เลือกตั้งและการเมือง

'วิโรจน์' โยนถามราชทัณฑ์ 'ทักษิณ' เดินตลาด เหมาะสมหรือไม่ - 'ธนาธร' ไม่มีความเห็น แต่ย้ำ กม.ต้องเสมอภาค

โดย nattachat_c

11 มี.ค. 2567

103 views

วานนี้ (10 มี.ค. 67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช 4 สมัย และปัจจุบัน เป็นนักการเมืองอิสระ ได้โพสต์ข้อความกรณี ไทมน์ไลน์การไปเชียงใหม่ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่าน เพจ เทพไท - คุยการเมือง ว่า


[ ทักษิณ-เศรษฐา เจอกันที่เชียงใหม่ ไม่ใช่บังเอิญ ] 


การที่คุณทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดการเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 14-16 มีนาคม และ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15-17 มีนาคม เช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เป็นความบังเอิญ แต่เป็นความจงใจที่ต้องการใช้การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของทั้ง 2 คน เพื่อได้พบปะพูดคุยกัน และการเดินทาง ไปจังหวัดเชียงใหม่โดยใช้วันเวลาที่เหลื่อมกัน เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป การไปเชียงใหม่ของคุณเศรษฐา ก็เพราะมีประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดพะเยา ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว


ส่วนคุณทักษิณอ้างเรื่องการไปไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งปกติตามธรรมเนียมของคนจีน การไหว้บรรพบุรุษหรือวันเช้งเม้ง ปีนี้ ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2567 และคนจีนจะนิยมไหว้บรรพบุรุษในวันเช้งเม้งเป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ก็สามารถไหว้ก่อนได้ก่อน7วัน แต่คุณทักษิณเลือกไปไหว้บรรพบุรุษในวันที่ 15 มีนาคม ก็ผิดจากประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติกัน แต่คงเพื่อต้องการที่จะให้ได้พบกับคุณเศรษฐา โดยไม่ต้องการให้วันเดินทางตรงกันเป๊ะ จนน่าเกลียดเกินไป จึงจัดเวลาเดินทางให้เหลื่อมกันเล็กน้อย


การที่คุณเศรษฐาให้สัมภาษณ์ที่ต่างประเทศว่า จะพบกับคุณทักษิณหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนว่าหากมีเวลาตรงกันคงได้เจอกัน ซึ่งผมขออนุญาตทำนายไว้ล่วงหน้า 3 ข้อ คือ 1.มีเวลาตรงกัน 2.มีโอกาสได้พบกัน 3.จะพบกันในคืนวันที่15


การพบกันของคุณทักษิณกับคุณเศรษฐา ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย และไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะทั้งสองเคยพบกันมาแล้ว และสามารถพบปะได้เป็นประจำ ในฐานะที่คุณทักษิณเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สนับสนุนให้คุณเศรษฐาขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ก็เป็นที่ปรึกษาแบบลับๆ ได้


การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของคุณทักษิณ ได้รับการอนุญาตจากกรมคุมประพฤติแล้ว ไม่ขัดต่อระเบียบหรือเงื่อนไข 5 ข้อห้าม 5ข้อทำได้ แต่การปฎิบัติของคุณทักษิณ ที่อยู่ในระหว่างการพักโทษ จะมีความเหมาะสม หรือขัดต่อความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกหรือท้าทายความรู้สึกของประชาชน อย่าย่ามใจว่า ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณ จุดกระแสไม่ติด แต่ถ้าประชาชนมีความอัดอั้นตันใจ คับแค้นใจมากๆ ก็จะอาจจุดติดขึ้นมาก็ได้


จึงขอเตือนไว้ ในฐานะเพื่อนนักโทษด้วยกัน

----------------

วานนี้ (10 มี.ค. 67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่อง 'ทักษิณ-เศรษฐา' ว่า


เป็นเรื่องของนายทักษิณ พวกเราไม่เคยสนใจประเด็นของนายทักษิณเลย แต่สนใจเนื้อหาสาระ และสิ่งที่นายทักษิณได้รับ ว่าเป็นสิทธิพิเศษหรือไม่ หรือคนอื่นที่มีเงื่อนไขคล้ายนายทักษิณพึงจะได้รับด้วย ถ้าเป็นเรื่องสิทธิมาตรฐานเราเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร


ส่วนจะเป็นโมเดลให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาด้วยหรือไม่ คงต้องติดตามดู แต่ตนคิดว่าสังคมไทย บาดเจ็บจากการเอบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาเป็นเงื่อนไขในการขัดแย้งมากพอแล้ว สมัยก่อนก็มีเรื่องนายปรีดี พนมยงค์ , จอมพลถนอม กิตติขจร , จอมพลประภาส จารุเสถียร ไล่มาจนถึงพลเอกสุจินดา คราประยูร และนายทักษิณ ตนคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่ตัวโครงสร้าง


ขอให้สบายใจว่า พรรคก้าวไกลไม่เคยมีความคิดเลย ที่จะหยิบยกเอาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งในหมู่ประชาชน และใช้วิธีการเช่นนั้น ทำให้สังคมกลับมาแตกแยกอีก แต่เราจะมุ่งแก้ไขที่โครงสร้าง วิพากษ์วิจารณ์ และแก้ไขเนื้อหาสาระเป็นหลัก ดังนั้น ยังยืนยันว่า ทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ และ นายทักษิณ ไม่ได้อยู่ในสารบบคิดของพรรคก้าวไกล แต่เราให้ความสนใจ ใส่ใจ กับสิ่งที่คุณทักษิณได้รับ ถ้าเกิดได้รับบุคคลอื่นที่อยู่ในเงื่อนไขเดียวกันก็ควรได้รับด้วย


นายวิโรจน์ย้ำว่านายทักษิณควรได้รับความยุติธรรม ไม่ใช่ได้รับอภิสิทธิ์ ส่วนที่มีคนมอบว่าเกี๊ยเซียะกันนั้น ถ้าดูบทบาทตนก็คิดว่า ไม่ได้เกี๊ยเซียะ ยังจัดหนัก จัดเต็ม


เมื่อถามว่าการไปเชียงใหม่ของนายทักษิณครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าอาจไปตลาดพบประชาชนด้วย จะเหมาะสมหรือไม่

นายวิโรจน์กล่าวว่าต้องย้อนถามกรมราชทัณฑ์ว่าทำได้หรือไม่ ก้าวไกลคงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้


ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ หากนำโมเดลของนายทักษิณมาใช้กับนักโทษคนอื่น

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เห็นด้วย เพราะเป็นสิทธิ์ตามมาตรฐาน นักโทษคนอื่นก็ควรได้รับสิทธิ์นั้น เป็นเรื่องง่ายมาก ในยุคที่นายทักษิณถูกขับไล่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม จำได้หรือไม่ว่า คนเสื้อแดงต่อสู้ในบริบทไหน ดังนั้น เราไม่ควรเลือกปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่า ทุกวันนี้ การต่อสู้นั้นก็ยังอยู่ คำว่าสองมาตรฐานก็ยังหลอนตนอยู่ ซึ่งประเทศไทยต้องการมาตรฐานเดียว

----------------
วานนี้ (10 มี.ค. 67)   ที่ร้านพริ้มเพลิน จ.ปทุมธานี ในการสัมมนาของกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะวิทยากร ให้สัมภาษณ์ ว่า


เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไป จ.เชียงใหม่ มองว่าเป็นสองมาตรฐานหรือไม่

นายธนาธร พูดทันทีว่า “โห ผมไม่มีความเห็นคิดในเรื่องนี้” เคยตอบไปแล้ว การบังคับใช้กฎหมายต้องเสมอภาค มีนักโทษคดีการเมืองเป็นพันคน เข้าใจว่ามีหลายสิบคนที่ยังอยู่ในคุก พวกเขาไม่ใช่เป็นคนที่ลักขโมย หรือฆ่าข่มขืนใคร พวกเขาเป็นนักโทษทางความคิด การพูดคิดอ่านเขียนไม่ควรเป็นอาชญากร  


เมื่อถามว่า มีประชาชนไปรอต้อนรับนายทักษิณ จะเป็นเป้าให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่

นายธนาธร กล่าวสั้น ๆ ว่า ขอให้ไปถามพรรคเพื่อไทยดีกว่า

---------------





คุณอาจสนใจ

Related News