'โรม' เปิดขุมนรก แฉแก๊งคอลฯ-บ่อนคนไทย ในปท.เพื่อนบ้าน เจอประท้วงให้อภิปรายให้อยู่ในไทย

โรม เปิดขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ในกัมพูชา-เมียนมา 7 เดือนรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ก่อนถูกเบรกดังเอี๊ยดลั่นกลางสภา สส.เพื่อไทย ประท้วงให้อภิปรายให้อยู่ในประเทศไทย


เมื่อวันที่ 3 เม.ย.67 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระการประชุมอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการบริหารงานของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงาน บริหารราชการแผ่นดิน และความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ และขณะเดียวกันยังล้มเหลวในเรื่องนโยบายต่างประเทศ ทั้งหมดนี้ล้วนสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับประชาชน รัฐบาลเคยแถลงนโยบายว่า จะให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยคุกคามข้ามชาติ และการเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์


พร้อมยกความเสียหายทางไซเบอร์ ตั้งแต่มีนาคม 2565 - มิถุนายน 2566 ได้สร้างความเสียหาย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 45,000 ล้านบาท ซึ่งความเสียหายมากกว่างบประมาณของกระทรวงต่าง ๆ นี่คือปัญหาเรื้อรังข้ามชาติที่ยังแก้ไขไม่ได้ ที่ใช้บัญชีม้าในการรับโอนเงินทำให้ธนาคารเวลาอายัดบัญชีก็อายัดได้แค่บัญชีเปล่า แต่ไม่ได้สาวไปถึงต้นทางตัวการใหญ่ได้ และกระบวนการเหล่านี้ถ้าประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้ความร่วมมือ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจับตัวการเหล่านี้ได้


ตลอด 7 เดือน ผลงานอันเป็นรูปธรรมในการจัดการกับตัวการเหล่านี้มีอะไรบ้าง นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น ข้อมูลจากหน่วยความมั่นคงยืนยันตรงกันว่า เส้นทางการเงินของบัญชีม้าจะถูกโอนไปที่ประเทศกัมพูชา พร้อมเล่าขั้นตอนของการถูกตกเป็นเหยื่อแก๊งคลอเซ็นเตอร์ ที่ถูกหลอกไปทำงาน ซึ่งมีทั้งคนไทย และคนจีน ความเสียหายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ไทย เกิดขึ้นทั่วโลก นายกฯทราบหรือไม่ว่า ประเทศไทยได้กลายเป็นประตูปากนรก ของกระบวนการเครือข่ายสแกมเมอร์ คลอเซ็นเตอร์ไปแล้ว


"นายกอาจจะยกกรณีการช่วยเหยื่อคนไทยที่เล้าก์ก่ายได้ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ช่วยคนไทยกว่า 500 คน ผมคิดสคริปให้ท่านเลย แต่ในความเป็นจริงเราต้องยอมรับว่าการช่วยเหลือเหยื่อที่เล้าก์ก่ายนั้น ไม่ได้เป็นการริเริ่มจากทางการไทย แต่เกิดสงครามกลางเมือง สุดท้ายคนไทยเรานั้นต้องขอความช่วยเหลือ และที่สำคัญเป็นการริเริ่มจากทางการจีนที่เขาจะช่วยคนจีน ประเทศไทยเราไม่เคยสนใจ จนสุดท้ายเมื่อเรื่องแดงออกมา ถึงได้มีการช่วยเหลืออพยพเดือดสแกมเมอร์ เหยื่อคลอเซ็นเตอร์เหล่านี้เข้าสู่ประเทศไทย นี่คือความล่าช้าของรัฐบาล และเราแทบไม่เห็นความเอาใจใส่ของรัฐบาลเลยแม้แต่น้อย"


นายรังสิมันต์ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ผลกระทบจะมาถึงประเทศไทย ในแม่สอด จ.ตาก เพราะเราจะกลายเป็นประเทศที่ส่งเสริมพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้


