เลือกตั้งและการเมือง

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่เพชรบุรี เสนอเปลี่ยนชื่อสนามบินหัวหินเป็น ‘เพชร-หัวหิน’ กระจายความเจริญ

14 พ.ค. 2567

66 views

นายกฯ ลงพื้นที่บุรีสุดท้ายก่อนประชุม ครม.สัญจรเพชรบุรีเยี่ยมชมโครงการแหลมผักเบี้ย พร้อมเสนอเปลี่ยนชื่อสนามบินหัวหินเป็น "เพชร-หัวหิน" กระจายความเจริญสู่เพชรบุรี

วานนี้ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร) ก่อนเป็นประธานประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 3/2567 “ฐานเศรษฐกิจสีเขียว และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” ที่จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 13 - 14 พฤษภาคม 2567

โดยภารกิจแรกนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมเทคโนโลยีการกำจัดขยะและการบำบัดน้ำเสีย และปลูกป่าชายเลน ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี


มีนายเกษม จันทร์แก้ว องคมนตรีและผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระริ นายเทอดศักดิ์ บุณยขจร รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและ นายดนุชา สินธวานน์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ให้การต้อนรับ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากโครงการฯจากนางอรอนงค์ ผิวดิน เลขานุการโครงการฯ ซึ่งการบำบัดน้ำเสีย จะเป็นการใช้กระบวนการธรรมชาติช่วยธรรมชาติ เมื่อการบำบัดน้ำเสียในขั้นตอนสุดท้ายแล้วจะปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วลงสู่ป่าชายเลนและไหลสู่ทะเล ส่วนการกำจัดขยะจะใช้เทคโนโลยีกล่องคอนกรีต วางเป็นชั้นๆใช้กระบวนการจุลินทรีย์ธรรมชาติในการย่อยสลาย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญโครงการพระราชดำริตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ได้ไปเยี่ยมชมตั้งแต่โครงการห้วยฮ่องไคร้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โครงการหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ปลวกแดง จังหวัดระยอง ภูพาน จังหวัดสกลนคร ได้เรียนรู้พอสมควรเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริว่ามีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างมากมาย วันนี้ก็มีโอกาสมาเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งดำเนินการศึกษาพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ชุมชนแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติอย่างยั่งยืนคือการบำบัดน้ำเสียโดยวิธีต่างๆ


และจะมีก็จะไปขอชื่นชมเทศบาลเมืองเพชรบุรีที่เอาใจใส่ดูแลการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ได้กว่า 90% ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นโครงการที่แก้ปัญหาน้ำเสียได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้พี่น้องประชาชนมีสภาพแวดล้อมที่ดีและยังส่งผลต่อด้านเศรษฐกิจด้วยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายได้เสริมที่เกิดจากการจับสัตว์น้ำมาขายเป็นอาชีพและยังพบว่าความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่มีนกหลากหลายสายพันธุ์ที่หายากมาอยู่ในที่


พร้อมขอบคุณองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นและขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีรวบรวมปัญหาน้ำเสียในพื้นที่เพื่อให้กระบวนการบำบัดน้ำเสียของโครงการฯดำเนินงานได้เต็มประสิทธิภาพ


และขอให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ นำรูปแบบเทคโนโลยีพัฒนาสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริไปปรับใช้ตามพระภารกิจที่อยู่ในหน้าที่เพื่อลดต้นทุนการบำบัดน้ำเสียทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรมและภาคครัวเรือน


จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะนั่งรถรางชมภายในโครงการและฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับเทคโนโลยีเทคโนโลยีธรรมชาติการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดขยะชุมชน


ก่อนที่จะไปทักทายประชาชน และร่วมกับรัฐมนตรี ผู้ว่าฯ ประชาชนประมาณ 100 คน ปลูกป่าชายเลน ที่บริเวณแปลงวิจัยระบบป่าชายเลนบำบัดน้ำเสีย ซึ่งต้นโกงกางใบใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ตนปลูกเป็นต้นโกงกางใบใหญ่ เมื่อปลูกไปแล้วอัตราการตายไม่มี แสดงว่าการปลูกวันนี้รอดทุกต้น และที่ตนปลูกทั้งกระถางซึ่งสานจากต้นไผ่นั้นสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ


