห้องชุด และการเช่าที่ดินขยายเป็น 99 ปี ว่า คล้ายกับสิ่งที่เคยมีการพูดคุยกันในสมัยรัฐบาลชุดก่อน ในความคิดของตน ตนคิดถึงการเรียงลำดับความสำคัญว่าปัญหาที่ดินทำกินของคนไทยเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาเป็นเวลานาน



“ถ้าเป็นเราก็คิดว่าน่าจะเรียงลำดับความสำคัญของที่ดินทำกิน เรื่องกรรมสิทธิ์ของคนไทยมาก่อน ถ้าเราทำได้ดี ทำได้อย่างต่อเนื่อง มีงบประมาณเพียงพอ อาจจะอยากเริ่มคิดเรื่องแบบนี้ ในการดึงดูดการลงทุน โดยการทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ศูนย์กลางนานาชาติ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผมยังต้องปักธงในตอนนี้ เพียงแต่คิดว่าการเรียงลำดับความสำคัญก็น่าจะเป็นเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่ 3 ใน 4 ของคนไทยไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ก็ต้องอยู่ในที่ สปก.บ้าง เช่าเขาบ้าง ที่ราชพัสดุบ้าง” นายพิธา กล่าว



ส่วนจะเป็นการเอื้อให้นายทุนอสังหาฯ หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ก็ต้องรอดูผลการศึกษาว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง อาจจะดีสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอนนี้อาจจะมีสต๊อกเยอะ ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นตาม สำหรับคนชนชั้นกลางที่อาจจะต้องอยู่ในคอนโด อาจจะต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้นไปด้วย ซึ่งต้องศึกษาข้อเท็จจริง พร้อมยกตัวอย่าง ฮ่องกง พอเปิดให้ชาวต่างชาติได้สิทธิ์มากขึ้น ทำให้ที่อยู่ของคนฮ่องกงกลายเป็นกรงนกเล็กๆ



เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรกับรัฐบาลนี้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องรอบคอบและเอาคนไทยมาเป็นที่หนึ่ง แน่นอนว่าทรัพยากรมีจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลางบประมาณ ก็ขอให้เรียงลำดับความสำคัญกับพี่น้องคนไทยทั่วประเทศก่อน

ลูกอ้อน “พิธา” ปาฐกถาขอเป็นเขยอุดรฯ ปิดงาน “ก้าวไกล Policy Fest” บอกคิดฮอตหลายๆ เหน็บแสบนายกฯ “รถเฟอร์รารี่” นั่งได้ทีแค่ 2 คน ราคาก็ร่วม 30 ล้าน ลั่น ผมขอเมดอินไทยแลนด์ ไม่เมดอินอิตาลีดีกว่า ชี้ สร้าง “อิเล็กทรอนิกส์บัส” ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพชาวอีสานได้ด้วย มองควรให้คนไทยมีที่ดินทำกิน ก่อนปลดล็อกต่างชาติซื้อคอนโด




22 มิ.ย. 2567 ที่ยูดีทาวน์ จ.อุดรธานี ภายในงาน“ก้าวไกล Policy Fest อุดรจ้วดๆ” เพื่อโชว์วิสัยทัศน์ เปลี่ยนอุดรธานี เปลี่ยนอีสาน เปลี่ยนประเทศไทย และเปิดตัวผู้สมัคร นายก อบจ.อุดรธานี เป็นไปด้วยความคึกคัก มีพี่น้องชาวอุดรมาร่วมกิจกรรมกันต่อเนื่อง ซึ่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ได้กล่าวปาฐกถาปิดงานเป็นคนสุดท้าย ในหัวข้อ “อนาคตอุดรที่ก้าวไกล Udon Beyond Limits”



โดยนายพิธา กล่าวทักทายว่า “คิดฮอตหลายๆสบายดีบ่ คิดฮอตขนาดไหนเที่ยงคืนอยู่สภา วันนี้มาอุดรธานี เว่าอีสานบ่ได้ต้องขอโทษด้วย พร้อมแซวว่าหรือต้องมาเป็นเขยอุดรใช่หรือไม่ แต่มาอุดรได้มาเห็นอาหารการกินดีๆ ศักยภาพการท่องเที่ยวดีๆของอุดรธานี และเมื่อวานเพิ่งจะอภิปรายงบประมาณเสร็จ เว่าอีสานยังบ่ได้ ต้องโทษทีมงาน สส. บอกซ้อมให้หัวหน้า ยังเว่าไม่ได้สักที



นายพิธา กล่าวต่อว่า ความตั้งใจคือต้องการให้การเมืองเป็นเรื่องสนุกและเป็นเรื่องเข้าถึงได้กับพี่น้องทุกคน และจุดแข็งของชาวอุดรธานี และชาวอีสาน ก็คือคนอีสาน แต่ก็ยังมีอุปสรรคยังมีข้อจำกัดอีกมากมาย อย่างเมื่อวานได้อภิปรายเรื่องงบประมาณแผ่ยดินใช้ปีละ 3.7 ล้านล้านล้านบาท แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตรงจุดในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้อง ทำให้อุดร Udon Beyond Limits อย่างที่วางไว้หรือไม่