พร้อมเล่าถึงอิทธิพลในเมืองชเวโก๊กโก่ ที่จีนได้จับผู้มีอิทธิพลรายใหญ่คนนี้ไปแล้ว ขณะอยู่ในประเทศไทย ซึ่งผู้มีอิทธิพลรายนี้มีความสนิทสนมกับคนชนชั้นสูงของไทย นอกจากนี้บริษัทของผู้มีอิทธิพลคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักการเมืองท้องถิ่นในแม่สอด มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักการเมืองระดับชาติ และบริษัทนี้เคยมา พรีเซนต์งานในกรรมาธิการ สถาบันเทิงครบวงจรของสภาชุดที่แล้วด้วย ตนไม่ทราบว่าใครเอามา แต่ข่าวแว่วมาว่าเป็นนักการเมืองฝั่งพรรครัฐบาล ดังนั้นเราจะเห็นว่าโครงการพวกนี้ทุนสีเทาพวกนี้ พยายามเข้ามาแทรกแซงในประเทศไทย แล้วมีโปรเจค มีความคิดว่าอยากจะสร้างชเวกโก๊กโก เป็นเมืองแฝดที่แม่สอดด้วย และยังคิดที่จะทำสถานบันเทิงครบวงจรในใจกลางกรุงเทพฯ ที่สำคัญมีการซื้อตึกที่เพชรบุรีตัดใหม่ไปแล้ว โชคดีที่หมายจากทางการจีนได้จับผู้มีอิทธิพลรายนี้ไปแล้ว ทำให้วันนี้โครงการเหล่านี้เป็นหมันไปแล้ว


"ถ้ารัฐบาลต้องการปราบปรามสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียวดี ประเทศกัมพูชา เราต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาว่ากลุ่มธุรกิจของคนไทยในประเทศกัมพูชา ที่เป็นคนมีสีทั้งหลายและมีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลนี้ ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย นี่คือเหตุผลหรือไม่ที่บรรดาธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหลาย ไม่ถูกปราบปรามเสียที เพราะรัฐบาลนี้เกรงใจ ถ้าท่านไม่เกรงใจท่านจัดการเลย ทำไมรัฐบาลจีนจัดการได้ แต่รัฐบาลไทยไหนบอกว่ามีสายสัมพันธ์ที่ดี เรามีความเป็นเพื่อน ใช้ความเป็นเพื่อนให้เป็นประโยชน์ จัดการเมียวดี เมียวดีวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลทหารเมียนมาอยู่แล้วด้วย เป็น BGF จัดการเลยครับ รัฐบาลใช้โอกาสนี้ในการจัดการเพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งสแกมเมอร์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เลย"


นายรังสิมันต์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนทราบดีว่าประเทศไทยต้องเป็นไผ่ลู่ลม ไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ผมต้องเน้นย้ำ ว่าประเทศไทยวันนี้เราคือเหยื่อ เรามีความเสียหายหลายด้านเต็มไปหมด หลายคนถูกหลอกไปเป็นแรงงานขบวนการค้ามนุษย์ และแม้แต่ประเทศไทยก็ได้กลายเป็นเครื่องมือไปหลอกผู้คนทั่วโลก ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นในไทย เมียนมา หรือกัมพูชา ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของหนังจีนเรื่องหนึ่ง กวาดรายได้เป็นหมื่นล้าน ภายใน 2 สัปดาห์ หนังเรื่องนี้สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทยอย่างรุนแรง นี่หรือไม่ที่เป็นส่วนสำคัญหรือส่วนหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่มาเที่ยวที่ไทย อย่างที่รัฐบาลหวัง ทั้งที่เราให้ฟรีวีซ่า


จากนั้น ทันตแพทย์หญิง ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง ในข้อที่ 9 ว่า ขอให้ประธานควบคุมการประชุม ให้สมาชิกได้อภิปรายให้อยู่ในประเทศไทย


ตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้มาแถลงต่อสภา ว่าจะให้ความสำคัญต่อปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และความปลอดภัยต่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ อะไรคือความคืบหน้า


"วันนี้ 7 เดือนชัดแล้ว ที่สัญญาเอาไว้ไม่ได้ทำในสิ่งที่พูด คำมั่นสัญญาที่เป็นนโยบายพรรคของเพื่อไทย ว่าจะวางระบบป้องกันไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพไม่ทำ ท่านอาจจะบอกว่ายังไม่ใช้งบเลย งั้นตนขอตอบตอนนี้ตอบตรงนี้ว่าแผนของท่านคืออะไร นี่หรือคือการทำงานของพรรคการเมืองที่คุยโม้โอ้อวด ประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ ตลอด 7 เดือนของรัฐบาลนี้ คือความสูญเปล่าด้านความมั่นคงของประเทศไทย ขี้โม้"


ทั้งนี้ สิ่งผิดกฎหมายอีกมากมายที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงแต่อย่างใด รวมทั้งมาตรการที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ เราก็ไม่เห็นจากท่านนายกฯมือใหม่หัดขับ เศรษฐา ทวีสิน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WOQ0ZZY3vTw