'ปกรณ์วุฒิ' อัดวิปรัฐบาลขอเวลาเพิ่ม ย้อนเสนอ 6 ชม.มาเอง พอไม่พอก็มาลดเวลาฝ่ายค้าน

วิสุทธ์ กลับลำ อภิปราย 152 รัฐบาลต้องได้ 10 ชม. ยันไม่เกี่ยวนับองค์ประชุมโหวตกาสิโน บอกต้องให้ความยุติธรรมรัฐบาลชี้แจง - ปกรณ์วุฒิ โต้วิปรัฐบาล หลังเตรียมขอลดเวลาซักฟอก บอกเสนอเวลา ครม. 6 ชม.มาเอง พอไม่พอก็มาขอเพิ่ม


เมื่อวันที่ 1 เม.ย.67 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการจัดสรรเวลาในการอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรุ่งนี้จะมีการหารือกับฝ่ายค้านขอเพิ่มเวลา ซึ่งไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์นับองค์ประชุมในการโหวตรายงานพิจารณาผลการศึกษา เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ แต่ได้นำเวลาเดิมที่ฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง รัฐบาลได้ 6 ชั่วโมง มาปรึกษาภายในพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ซึ่งเมื่อดูเวลาแล้วคณะรัฐมนตรีจะได้เวลาชี้แจงเพียง 4 ชั่วโมง ซึ่งการอภิปราย 152 เป็นการกล่าวหารัฐบาล รัฐบาลจึงมีหน้าที่ชี้แจง แต่หากให้เวลาน้อย เหมือนการอภิปรายมาตรา 153 ของวุฒิสภา ที่รัฐมนตรีบางคนมีเวลาชี้แจงเพียง 2 นาที เพราะเวลาไม่พอ ก็เกิดความเสียหาย และสายค้านหาว่ารัฐมนตรีตอบไม่เคลียร์

ดังนั้นเพื่อความยุติธรรม จึงจำเป็นต้องขอเวลาเพิ่ม และต้องเจรจากับฝ่ายค้านว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการปรับเวลา โดยมีธงในใจ รัฐบาล 10 ชั่วโมงขึ้นไป และให้ฝ่ายค้าน 18 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่ากันเท่าตัว ตนยังไม่ได้คุยกับรัฐบาล แต่มองว่าความยุติธรรมต้องเกิด เมื่อมีการกล่าวหาก็ต้องได้เวลาในการชี้แจง และรัฐมนตรีหลายคนก็มาบ่นกับตนว่า ในการอภิปรายของวุฒิสภาก็ไม่มีโอกาสชี้แจง


ส่วนยืนยันว่ารัฐบาลจะต้องได้เวลา 10 ชั่วโมงหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า ให้โอกาสให้มาเจรจากันพรุ่งนี้ หากไม่มา ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย ไม่ใช่เอาใจแต่ฝ่ายค้านอย่างเดียว เมื่อฟังข้อกล่าวหาก็ต้องฟังข้อชี้แจง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจ และจะถือเป็นการแถลงผลงานของรัฐบาลและเชื่อว่ารัฐมนตรีพร้อมตอบทุกกระทรวง


เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากตกลงกรอบเวลาใหม่ไม่ได้ รัฐบาลจะทำอย่างไร ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า "เราเป็นเสียงส่วนมาก แล้วก็ให้โอกาสคุณ" พร้อมถามกลับประชาชนที่ติดตามข่าวว่า ยุติธรรมหรือไม่ ที่ฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง แต่รัฐบาลได้ 6 ชั่วโมง ความยุติธรรมต้องเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น หากฝ่ายค้านเอาเวลาไป 22 ชั่วโมง รัฐบาลตอบไม่ครบก็จะกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่กล้าตอบ หนีตอบคำถาม เมื่อรัฐบาลเปิดโอกาสให้แล้วก็ต้องให้รัฐบาลได้ตอบคำถามจากกลัวข้อเท็จจริงทำไม พร้อมย้ำว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการนับองค์ประชุมพิจารณารายงานผลการศึกษาเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และไม่ได้นำมาเป็นประเด็นในวันที่ "คุณ" (พรรคก้าวไกล) ไม่ได้รักษาสัญญา ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรให้โอกาสและให้อภัย พร้อมถามผู้สื่อข่าวว่า เวลาที่ได้นั้นยุติธรรมหรือไม่


พร้อมทั้งยังย้ำในช่วงท้ายว่า จะไม่มีการลดเวลารัฐบาลต้องได้ 10 ชั่วโมงเท่านั้น โดยไม่มีการเพิ่มวันอภิปรายเป็น 3 วัน ซึ่งทุกครั้งเมื่อมีการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลได้เวลาอภิปราย 2 วัน


ส่วนในการเจรจาพรุ่งนี้ จะมีการหักกันเรื่องกรอบเวลาหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า เรื่องนี้มีการหารือกับฝ่ายรัฐบาลหลายคน ไม่ใช่ตนเป็นผู้ตัดสินใจเอง และวิปรัฐบาลก็มีมาจากหลายพรรคการเมือง


ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ข้อตกลงที่ฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง ครม. 6 ชั่วโมงนั้น เป็นข้อตกลงที่ตกลงกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ครม. และประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม โดยมีเอกสารอย่างเป็นทางการ ข้อเสนอที่ให้เวลา ครม. 6 ชั่วโมงนั้น เป็นข้อเสนอที่ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เสนอมาเอง ตนในฐานะตัวแทนฝ่ายค้านในวันนั้น ตอบรับโดยไม่ได้ต่อรองใด ๆ เลย


ตนยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง หาก ครม. จะใช้เวลาเกิน 6 ชั่วโมง เพราะการอภิปรายของฝ่ายค้าน เราก็อยากได้คำตอบที่ชัดเจนเช่นกัน และ สส.ฝ่ายค้าน ก็พร้อมปิดประชุมดึกกว่าที่กำหนด เพื่อให้ ครม. ได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ แต่การที่พรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอกรอบเวลาของ ครม. เพียง 6 ชั่วโมงมาเอง พอมารู้ตัวทีหลังว่าเวลาอาจจะไม่พอ อยากจะเพิ่มเวลาฝ่ายตนเอง ก็ไม่มีสิทธิมาลดเวลาฝ่ายค้าน ที่วางแผนภายใต้กรอบ 22 ชั่วโมงมาตลอด โดยเฉพาะมาเสนอก่อนถึงวันอภิปรายเพียง 2 วัน และจะนัดประชุมเพื่อทบทวนสัดส่วนเวลาในเช้าวันพุธที่ 3 เมษายน เพียง 1 ชั่วโมงก่อนเปิดประชุม


"ไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายค้านที่จะต้องมารับผิดชอบการวางแผนที่ไม่รอบคอบของฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องไปขอต่อรอง เพราะนี่เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องมาขอจากฝ่ายค้านเอง ว่าจะไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้"


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ท้ายที่สุด นี่อาจเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ปฏิกิริยาของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่พอใจการขอนับองค์ประชุมของฝ่ายค้านในสัปดาห์ที่แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่าการขอลดการอภิปรายของฝ่ายค้านโดยไม่จำเป็นแบบฉุกละหุกครั้งนี้ อาจเป็นแค่ความต้องการจะแก้แค้นเท่านั้น และหากจะเอาวาระที่เป็นเวทีใหญ่ในการตรวจสอบรัฐบาลมากระทำแบบนี้ ก็คงบ่งบอกได้ถึงระดับวุฒิภาวะของคนในรัฐบาล และการไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภาเลย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/s7fnFe9rWJQ