เลือกตั้งและการเมือง

นักวิชาการชี้ หากข้าวเก็บดี จะกี่ปีก็กินได้ - 'ภูมิธรรม' แจงซาวข้าวหลายน้ำ บอกจะกี่น้ำก็แล้วแต่ความพอใจ

โดย thichaphat_d

9 พ.ค. 2567

436 views

คณบดีอุตฯอาหาร ลาดกระบัง การันตีหากข้าวเก็บดี จะกี่ปีก็บริโภคได้ แต่คุณค่าทางโภชนาการ จะลดลง

รศ.นภัสรพี เหลืองสกุล คณบดีคณะอุตสาหกรรมอาหาร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ ระบุว่า เรื่องข้าวสิ่งที่เห็นจากสื่อต้องแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ข้าวไม่ได้เก็บ (ข้าวปกติ) สิ่งที่จะเสื่อมเสียคือ หากเก็บอยู่ในกรณีที่มีความชื้นมาก แน่นอนว่า ข้าวจะมีราขึ้น เมื่อมีราขึ้นจะมีสาร Aflatoxins หรือการเก็บนาน หากเก็บในที่ร้อน ตัวมอดข้าวจะขึ้น

ส่วนกรณีข้าวที่เก็บ 10 ปี คุณค่า หรือคุณประโยชน์ของข้าว สำหรับการบริโภคจะยังบริโภคได้หรือไม่ ในแง่ของวิชาการ ต้องวิเคราะห์ความชื้น หากความชื้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เชื้อราจะขึ้นไม่ได้ ถ้ากรณีข้าวชื้นจะเกิดอันตรายมาก แต่การดูด้วยสายตาข้าวไม่มีความชื้น (ทำให้เกิดรา) ถึงขนาดนั้น

ที่หลายคนสงสัยว่าการเก็บข้าว 10 ปี มอดแป้ง มอดข้าว จะขึ้นไหม ตอบเลยว่า ขึ้น แต่ในอุตสาหกรรม หรือในวงการ จะมีการรมควัน ซึ่งในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นแป้งสาลีที่โม่มา จะมีมอดแป้ง มอดข้าว อยู่แล้ว จะเห็นเมื่อเก็บไว้ในอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิ 30 กว่าองศาฯ มอดจะเจริญเติบโตเร็วมาก เพราะไข่มอดมีอยู่ในเมล็ดพวกนี้อยู่แล้ว สิ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมธัญพืช หรือข้าว จะใช้ คือวิธีการรมควัน

“การรมควันจะเป็นเหมือนไอระเหย หากทิ้งไว้ไอระเหยก็จะหมด ถามว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ หากทิ้งไว้จะไม่เป็นอันตรายอยู่แล้ว เปอร์เซ็นต์ในการใช้จะต้องมีการคำนวณพื้นที่ประกอบ กับจำนวนของธัญพืชที่จะต้องรมควันใช้มาก น้อยเพียงใด ต้องมีหลักเกณฑ์” คณบดีคณะอุตสาหกรรมอาหาร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าว

กรณีที่นำข้าวจากกระสอบที่เก็บในโกดังออกมาหุงรับประทาน รศ.นภัสรพีระบุว่า สารที่ใช้รมควันเป็นไอระเหย เมื่อรมแล้วจะระเหย หรือหายไปกับอากาศ หรือนำข้าวไปซาวน้ำก็จะละลายไปกับน้ำ จะไม่มีปัญหาเรื่องสารตกค้าง

เช่นเดียวกับข้าวถุงที่มีการวางจำหน่ายตามท้องตลาด จะใช้วิธีการรมยา/รมควัน ในแบบเดียวกัน เพราะสภาพอากาศในประเทศไทยเอาไม่อยู่หากไม่เก็บในที่เย็น ขณะนี้เราเริ่มเห็นโรงสีบางแห่งสร้างไซโลที่ควบคุมอุณหภูมิได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารจากการรมยา

สำหรับข้าวที่เห็น มีลักษณะต้องการการดูดน้ำเพิ่มขึ้น คือใช้น้ำมากกว่าปกติเพราะเป็นข้าวเก่า หากใช้สัดส่วนน้ำหุงเท่าเดิมเมล็ดข้าวจะแข็ง สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ คุณภาพการหุงเปลี่ยนไป (ต้องใช้น้ำมากขึ้น) ต่อมาคือ สี ที่เปลี่ยนไปทางเหลือง เนื่องจากเกิดจากการเก็บ ปกติข้าวหอมมะลิ หากโม่ใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมมาก แต่เห็นว่ากลิ่นความหอมหายไป เพราะเก็บนานเช่นกัน

“ข้าวล็อตนี้เก็บเป็นข้าวสาร ไม่ใช่ข้าวกล้อง เพราะถ้าเก็บเป็นข้าวกล้องจะมีกลิ่นหืน เราจึงได้เห็นว่าไม่มีกลิ่นความหืน โดยรวมยังสามารถนำมาหุงต้ม หรือบริโภคได้ โชคดีที่ข้าวที่เห็นไม่มีรอยร้าวที่เมล็ดเลย หากรอยร้าวมีเมื่อใดการหุงต้มจะกลายเป็นเม็ดหัก แต่จากที่เห็นเมล็ดข้าวจากการหุงสุกแล้วเป็นเมล็ดเต็ม” รศ.นภัสรพีกล่าว

ในกรณีที่ประชาชนซื้อข้าวมา จะเห็นว่าถุงจะอัดสุญญากาศเพื่อไม่ให้เหม็นหืนง่าย จึงแนะนำประชาชนหากยังไม่ใช้อย่าเพิ่งไปทำลายสุญญากาศ เมื่อใดที่เราตัดถุง ตัวมอดแป้งที่อยู่ในไขของข้าวจะเจริญเติบโตเพราะได้ออกซิเจน จึงไม่ควรเปิดปากถุง หรือหากจำเป็นต้องเก็บก็สามารถเก็บในที่อุณหภูมิเย็นได้ ฉะนั้นการเก็บข้าวในแบบอุตสาหกรรมกับตามบ้านจึงต่างกัน

เมื่อถามว่าข้าวมีวันหมดอายุไหม รศ.นภัสรพี บอกว่า ในเรื่องอาหารมีวันหมดอายุเพราะต้องมีการ Safety ไว้ก่อนในกรณีผู้บริโภคซื้อไป แล้วมีการเก็บที่ไม่ดี หรือแม้ข้าวที่บรรจุในหีบห่อสุญญากาศก็มีการเปลี่ยนแปลงในตัวมันเอง คือคุณภาพด้อยลง และในเชิง food scien ข้าวจะเสื่อมเสียได้จากความชื้น

กรณีข้าวถุงบอกวันผลิต/วันหมดอายุ นั้น คือ หากเก็บนานไปการบริโภคด้อยลง หรือคุณภาพการกิน/รสชาติความอร่อยลดลง แต่ยังบริโภคได้

-------------------------------

อย่าดรามา! ‘ภูมิธรรม’ ย้ำข้าว 10 ปี ยังไม่เน่า

เรื่องของการเปิดโกดังข้าว10ปีในโครงการรับจำนำข้าวสต็อกสุดท้าย เพื่อเตรียมขายสู่ตลาด ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่อง หลังนายภูมิธรรม ไปพิสูจน์กินข้าวโชว์สร้างความมั่นใจ ด้วยตัวเอง เมื่อวานนี้เจ้าตัว ย้ำว่าข้าวคุณภาพดี และขออย่าดรามา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสดรามา กินข้าวเก่า10ปีโชว์ แต่ต้องซาวข้าวถึง 15 น้ำ ว่า ข้าวแต่ละถุงมีความแตกต่างกัน มีฝุ่นมากฝุ่นน้อย การจะซาวจะกี่ครั้งก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเอง

ยืนยันว่าข้าวดังกล่าวยังนำไปขายได้ ไม่ต้องกลัว ประมาณราคาแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 18 บาท ต่อกิโล เพราะข้าวกำลังราคาดี หรืออาจจะ 15-20 บาท ก็ ขึ้นอยู่กับการประมูลได้

และบอกด้วยว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่ากินได้หรือกินไม่ได้ แต่ปัญหา อยู่ที่ก่อนหน้านี้ มีการบอกว่า ข้าว 1 ปีก็เน่าแล้ว ซึ่งตนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าข้าว 10 ปี ด้านกายภาพไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง ย้ำว่า ข้าวจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่การเก็บรักษา ทั้งนี้ ในการทำจำนำข้าว เขามีกระบวนการเก็บรักษาเป็นมาตรฐาน

