เลือกตั้งและการเมือง

'ชัยธวัช' ท้า 'ชาดา' เปิดบัญชี 'หนุนม็อบเด็ก' ลั่นอยากเห็นเหมือนกัน ด้าน 'ชาดา' โต้กลับเปิดอยู่แล้ว ไม่ต้องท้า!

16 ก.พ. 2567

137 views

วานนี้ (15 ก.พ.67)  ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุทิน​ คลังแสง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม​ ครั้งที่​ 2/2567 ถึงกรณีการปกป้องสถาบัน ภายหลังนักกิจกรรมบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ  โดยระบุว่า ในการประชุมสภากลาโหมวานนี้  มีการพูดคุยถึงกรณีดังกล่าว และก่อนหน้านี้ก็เฝ้าติดตามสถานการณ์เรื่องนี้มาโดยตลอด พร้อมกับได้สั่งการทุกเหล่าทัพที่มีหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว ได้เกาะติดสถานการณ์ และสกัดกั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก


สำหรับในการถวายอารักขาความปลอดภัย​ กองทัพถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด​ แต่ยังมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจและในส่วนพระองค์​  ซึ่งทางกองทัพให้การสนับสนุน ​ ถ้าหากเกินกำลังของทั้ง​ 2 หน่วย​ กองทัพพร้อมตลอดเวลา​ ซึ่งทั้งงานด้านการข่าว การสกัดกั้นความเคลื่อนไหว กองทัพทำอยู่ และจะทำทุกวิถีทางไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก


นายสุทิน​ กล่าวด้วยว่า​ กองทัพสามารถแสดงจุดยืนได้อย่างเต็มที่​ ในกรอบ​ระเบียบ​วินัย​ ซึ่งในช่วง​ 2-3 วันที่ผ่านมา​ กองทัพก็ทำอยู่ในเกณฑ์ที่พองาม เราจะไม่ก้าวเกินจนถึงขนาดไปคุกคาม หรือละเมิดสิทธิ์ของประชาชน เราต้องคำนึงถึง 2 เรื่องนี้​


เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายกังวลว่าเหตุการณ์​ดังกล่าวจะนำไปสู่เหตุการณ์​ 6 ตุลาคม​ 2519 นายสุทิน​ กล่าวว่า​ เราก็ระมัดระวังอยู่เรื่องนี้ แม้เราจะต้องถวายอารักขาความปลอดภัยเต็มที่ แต่เราก็ต้องใช้สติปัญญา โดยการนำประสบการณ์ในอดีต หากเราไม่ดูแลและไม่ละเอียดอ่อน อาจจะเกิดผลในอีกทางหนึ่ง และเชื่อว่าอาจมีคนคิดทำเช่นนั้นอยู่ เราก็เฝ้ามองและรู้ทัน​ และจะไม่ตกเป็นเครื่องมือและปล่อยให้สถานการณ์เลยเถิดไปขั้นนั้น


มื่อถามว่า หลังมีเรื่องป่วนขบวนเสด็จ จะทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายเรื่องการประชาสัมพันธ์ หรือ ไอโอ ต่อกองทัพว่า ให้ประชาสัมพันธ์เฉพาะผลงานรัฐบาล อย่าเอาไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง  ก็คงเป็นการทำความเข้าใจ ว่าอะไรควร ไม่ควร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เป็นการเตือนสติเท่านั้น คนในประเทศเรามีหลายระดับ มีผู้ใหญ่มีเด็ก มีคนมีวุฒิภาวะ และไม่มีวุฒิภาวะ การให้การศึกษาเรียนรู้ ตักเตือนกัน ถือว่าเป็นเรื่องทำได้ ไม่มีปัญหา


โดยภายหลังการให้สัมภาษ​ณ์เสร็จสิ้น นายสุทิน​ได้นำคณะทำงานที่สวมเนคไทสีม่วง​ ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มายืนโชว์สื่อมวลชน​ พร้อมทั้งระบุว่า​ การสวมเนคไทครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแสดงจุดยืนหรือแสดงอะไร​ แต่เป็นการถวายกำลังใจมากกว่า และอยากให้กระตุ้นเตือนคนไทยทุกคน​ พร้อมทั้งยอมรับว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราได้เห็นบรรยากาศความขัดแย้งของคนภายในประเทศ ตั้งแต่ระดับฝ่ายบริหาร เช่น​ ในรัฐสภา มวลชน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน​ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องระวัง พอเกิดอะไรขึ้นมาก็ซวยกันทั้งหมด


ขณะที่​พลเรือตรี​ธนิตพงศ์ สิริเศวตศักดิ์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไม่มีการปิดการจราจรเมื่อมีขบวนเสด็จฯ นานแล้ว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากขบวนเสด็จฯ ทั้งขบวนเสด็จฯของพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ จึงทรงมีพระราโชบาย  มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้กำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้มีความเหมาะสม มีการจัดช่องทางให้เสด็จฯ ในส่วนของพระองค์ และช่องทางของประชาชน


ในส่วนของฝ่ายความมั่นคง ก็จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2557 และ 2560 และดำเนินการถวายพระเกียรติต่างๆ ในการปฏิบัติภารกิจ ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์

--------------

วานนี้ (15 ก.พ.67)  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีการจับกุมดำเนินคดีกับตะวันและพวก กรณีบีบแตร-ขวางขบวนเสด็จฯ ว่า จากแนวทางการสืบสวนและการตั้งข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าอาจจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม แต่ต้องดำเนินการรอบคอบจนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดว่า มีบุคคลใดอยู่เบื้องหลังชัดเจน แต่ย้ำว่าได้กำชับให้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดูความเชื่อมโยงทุกมิติ ไม่ต้องเร่งรีบจนทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย


