เลือกตั้งและการเมือง

'ราชทัณฑ์' แจงปล่อยตัวพักโทษ 'ทักษิณ' มีคุณสมบัติ-หลักเกณฑ์ครบตามที่กำหนด

โดย passamon_a

19 ก.พ. 2567

63 views

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารข่าว ชี้แจงกรณีการปล่อยตัวพักการลงโทษ นายทักษิณ ชินวัตร โดยระบุว่า การปล่อยตัวพักการลงโทษของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้รับตัวนายทักษิณ เข้ามาควบคุมตัวในเรือนจำ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566


โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 3 คดี รวมกำหนดโทษ 8 ปี ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือโทษจำคุก 1 ปี และนับตั้งแต่นายทักษิณ รับโทษจำคุก จนกระทั่งถึงปัจจุบัน วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นระยะเวลารวม 6 เดือน ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับการพักการลงโทษ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจะตรวจสอบคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ของนักโทษเด็ดขาด ที่เข้าเกณฑ์เพื่อดำเนินการขอพักการลงโทษ


โดยกรณีของนายทักษิณ จัดอยู่ในกลุ่มผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป โดยมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ทั่วไปครบตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2563 คือ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า


การพิจารณาการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษดังกล่าวนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ โดยมีขั้นตอนการพิจารณา ดังนี้


1. เรือนจำ หรือ ทัณฑสถาน ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนักโทษเด็ดขาดที่เข้าตามหลักเกณฑ์ พร้อมประสานขอความร่วมมือกับสำนักงานคุมประพฤติในเขตพื้นที่ของผู้อุปการะ ดำเนินการสืบเสาะข้อเท็จจริงของนักโทษเด็ดขาดจากนั้นเรือนจำ หรือ ทัณฑสถาน จะรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ


โดยมีผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนคุมประพฤติ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ จากนั้นเสนอบัญชีรายชื่อไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ


2. กรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบเอกสารข้อมูลของนักโทษเด็ดขาดที่เรือนจำ หรือ ทัณฑสถาน ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง เพื่อเสนอในที่ประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ซึ่งโดยปกติจะมีการพิจารณา เป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ กรมราชทัณฑ์จะต้องเสนอบัญชีรายชื่อผู้ที่คณะอนุกรรมการฯ มีมติปล่อยตัว ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาอนุมัติการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ


3. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาอนุมัติแล้ว กระทรวงยุติธรรมจะส่งหนังสือกลับมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อแจ้งผลการพิจารณาการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ ให้กับเรือนจำ หรือ ทัณฑสถาน ดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการฯ ให้พักการลงโทษ โดยต้องมีเอกสารแจ้งให้ผู้ได้รับการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติและปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติต่อไป


ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2567 มีผู้ต้องขังทั่วประเทศอยู่ในหลักเกณฑ์เข้ารับการพิจารณาพักการลงโทษ และได้รับอนุมัติให้ปล่อยตัวพักการลงโทษ ทั้งสิ้นจำนวน 930 ราย แบ่งเป็น การพักการลงโทษกรณีปกติ จำนวน 913 ราย การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จำนวน 8 ราย และการพักการลงโทษกรณี มีเหตุพิเศษ โครงการ สร้างงาน สร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม จำนวน 9 ราย


กรมราชทัณฑ์ จึงขอชี้แจงรายละเอียดการดำเนินงานในกรณีการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษของ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มาเพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่สาธารณชนต่อไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/TrK5tTQ4xq4

คุณอาจสนใจ

Related News