ขอให้เอาสติมาคุยกัน เอาความจริงมาคุยกันว่าทำไมถึงเก็บตั้ง 10 ปี เปิดออกมาแล้วยังเหมือนข้าวปกติ ราคา 15-18 บาทยังขายได้ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ มีการเอาไปขาย 5 บาท เป็นข้าวหัก ข้าวเน่า

ผู้สื่อข่าวถามถึงดรามาว่า รัฐบาลกำลังฟอกขาวให้กับคดีรับจำนำข้าว โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า แล้วแต่จะคิด ตนมีหน้าที่แก้ปัญหาก็มาแก้

-------------------------------------

'สว.สมชาย' ตั้ง 6 ประเด็นข้าวค้างโกดัง 10 ปี

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติม เรื่องการจะนำข้าว 10 ปี ที่ค้างในโกดัง เตรียมออกมาประมูลขายเป็นข้าวดี กินได้ นั้น เป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายและต้องเร่งตรวจสอบหลายกรณี ดังนี้

1.ข้าวเก่าค้างจำนำในโกดังนาน 10 ปี รมยาฆ่าแมลง fumigation ตลอดทุก1-2เดือน ตลอด10ปี ไม่น้อยกว่า 60-120 ครั้ง น่าจะมีแต่สารพิษตกค้าง ล้างไม่ออก และน่าจะไม่มีสารอาหารหลงเหลือ รวมถึงน่าจะมีaflatoxin สารพิษและสารก่อมะเร็งที่เกิดจากรา ที่เกิดจากการเก็บข้าวที่ไม่เหมาะสม

2.นักวิชาการและหน่วยงานที่มีหน้าที่ ต้องเร่งตรวจสอบDNAข้าว10ปีจริงหรือไม่ และตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดถึงคุณภาพมาตรฐานและสารตกค้าง

3.ยุติการประมูลขายเป็นอาหารคนและสัตว์ เพราะเสี่ยงสารสะสมในข้าวก่อมะเร็ง และอย่าส่งออกไปขายแอฟริกา เพราะเป็นจะทำลายภาพพจน์และมาตรฐานการค้าข้าวไทยในตลาดโลก ซึ่งจะยิ่งสร้างเสียหายตามมามากมาย

4.ตรวจสอบขบวนการทุจริตจากการประมูลข้าวทั้ง2โกดังว่า เมื่อมีการประมูลข้าวไปแล้ว อย่างน้อย2-3ครั้ง (2557,2558,2563)

4.1 ใครเป็นผู้ประมูล เป็นเจ้าของโกดังที่รับฝากข้าวเองใช่หรือไม่ เหตุใดไม่รับมอบข้าวหรือมีการหมุนเวียนข้าวในโกดัง เรื่องนี้ตรวจพิสูจน์DNA และตรวจอายุข้าวได้

4.2 ทำไม อคส. จึงยังจ่ายค่าเช่ามาตลอด 10 ปี และไม่นำออกประมูลให้เสร็จสิ้นมาโดยตลอด มีการทุจริตกันหรือไม่อย่างไร ใครรู้เห็นร่วมขบวนการบ้าง

5.สมาคม และสภาวิชาชีพสื่อ ควรตรวจสอบจริยธรรมสื่อมวลชนที่ไปร่วมทำข่าวและแสดงให้ประชาชนและสังคมเชื่อถือให้การรับรองคุณภาพข้าวดังกล่าวว่า มีคุณภาพดี กินได้ ซึ่งน่าจะขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน

6.หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ทั้งปปช อัยการ ศาลยุติธรรม ควรจับตาเฝ้าติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุที่มีการข่าวว่า ทีมกฎหมายของการเมืองในขบวนการทุจริตจำนำข้าว จะบิดเบือนสร้างพยานหลักฐานใหม่ เพื่อขอรื้อฟื้นคดีหรือไม่ หรือเพื่อดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรมไทยที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาเด็ดขาดไปแล้วถึง 2 ชั้นศาลฎีกา



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uPNll03r8p8

คุณอาจสนใจ

Related News