เลือกตั้งและการเมือง
ย้อนคลิป 'ชลน่าน' พ้อเอาข้าราชการไม่อยู่ ก่อนหลุดเก้าอี้ รมว.สธ. 'ณัฐชา' เห็นใจ ทำงานเหนื่อยสุด กลับโดนปลด
โดย nattachat_c
29 เม.ย. 2567
176 views
วานนี้ (28 เม.ย. 67) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ปรับ ครม.) เศรษฐา 1/1 ว่า
ไม่ต่างจากเดิมมากนัก มีรัฐมนตรีว่าการเพียง 2 คน ที่เปลี่ยนเข้ามา หากดูลึก ๆ คนที่เป็นเลือดแท้พรรคเพื่อไทย ต่อสู้ฝันฝ่าในช่วงที่พรรคเพื่อไทยขาลง ค่อนข้างจะไม่ประสบความสำเร็จตามหวังเท่าไหร่ ตนคิดว่าต้องไปดูว่าสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยปรับเปลี่ยนเป็นแบบนี้ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร
“คนวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งช่วงจัดตั้งรัฐบาล คนที่เปลืองตัวที่สุด คนที่คิดว่าน่าจะต้องอยู่ตลอดรอดฝั่ง อย่างนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ที่เป็นหมอ และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตรงสายที่สุด น่าจะอยู่ได้นานกว่านี้ น่าจะมีผลงานอะไรได้มากกว่านี้ กับกลายเป็นรัฐมนตรีว่าการคนแรก ๆ ที่ถูกปรับออกในส่วนของพรรคเพื่อไทย น่าตั้งข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใดที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างนั้น ตัดสินใจให้อดีตหัวหน้าพรรคที่นำทัพช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ช่วงการเป็นฝ่ายค้านตลอด 4 ปี ช่วงที่ผ่านมาเกิดวิกฤตหลายอย่าง แต่วันนี้ตัดสินใจสับเปลี่ยนให้คนที่ทอดทิ้งพรรคเพื่อไทยไป แล้วกลับเข้ามาใหม่ในวันที่พรรคเพื่อไทยเจริญรุ่งเรือง สมดังหวัง ตามที่ต้องการทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยากเป็นรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดก็แล้วแต่”
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ต้องดูว่าเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีคนเดียวหรือไม่ หรือองค์ประกอบอื่นที่กำลังบีบคั้นให้นายกรัฐมนตรีต้องปรับแบบนี้ แน่นอนที่สุดว่าจะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ว่าวันนี้ รัฐบาลที่ประชาชนก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทน แต่การปรับ ครม. ก็ยังไม่เห็นว่าตอบโจทย์พี่น้องประชาชน ไม่ได้ใช้คนให้ตรงกับงาน แต่เป็นการปรับเพื่อให้ตรงกับโควตาทางการเมืองเหมือนเดิม
เมื่อถามว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ตำแหน่งรัฐมนตรียุคพรรคเพื่อไทยว่าเป็น “สมบัติผลัดกันชม” หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ถือว่าพรรคเพื่อไทยรักษาคาแรกเตอร์ เพราะในอดีตก็พูดกันว่า 6 เดือนเปลี่ยน ก็ไม่แตกต่างกัน และเป็นสไตล์การบริหารของพรรคเพื่อไทย แต่แน่นอนว่าจะบริหารอย่างไร ต้องสอดคล้องกับงาน ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากว่ารัฐมนตรีที่ไม่ตรงกับงานกลับได้อยู่ต่อ แต่รัฐมนตรีที่ถูกมองว่าตั้งตรงกับตำแหน่งหน้าที่กลับถูกปรับออกอันดับต้น ๆ
เมื่อถามว่านายแพทย์ชลน่านควรนั่งรัฐมนตรีฯต่อหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า หากมองแบบใจเป็นกลาง คนเป็นหมอควรได้ดูกระทรวงสาธารณสุขที่สุด “คนที่วิกฤตและลำบากที่สุดในตลอดช่วงเลือกตั้ง รวมไปถึงช่วงเป็นผู้นำฝ่ายค้านตลอด 4 ปี ก็น่าจะเป็นอดีตผู้นำฝ่ายค้าน หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาจัดตั้งรัฐบาลหลังจากพ่ายแพ้ คนที่เหนื่อยที่สุด หนีไม่พ้นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น ที่ต้องแบกรับทุกสถานการณ์ …. ทุกอย่างเป็นต้นทุนส่วนตัวที่ต้องแบกรับ แต่เมื่อถึงเวลาจะตั้งรัฐบาลได้แล้ว สิ่งแรกที่เขาดำเนินการคือปรับท่านออก ก็ถือว่าน่ากังวลใจอย่างยิ่ง”
เมื่อถามว่าเห็นใจนายแพทย์ชลน่านใช่หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ก็ต้องตอบตรงๆ ด้วยความที่เป็นเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำงานพรรคฝ่ายค้านด้วยกันมาตลอด 4 ปี ก็เห็นความตั้งใจ แต่วันนี้ พอเป็นรัฐมนตรีว่าการที่ถูกปรับออกคนแรก แบบไม่มีเพื่อนเลย มันก็น่าเห็นใจอยู่ ว่าไหน ๆ จะปรับ ครม.แล้ว อย่าให้อดีตหัวหน้าพรรคได้ถูกกระทำขนาดนั้น ควรมีเพื่อนที่ถูกปรับออกบ้าง อย่างน้อยจะได้อ้างได้ว่าเป็นการปรับเพื่อผลัดเปลี่ยน หากไม่นับนายกรัฐมนตรีจะถือเป็นรัฐมนตรีว่าการคนเดียวที่ถูกปรับออก
----------------
โซเชียลมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลอุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ลงพื้นที่ติดตามงาน “มินิธัญญารักษ์” ของ รพ.อุทัย และติดตามงาน “ชุมชนล้อมรักษ์” ให้กำลังใจทั้งผู้ปฎิบัติงาน และผู้ป่วยเสพติดที่บำบัดรักษาที่มินิธัญญารักษ์
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวทิ้งท้ายสั้นๆก่อนเลิกประชุม ว่า ตนเองทำงานมีผลงานตลอด นับว่าเป็นเกรด A+ ได้ 80 คะแนนจาก20 คะแนน แต่อาจมีเหตุผลหนึ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีคาดโทษตน คาดโทษรัฐมนตรีว่าเอาข้าราชการไม่อยู่ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีอยากจะปลดออกจากรัฐมนตรีก็เป็นได้
“ผมไม่ได้ติดใจอะไร เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะช่วงตั้งรัฐบาล ถูกว่า ถูกเอาไปเหยียบกลางถนนทุกวัน” นพ.ชลน่านกล่าว
----------------
เพจ หมอชลน่านFcไม่มีดราม่า มีความเคลื่อนไหว เปลี่ยนภาพโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก เป็นรูปภาพของ นพ.ชลน่าน ที่ถูกเหยียบ และโพสต์บทกลอนระบุว่า
‘ชลน่านพลีชีพโดดเดี่ยวโดนกระทืบ
ผู้คนหนีเข้าซอกหลืบหลบมุมไหน
พอผ่านพ้นผู้คนตะเกียกตะกาย
เหยียบย่ำแย่งเป็นใหญ่ไร้ยางอาย’
----------------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/1hnx5ktgXEk