จากนั้นนายกฯและคณะ เดินทาง​ตรวจเยี่ยมการพัฒนาสนามบิน เพื่อรองรับ International Flights ณ ท่าอากาศยานหัวหิน ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้เยี่ยมชมจุดจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน​ และตรวจบัตรโดยสาร ก่อนที่จะเดินขึ้นไปยังห้องสำนักงานตรวจ​คนเข้าเมือง​ หรือ​ ตม.​ เพื่อดูพื้นที่ต่อขยาย​หากมีปริมาณนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามาในพื้นที่จำนวนมากสนามบินสามารถรองรับได้หรือไม่ ซึ่งมีการรายงานว่า ยังสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ตามปกติ แต่ไม่มีเครื่องเข้ามา


โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมรันเวย์ ได้สอบถามว่า นอกจากเที่ยวบินเชียงใหม่หัวหินมีเที่ยวบินไหนมาลงที่สนามบินนี้อีกบ้าง​ ในพื้นที่ภาคใต้มีเที่ยวบินลงมาหรือไม่​ เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวมาเลเซีย​ให้มาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น​ โดยเสนอให้มีการเพิ่มเที่ยวบินจากปัจจุบันมีเพียงการบินหัวหิน-เชียงใหม่ ให้มีหาดใหญ่​- หัวหิน มาเลเซีย- หัวหิน และอาจจะมีการเพิ่มเที่ยวบินจากภาคอีสานอีก 1 เที่ยวบิน ซึ่งทั้งสี่เที่ยวบินนี้จะต้องมีการบริหารจัดการเวลาให้ดี เพราะหัวหินเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของไทย และหากจะเสนอเปลี่ยนชื่อจากท่าอากาศยานหัวหิน เป็นท่าอากาศยาน​ "เพชร​-หัวหิน" ตามเสียงเรียกร้องของประชาชนจะได้หรือไม่​ ว่าถ้าหากเปลี่ยนชื่อหรือเพิ่มชื่อขึ้นมาจะทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่าสนามบินหัวหินแห่งนี้ใกล้กับเพชรบุรี


จึงอยากให้พิจารณาดูว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จะทำให้ช่วยการขยายท่องเที่ยว และการเจริญเติบโตของเมืองไปยังจังหวัดเพชรบุรีด้วย เพราะหัวหินเป็นเมืองหลักอยู่แล้ว แต่เพชรบุรีก็ควรเป็นเมืองที่น่าเที่ยว เพราะมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่างเช่นช่วงเย็นวันนี้เราก็จะไปรับชมกิจกรรมวัวลาน นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและโบราณสถานอีกหลายแห่ง จึงอยากให้ดูเรื่องของ activity และการอัพเกรดสนามบิน จะเป็นตัวทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ชุมชนดีขึ้น​ จึงอยากให้ทางกระทรวงคมนาคมและการท่าอากาศยานดูเรื่องนี้​ ว่าสามารถทำตรงไหนได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งในเรื่องการขยายรันเวย์


นายกรัฐมนตรี​ เน้นย้ำว่า​ เห็นถึงศักยภาพของสนามบินแห่งนี้​ มีการขยายรันเวย์ให้มากขึ้นและรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะทำเสร็จอีกภายใน 2 ปี จึงให้ทางปลัดกระทรวงคมนาคมไปดูว่าจะสามารถร่นระยะเวลาในการก่อสร้างจาก 2 ปีให้แล้วเสร็จภายในปีครึ่งได้หรือไม่ ให้ทันไตรมาส 4 ปีหน้า​ ซึ่งเป็นช่วง High Season ของฤดูการท่องเที่ยว เพื่อขยายสนามบินให้เป็น International


นายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาด​ของโควิด- 19 สามารถรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ​ ได้แต่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ICAO Stand ยังไม่ได้มาตรฐานพอ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการขออนุมัติใหม่


ต่อมาเวลา 16.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านลาด ที่อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี โดยนายกรัฐมนตรีและคณะสวมเสื้อลายตาลโตนด ที่มีลวดลายต้นตาลโตลด และวัวลานซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี ที่ทางจังหวัดเตรียมไว้ให้สำหรับการลงพื้นที่ของนายกฯและคณะรัฐมนตรี


เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้รับฟังรายงานการก่อสร้างโครงการระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนบ้านลาดระยะที่สอง โดยมีกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งจะเริ่มต้นสัญญาในวันที่ 19 ธันวาคม 2566 และสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 16 เมษา 2565 ระยะเวลาสร้างทั้งสิ้น 850 วัน มูลค่างานก่อสร้าง 197,423,000


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/2dmhyAE4nWk

คุณอาจสนใจ

Related News