เลือกตั้งและการเมือง

เทียบจีดีพีไทย 20 ปี 8 รัฐบาล 3 ปีรั้งท้ายอาเซียน 'เศรษฐา' นั่งไม่ติด นัดถก รมต.เศรษฐกิจ

23 พ.ค. 2567

651 views

จากกรณี สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/67 ขยายตัวเพียง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำที่สุดในอาเซียน 


ทำให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เผยว่า ในวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเรียกรัฐมนตรี และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยกันในช่วงเวลาประมาณ 16:00 น. ซึ่งไม่ได้เรียกใครมาเพื่อต่อว่า แต่จะเป็นการมาพูดคุยหามาตรการ หรือไอเดียต่าง ๆ ที่จะต้องทำตั้งแต่เรื่องนโยบาย และการผันเงินผ่านกรมบัญชีกลาง เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อมานั่งแก้ไขปัญหากัน


ทางรายการได้ค้นหาข้อมูลเทียบ GDP 20 ปี ล่าสุด พบว่า 

ปี 2547 - 6.1%

ปี 2548 - 4.5%

ปี 2549 - 5.2% (รัฐประหาร)

ปี 2550 - 4.9%

ปี 2551 - 2.6%

ปี 2552 - ติดลบ 2.3% (วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์)

ปี 2553 - 7.8%

ปี 2554 - 0.1% (วิกฤติน้ำท่วมใหญ่)

ปี 2555 - 6.4%

ปี 2556 - 2.9%

ปี 2557 - 0.7% (รัฐประหาร)

ปี 2558 - 2.9%

ปี 2559 - 3.2%

ปี 2560 - 4.0%

ปี 2561 - 4.1%

ปี 2562 - 2.3%

ปี 2563 - ติดลบ 6.2% (วิกฤติโควิด)

ปี 2564 - 1.5%

ปี 2565 - 2.5%

ปี 2566 - 1.9%

ปี 2566 - 2% - 3% (สภาพัฒน์ฯคาดการณ์)

------------------

GDP เศรษฐกิจไทย 3 ปี รั้งท้ายอาเซียน

ไทย

  • ปี 2564 - 1.5%
  • ปี 2565 - 2.5%
  • ปี 2566 - 1.9%
  • ปี 2567 (ไตรมาส 1) - 1.5%


เวียดนาม

  • ปี 2564 - 2.6%
  • ปี 2565 - 8.1%
  • ปี 2566 - 5.0%
  • ปี 2567 (ไตรมาส 1) - 5.7%


สิงคโปร์

  • ปี 2564 - 9.7%
  • ปี 2565 - 3.8%
  • ปี 2566 - 1.1%
  • ปี 2567 (ไตรมาส 1) - 2.7%


มาเลเซีย

  • ปี 2564 - 3.3%
  • ปี 2565 - 8.9%
  • ปี 2566 - 3.6%
  • ปี 2567 (ไตรมาส 1) - 4.2%


อินโดนีเซีย

  • ปี 2564 - 3.7%
  • ปี 2565 - 5.3%
  • ปี 2566 - 5.0%
  • ปี 2567 (ไตรมาส 1) - 5.1%


ฟิลิปปินส์ 

  • ปี 2564 - 5.7%
  • ปี 2565 - 7.6%
  • ปี 2566 - 5.5%
  • ปี 2567 (ไตรมาส 1) - 5.7%

-------------------

สื่อมวลชนถามนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าอะไรไตรมาสที่ 4 ที่ตั้งใจไว้ว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะถึงมือประชาชน คาดว่า GDP จะโตขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงมีส่วน แต่จะคอยไกลขนาดนั้นไม่ได้ ต้องเริ่มทำงานก่อน อย่างที่ตนบอกว่า GDP 1.5% ถ้าไม่มีภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเข้ามาช่วย เราก็จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (Technical recession) อันนี้น่าเป็นห่วง และยังมีอีกหลายเรื่องทั้งบัตรเครดิต หนี้เสีย และหนี้ครัวเรือน


ถามว่า จะมีโครงการระยะสั้นออกมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตรงนี้เป็นที่มาของการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งต้องมานั่งคุยกัน และตนได้บอกทุกคนไปว่าเวลามาให้มีข้อมูล และมาด้วยใจที่เปิดกว้าง พร้อมกับไอเดีย ไม่ได้ให้มาเพื่อที่จะสั่งว่าต้องทำอะไร แต่การประชุมครั้งนี้คงยังไม่มีโครงการอะไรออกมาเซอร์ไพรส์แน่นอน


แต่ต่อไป จะมีประชุมทุกสัปดาห์ อีกทั้ง ยังมีการประชุมวงเล็ก ซึ่งตนอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน จะมีทั้งภาคการค้าระหว่างประเทศ, ภาคการเกษตร, ภาคกฎหมาย, ภาคการเกษตร และภาคนโยบาย ซึ่งต้องฟังทุกคน และคงจะมีข้อสรุปออกมา


เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ที่ต้องแบกความหวังคนไทยทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวทันทีว่า “ไม่ ไม่เหนื่อยครับ เต็มที่ครับ”


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศครั้งนี้ ทั้งในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม และวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม ตนจะลงพื้นที่ ติดตามโครงการต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง


พร้อมยอมรับว่า การทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อน ก็เป็นห่วงสุขภาพตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นการทำเพื่ออนาคตของลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

--------------






คุณอาจสนใจ

Related News