ทั้งนี้ พี่น้องชาวอีสาน ชาวอุดร ถูกจำกัดไว้หลายอย่าง แต่พรรคก้าวไกลของเราไม่เหมือนพรรคอื่น เพราะคิดถึงวาระเฉพาะกาลด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะหน้า เนื่องจากยังมีเรื่องที่ซ่อนไว้ใต้พรมอีกมากที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างน้อยที่สุดคือเรื่องอำนาจในการตัดสินใจ งบประมาณ และอำนาจเกี่ยวกับกฎหมาย ดังนั้นคนที่เป็นนักการเมืองที่ดีต้องมี3อำนาจนี้ และการเลือกตั้งครั้งหน้าขอเสียงให้พรรคก้าวไกลมากขึ้นอีก2เท่า เพื่อให้ได้มีอำนาจ ในการนำมากระจายอำนาจมากขึ้น เพราะที่ผ่านมางบประมาณไม่ตอบโจทย์คนอุดรธานี และที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลก็มาหาเสียงที่อุดรธานี ซึ่งมองว่ากฎหมายที่จะต้องมาปลดล็อกชาวอุดรจะมีทั้งหมด 13 ฉบับ โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน 75% ในประเทศนี้ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง



ทั้งนี้ นายพิธา ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ครม.สั่งให้กระทรวงมหาดไทย แก้กฎหมายช่วยอสังหาริมทรัพย์ให้ต่างชาติซื้อคอนโดเพิ่ม จาก 49% เป็นไม่เกิน 75% ว่า ตนเองจะไม่ว่าอะไรเลย ถ้าแก้ปัญหาที่ดินให้คนอุดรฯ ก่อน รัฐบาลคนไทยก็ควรแก้ปัญหาให้คนไทยก่อนคนต่างด้าว ถ้าทำไปพร้อมๆกันตนเองไม่ว่า เพราะเราไม่ได้เป็นฝ่ายค้านที่ค้านทุกเรื่อง แต่เราเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่เอาประชาชนมาเป็นที่ตั้ง ดังนั้นหากอยากขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจ อสังหาริมทรัพย์ก็มาค่อยมาคุยกันได้เพราะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่75% ยังคนไทยยังไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของตัวเองเป็นไปได้อย่างไร



“สปก.ก็ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ แล้วถ้าไม่มีกรรมสิทธิ์ ไม่มีโฉนด เอาที่ดินพวกนี้ไปตึ๊งแบงค์ได้หรือไม่ เอาไปให้ ธกส.ก็ไม่ให้มูลค่า ดอกเบี้ยก็คิดสูง แล้วแบบนี้ก็เป็นข้อจำกัด แล้วความคิดสรา้งสรรค์ ความเป็นมืออาขีพของชาวอีสาร ของคนอุดรฯ จะได้รับการปลดล็อกได้อย่างไร” นายพิธา กล่าว



ดังนั้นจึงต้องให้ชาวอุดรฯ ได้เข้าใจว่าภาษีที่ถูกเก็บไป คนรวยดีมีจนเสียภาษีเท่ากันหมด แต่เงินรายได้ไม่เท่ากัน จึงต้องการได้อำนาจรัฐในการตัดสินใจ อำนาจในการบริหารงบประมาณ และอำนาจในการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้อุดรก้าวไปข้างหน้าได้ นี่คือการทำทำ Policy Fest การทำการเมืองแบบของพรรคก้าวไกล



นายพิธา ยังพูดในช่วงท้ายด้วยว่า ที่นายกรัฐมนตรีเปรียบเทียบประเทศไทย เป็นเหมือนรถที่ยังไม่วิ่งเต็มสูบ เหมือนรถเฟอร์รารี่ 12 สูบ แต่วิ่งอยู่แค่ 6 สูบ นั้น



“ท่านนายกน่าจะหมายถึงเฟอร์รารี่ รุ่น 812 ซุปเปอร์ฟาส ราคาประมาณ 30 กว่าล้าน นั่งได้แค่ 2 คน ไม่รู้ใครในที่นี่รวมถึงผมจะมีโอกาสซื้อรถคันละ 30-40 ล้านเหมือนกับคน 1%ในประเทศไทยที่เขาซื้อได้ ถ้าเขาอยากจะเป็นเฟอร์รารี่ ผมขอเป็นอิเล็กทรอนิกส์บัสที่ทำในภาคอีสานได้หรือไม่ มันอาจจะช้าแต่มันไปด้วยกันได้ เฟอร์รารี่นั่งได้ 2 คน แต่รถบัสอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำโดยฝีมือเมดอินอีสานนั่งได้ทีละ 20 คน ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างงานให้คนอีสาน บัส 1 คัน 7 ล้านบาท เฟอรารี่ 1 คัน เท่ากีบรถอีฯบัส 5 คัน 2 คนกับ 100 คน ผมขอเป็น สส.ฝ่ายค้านที่ดูแลคน 100 คนให้ไม่ทอดทิ้งสิ่งแวดล้อม สร้างงานให้กับประเทศไทย ผมขอเมดอินไทยแลนด์ ไม่เมดอินอิตาลีดีกว่า” นายพิธา กล่าว