เลือกตั้งและการเมือง

2 เจ้ากระทรวงเคลียร์ใจปัญหาหมุดที่ดิน ส.ป.ก.โผล่เขาใหญ่

20 ก.พ. 2567

517 views

วันนี้ (20 ก.พ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีปัญหาพิพาทจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีการทับซ้อนกัน 3 หน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และส.ป.ก. ว่า หลังจากตนทราบว่ามีประเด็นข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาบนที่ดินที่เขาใหญ่ กับเจ้าหน้าที่อุทยานในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตนได้ลงพื้นที่เพื่อไปเคลียร์ปัญหาไม่ให้เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด และระดับกรมมีปัญหาทะเลาะกัน


ซึ่งตนเองได้มีการพูดคุยกับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยผู้บริหารระดับปลัดกระทรวง และอธิบดีไม่มีปัญหากัน ส่วนปัญหาพื้นที่ทับซ้อนของ 2 กระทรวง ต้องทำความเข้าใจว่าในอดีต เป็นการกำกับดูแลภายใต้กระทรวงเดียวคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่พอมีการแยกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกไป จึงมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย และเน้นย้ำว่า มีหลักการง่ายๆ หลักสำคัญอย่างแรก คือ การบังคับใช้กฎหมายในการกำหนดแนวเขตทับซ้อนว่าต้องแก้ไขอย่างไร


โดยขณะนี้รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม ให้รัฐมนตรีขับเคลื่อนแนวเขตที่เป็นของรัฐที่เรียกว่า วันแมพ โดยกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้กรมแผนที่ทหาร ดำเนินการเรื่องแผนที่เพื่อยุติข้อพิพาทต่างๆ ซึ่งตอนนี้ต้องรอทางกรมแผนที่ทหารที่กำลังเร่งดำเนินการ


ส่วนประเด็นที่ 2 คือ หลักวิทยาศาสตร์พื้นที่แนวเขตอุทยาน มีกฎหมายอุทยานฯ กำหนดชัดเจน ที่ต้องมีการคำนวณแนวเขตให้ชัดเจนประกอบกับหลักวิชาการ โดยแนวหลักความจริงพื้นที่ในเขตอุทยานกับพื้นที่ที่ประกาศเป็นแนวเขตปฏิรูปที่ดินหรือ ส.ป.ก. มีพื้นที่ชนกันจะไม่ประกาศ ให้เกษตรกรเข้ามาทำกิน เนื่องจากเวลาเกษตรกรเข้ามาทำกินทำไร่ทำสวน จะมีสัตว์ป่าลงมากินพืชผลเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องมาแก้ไขอีก และหากให้เกษตรกรเข้ามาทำกินในพื้นที่ติดกับเขตอุทยาน สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องการบุกรุกเขตอุทยาน


ดังนั้นนโยบายในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน จะออกแนวทางในการปฏิบัติใหม่ โดยกำหนดพื้นที่ใดก็ตามที่เป็นเขตชนกันระหว่างที่อุทยานกับที่ส.ป.ก. ให้ ห้าม หลีกเลี่ยง การจัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรทำกินเด็ดขาดขาด สงวนไปเป็นพื้นที่กันชน หรือ buffer zone และสงวนให้เป็นเขตป่าไม้ชุมชน โดยจะกำหนดแนวทางหลังประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน


ร.อ.ธรรมนัส ระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ทำงานมีหน้าที่รับผิดชอบทำงานเพื่อประเทศชาติต้องให้ความเป็นธรรมทั้งคู่ และในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ทำงานอยู่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่โคราชทั้งหมด จะต้องกลับเข้ามาทำงานในส่วนกลางเพื่อความโปร่งใส ส่วนจะใช้เวลานานหรือไม่นั้น ได้รับรายงานจากเจ้ากรมแผนที่ทหารจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 2 อาทิตย์ในเรื่องของการทำแผน ขออย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์และดึงประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในวันนี้จะหาจังหวะเข้าไปปรึกษาพล.ต.อ.พัชรวาท