ส่วนที่หลายฝ่ายมีความเห็นต่างในเรื่องดังกล่าว จะทำให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ ผบ.ตร.ยืนยันว่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  เพราะตำรวจจะใช้พยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเท่านั้น รวมถึงชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางคดีจนถูกสังคมโจมตีได้


ผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการอารักขาดูแลถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ อย่างแรก เรื่องการจัดขบวนอารักขาเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชองครักษ์  ส่วนเรื่องเส้นทางการจราจรเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดจะมีการประชุมและจะมีการแถลงแผนร่วมกันทุกครั้งที่จะมีขบวนเสด็จฯ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการวิ่งเข้ามาในขบวนเสด็จหรือวิ่งคู่ตัดเข้ามาในขบวนเสด็จ ซึ่งครั้งนี้ประชาชนยังสามารถสัญจรในเลนซ้ายร่วมกัน  โดยไม่มีการปิดจราจร  อีกทั้งขบวนปิดท้ายขบวนเสด็จฯ จะมีการติดตั้งกล้องหลังเพื่อดูความเคลื่อนไหว ว่าประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ ซึ่งในปัจจุปันขบวนเสด็จฯได้มีการปรับให้สอดคล้องกับการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุปันไม่ให้ได้รับผลกระทบ


ทั้งนี้ ผบ.ตร.กล่าวย้ำว่า การถวายความปลอดภัยเป็นหน้าที่สูงสุดของตำรวจต้องทำด้วยชีวิต ส่วนในเรื่องข้อกฎหมายจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุดเรื่องขบวนเสด็จ ว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศเนื่องจากเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน


ผบ.ตร.ยังย้ำว่าความเห็นต่างสามารถทำได้ แต่ต้องไม่แตกแยก แต่ละฝ่ายต้องทำความเข้าใจกัน ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีใครไม่จงรักภักดี ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ จะทำยังอย่างไรให้เข้าใจเรื่องของสถาบันและประวัติศาสตร์ชาติไทย อยากให้ทุกคนเข้าใจและไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร โดยเฉพาะการเมือง

-------------
วานนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดสมุดกลางสภา พร้อมระบุว่า ’มีผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน ว่า ขอให้เปิดได้เลย เพราะต้องยอมรับว่า มีความพยายามเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง ว่ามีพรรคการเมืองและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชน


ดังนั้น ขอให้เปิดได้เลย และเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้าง ที่เคยสนับสนุนงบประมาณให้กับการเคลื่อนไหวของเยาวชน ที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งตนก็อยากเห็นเหมือนกันว่า จะมีกลุ่มการเมืองไหนบ้าง ที่หวังจะใช้กระแสความนิยมจากการเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาว เพื่อสร้างความนิยมให้กับตนเอง โดยการสนับสนุนงบประมาณ ตนก็อยากเห็นเช่นกัน และยืนยันว่า ไม่กังวล ขอให้เปิดได้เลย อาจจะมีพรรคอื่นก็ได้


นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า จะมีการคุยกันว่า จะจัดเวทีกิจกรรมเป็นเวทีฝ่ายค้านพบประชาชนกันเมื่อไหร่ มีประเด็นอะไรบ้าง โดยที่ไม่ต้องรอให้ปิดสมัยประชุมสภาฯ เพราะหลายประเด็นมีความสำคัญ และไม่สามารถที่จะรอได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอ ว่าในต้นเดือนมีนาคมนี้ จะสนับสนุนให้จัดเวทีเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพราะสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครก็หนัก และภาคเหนือก็เริ่มมีปัญหา จะไปจัดเวทีในเดือนพฤษภาคมคงไม่ได้ เพราะมีฝนแล้ว ทั้งนี้ นายธวัชยืนยันว่า จะเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันของฝ่ายค้าน ซึ่งก็เคยมีการทำกันเป็นปกติในทุกยุคทุกสมัย


สำหรับกรณีที่จะมีการยกเลิกการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ทราบข่าวมาเช่นกัน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้ถอนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกไป ดังนั้น ทางพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างนี้ประกบ ก็ต้องถอนไปด้วย

--------------
วานนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่างถึงกรณีนายชัยธวัชท้าให้เปิดบัญชี ว่า


ตนจะไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ผมเปิดอยู่แล้วไม่ต้องกลัว แต่ขอให้ถามมาในระบบจะตอบในระบบ เพราะมีข้อกฎหมาย ไม่ใช่คนที่ถามถามเอง แต่เป็นบุคคลที่ 3 ถึงเวลาไม่ต้องห่วง ได้ความจริง


เมื่อถามย้ำว่ามีข้อมูลชัดเจนใช่หรือไม่นายชาดา กล่าวว่า ใครอภิปรายชัดเจนก็คนนั้นแหละคับผม"ส่วนที่บอกว่าระวังเป็นพรรคอื่น นายชาดาย้ำว่า "เรื่องนี้ไม่มีพรรคอื่นครับ


เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่าเป็นพรรค ที่พูดเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า "ก็ไม่รู้ว่าใครพูด ก็ไม่มีพรรคอื่น ใครพูดออกมาว่าอาจจะเป็นพรรคอื่น พูดออกมาผมก็ตอบกลับไปว่าไม่มีพรรคอื่น แค่นั้นแหละครับผมไม่อยากทะเลาะกับคนพวกนี้ แต่ผมอยากสกัดกั้น การกระทำที่ไม่ดีแค่นั้นเอง"

-----------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/tO5xPs-n0ME



คุณอาจสนใจ

Related News