เลือกตั้งและการเมือง

“แบงค์ ศุภณัฐ” อัด กทม. ยกคณะ “ลู่วิ่ง 7แสนกว่า” ไม่ผ่านตาบ้างเลยหรือ เหน็บด้วยกึ๋น-สามัญสำนึกมันต้อง “เอ๊ะ”

5 มิ.ย. 2567

1.6K views

วันนี้ (5 มิ.ย. 2567) นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมือง ช่อง 3 ถึงการที่ออกมาตั้งคำถามเรื่องเครื่องออกกำลังกายที่ กทม.จัดซื้อแพงกว่าท้องตลาด ว่า ยุคของ 2 ผู้ว่าฯ กทม. ตั้งแต่พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง มาจนถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตั้งงบแพงทั้งคู่ ตนเข้าใจว่าการเริ่มซื้อของแพง เริ่มมาในยุคพลตำรวจเอกอัศวินมาก่อน


“เท่าที่ผมเข้าใจโดยพฤติการณ์ คิดว่าอาจจะเริ่มจากลองเสนอสัก 2 แสนกว่าบาทดูก่อนว่ามันเป็นอย่างไร แล้วบังเอิญ 2 แสนกว่าบาทในปี 2562 มันทำได้ งบมันเลยเริ่มมีการขยับราคาเกิดขึ้น โดยการไปสืบราคากลางมา แล้วขยับขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยเครื่องออกกำลังกาย มันเป็นของเฉพาะ อาจจะไม่ได้อยู่ในลิสต์บัญชีราคากลาง ทำให้ต้องสืบราคากลางจาก 3 เจ้า ซึ่งอาจจะเป็น 3 เจ้าหน้าเดิม หรือหน้าใหม่ เดี๋ยวต้องไปดู” นายศุภณัฐ กล่าว


นายศุภณัฐ กล่าวต่อว่า กระบวนการหลังจากนั้นได้มีการเปิดการประมูล ซึ่งก็จะมีบริษัท 3 เจ้าที่สืบราคา มาเสนอประมูลต่อ นอกจากนี้ตนยังพบว่ายังมีอัตราการขึ้นของราคาที่ค่อนข้างโดดเด่น


“ในปี 2562 ลู่วิ่งไฟฟ้า ซื้อกันเครื่องละประมาณ 2 แสนกว่าบาท แล้วพอมาปี 2566 ราคาล่าสุด 759,000 บาท ขึ้นมา 3 เท่าตัว ผมคิดว่าอาจจะมีการปรับสเปกนิดหน่อยแหละ แต่สภาพแล้วเนี่ย เราต้องรู้ตั้งแต่เราซื้อชุดแรกแล้วว่า 2 แสนในตอนแรก มันเหมาะสมที่จะได้มาหรือไม่ แค่เอายี่ห้อไปเปิดกูเกิลไปสืบราคาแปบเดียว คุณจะรู้ว่าที่ของหลวงซื้อมา มันแพงกว่ากันกี่เท่า” นายศุภณัฐ กล่าว


นายศุภณัฐ ยกตัวอย่างว่า มีโครงการหนึ่ง ปี 2565 สมัยปลายของพลตำรวจเอกอัศวิน ซึ่งตนได้ข้อมูลมา ปรากฏว่าสินค้ากลางที่ กทม.ไปสืบมาในราคา 3.5 แสนบาท ตนเอาราคาของพวกนี้มาเปรียบเทียบกลับต่ำกว่า 4 เท่าตัว


นายศุภณัฐ กล่าวอีกว่า ตนเคยตั้งคำถามเรื่องใบราคาไปยังสำนักงบประมาณของ กทม. ในชั้นอนุกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร สำนักงบฯ ก็ยอมรับว่ามีจุดอ่อนในการสืบค้นราคา พร้อมย้ำว่าในกระบวนการสืบราคานั้น ราคาทั้ง 3 บริษัทใกล้กันหมดเลย จึงสงสัยว่ามีพรายกระซิบหรือไม่ อีกทั้งสเป็คเครื่องออกกำลังกายทั้ง 3 เจ้ายังเหมือนกันอีก เป็นยี่ห้อเดียวกันมาเสนอให้กับหลวง


“มันเป็นที่น่างง ว่าทำไม 3 เจ้านี้ ตั้งราคาของแต่ละชิ้นใกล้กันหมด ทั้งที่ของเหล่านี้ที่มีการสืบมาได้ ผมยังสามารถหาได้ต่ำกว่าที่ 3 บริษัทมายื่นให้ กทม. 3-4 เท่า ทำให้มันมีโอกาสคิดได้ว่าจงใจหรือแท็กทีมกันหรือไม่” นายศุภณัฐ กล่าว


เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงนายชัชชาติเรื่องปัญหานี้หรือไม่ นายศุภณัฐ ระบุว่า นายชัชชาติต้องมีการตรวจสอบเกิดขึ้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ตัวนายชัชชาติ แต่ทั้งรองผู้ว่าฯ ผอ.สำนักวัฒนธรรม รวมไปถึงสภา กทม. สก.ที่นั่งกันอยู่ และสำนักงบฯ


“มันมีส่วนที่ต้องผ่านตาพวกท่าน แต่ทำไม๊ทำไมไม่มีใครพูดถึงแม้แต่คนเดียว เครื่องออกกำลังกาย ลู่วิ่ง 7 แสน ใครได้ยินครั้งแรก ด้วยกึ๋น ด้วยสามัญสำนึก มันต้องเอ๊ะทันที มันคิดได้แล้ว เพราะหลายคนมีลู่วิ่ง ผมมั่นใจว่าถ้าวันนี้ผมไปที่สำนักวัฒนธรรมกีฬาของ กทม. จะพบว่าเจ้าหน้าที่บางคนมีลู่วิ่งอยู่ในบ้านตัวเอง ผมถามว่าลู่วิ่งในบ้านตัวเองเนี่ยกี่บาท สก.แต่ละคนมีลู่วิ่งในบ้านตัวเอง ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ แต่ละคนก็ต้องมีลู่วิ่ง ผมเชื่อ แล้วคุณซื้อกี่บาท แล้ว ณ วันนี้ คุณปล่อยให้มีการซื้อลู่วิ่ง 7.5 แสน เป็นไปได้ไง ทำไมคน 20 คนพร้อมใจกันมองไม่เห็นเลยสักคน” นายศุภณัฐ กล่าว


นายศุภณัฐ ตั้งคำถามทิ้งท้าย ถึงประสิทธิภาพในการกลั่นกรองงบประมาณของสภา กทม. เพราะมีอีกหลายโครงการที่ปล่อยให้ใช้ราคานี้ต่อเนื่องกัน ตนมองว่าแปลก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