ส่วนข้อกังวลหากมีชาวบ้านที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ที่กำลังจะจัดสรรเป็นเขตกันชน รัฐบาลจะต้องหาที่ทำกินใหม่ให้เกษตรกร ขอย้ำว่าไม่ต้องกังวล และไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีปัญหา แต่ขอให้เกษตรกรทั่วประเทศมั่นใจ รัฐบาลจะจัดสรรที่ดินทำกินให้ใหม่ไม่ต้องกังวล


ด้านพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จะหารือกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงกรณีข้อพิพาทต่อการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยระบุว่าเดี๋ยวจะคุยกับธรรมนัสอยู่แล้ว ไม่มีอะไร ส่วนจะคุยอย่างไรนั้น พลตำรวจเอกพัชรวาท ระบุว่า อย่างเดียวคือต้องยึดหลักกฎหมาย อย่างอื่นไม่ค่อยเกี่ยวสักเท่าไหร่หรอก ซึ่งต้องยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก


ส่วนข้อพิพาทดังกล่าวเกิดจากการใช้แผนที่คนละฉบับใช่หรือไม่ พลตำรวจเอกพัชรวาทระบุว่า มันเป็นเรื่องข้อเท็จจริง หลักกฎหมายเป็นหลัก


ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังจ้องฮุบพื้นที่ดังกล่าว พลตำรวจเอกพัชรวาท ย้อนถามกลับว่า ต้องไปถามเขา


ส่วนในฐานะที่นายชัยวัฒน์ อยู่ในกำกับดูแล ขอให้ความเป็นธรรมหรือไม่ พลตำรวจเอกพัชรวาท กล่าวว่า ผมก็ไม่ได้คุยกับเขา ก็พูดไป ส่วนจะต้องฟังจากนายชัยวัฒน์หรือไม่ พลตำรวจเอกพัชรวาท ยืนยันว่า ไม่หรอก เราต้องดูหลักกฎหมายก่อน เอาข้อเท็จจริงมาประกอบ และคิดว่าหลังการพูดคุยกับร้อยเอกธรรมนัส ก็คงรู้เรื่อง พรรคเดียวกันอยู่แล้ว


ทั้งนี้พลตำรวจเอกพัชรวาท ปฏิเสธการตอบคำถาม ว่า หากนายชัยวัฒน์ ยื่นอุทธรณ์หลังถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. นำคำตัดสินค้างเก่าคดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบ ชี้ผิดวินัยร้ายแรง และส่งอัยการสูงสุดฟันผิดอาญา มายังกระทรวงจะเปิดโอกาสให้หรือไม่ พร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที


จากนั้นร้อยเอกธรรมนัส และ นายจตุพรบุรุษพัฒน์ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ได้เดินมารอยังห้องทำงานของพลตำรวจเอกพัชรวาท เพื่อพูดคุยถึงกรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาการหารือไม่นาน ก่อนที่จะขึ้นประชุมคณะรัฐมนตรี


ขณะที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. นำคำตัดสินค้างเก่าคดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบ ชี้ผิดวินัยร้ายแรง และส่งอัยการสูงสุดฟันผิดอาญา ว่า ทางป.ป.ช.ได้แจ้งเรื่องไปที่ต้นสังกัดของนายชัยวัฒน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ซึ่งทางต้นสังกัดก็จะส่งรายละเอียดมาให้สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่ ทั้งเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และนายชัยวัฒน์ สามารถอุทธรณ์และร้องขอความเป็นธรรมกับทางกระทรวงได้ ซึ่งยอมรับว่าข้าราชการเรา โดนแบบนี้มาเยอะ ก็เปิดให้เขาร้องขอความเป็นธรรมและเสนอหลักฐานเข้ามา


"เราก็ต้องดูแลคนของเรา คนทำงานก็ต้องยอมรับว่า ต้องมีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ถ้าผิดแล้วเป็นปัญหาเราก็ต้องดูแลพื้นเจ้าหน้าที่ของเรา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานให้เขา ลูกน้องของผมทุกคนผมดูแลหมด และให้ความเป็นธรรมทุกคน"

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