เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' กำชับผู้ว่าฯ ลงพื้นที่มากขึ้น ป้องกันไฟป่า - ฝากกองทัพบกช่วยดูแลแบบบูรณาการ
โดย nattachat_c
16 ก.พ. 2567
244 views
เวลา 10.55 น. วานนี้ (15 ก.พ.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลรายงานคุณภาพอากาศประเทศ เพื่อติดตามปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 หลังจากหลายพื้นที่สถานการณ์ฝุ่นเป็นสีแดงซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และกรุงเทพมหานครได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนเวิร์คฟอร์มโฮมเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รอรายงานสถานการณ์ เนื่องจากพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการตอบกระทู้สดที่สภาผู้แทนราษฎร
เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงได้ดูสถานการณ์ภาพรวมทั่วประเทศจาก heat map หรือ แผนภาพความร้อน และรับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งภาพรวมทั่วประเทศถือว่าดีถือว่าดี แต่นายกรัฐมนตรีอยากให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นในการบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างที่ตนได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มาหลายครั้งต้องชื่นชม จึงอยากให้เชียงใหม่เป็นโมเดลให้กับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งนอกจากปัญหาในประเทศแล้วยังมีปัญหาจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งปัจจุบันในส่วนของกัมพูชาสถานการณ์ดีขึ้น เนื่องจากหมดฤดูกาลเผา แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังเพราะยังมีการทำการเกษตรต่อ แต่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือจากฝั่งลาวและเมียนมา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานความร่วมมืออยู่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายงานว่าสถานการณ์จุดความร้อนขณะนี้ที่จังหวัดกาญจนบุรีถือว่ามีความน่าเป็นห่วง ซึ่งสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ขณะนี้ส่วนหนึ่งมาจากทิศทางลมที่พัดเข้ามาในประเทศไทยแต่หลังจากนี้อีก 2-3 วันทิศทางลมจะเปลี่ยนไป
นายกรัฐมนตรี จึงระบุว่า เราจะหวังพึ่งฟ้าฝนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ หากบริหารจัดการส่วนไหนได้ควรที่จะเร่งทำก่อน อย่าให้พี่น้องประชาชนฝากผีฝากไข้ไว้กับลมฟ้าอากาศ ทำได้ตรงไหนต้องทำไปก่อนเพราะสถานการณ์วันนี้ไม่ดี
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสั่งการด้วยว่า วันนี้ตัวเลขต่างๆ ออกมาเขียนได้ชัดเจน อยากให้มีการรวบรวมข้อมูลแต่ละหน่วยงานจะได้ประสานได้อย่างทันท่วงที และวันนี้ตนจะสั่งการไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยให้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ส่วนระยะยาวจะต้องเร่งดำเนินการให้องค์ความรู้กับเกษตรกร หรือในพื้นที่กทม. ปัญหาหนึ่งในสามเกิดจากปัญหาควันจากรถยนต์ ขณะนี้การแก้ปัญหาระยะสั้น กทม. ให้เวิร์คฟอร์มโฮม ส่วนระยะยาวอาจจะต้องมีการย้ายสถานที่ โดยเฉพาะที่ที่มีการปล่อยอากาศเสียออกมา
ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มาดูปัญหา Pm 2.5 ได้มีการพูดคุยกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีจุดความร้อนอยู่ที่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจังหวัดกาญจนบุรี และวานนี้ (15 ก.พ.) 13.30 น.นัดประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บัญชาการทหารบกและทีมงาน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งหากดูจากแผนที่จุดความร้อน จะพบว่าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งควรจะเป็นช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงเป็นลำดับต้น ๆ แต่ปรากฏว่าขณะนี้เป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะมีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะนำเชียงใหม่โมเดลไปใช้ในทุกจังหวัด ต้องเริ่มจากการให้องค์ความรู้กับเกษตรกรและฝ่ายความมั่นคงได้ใช้เครื่องมือมาขนส่งเศษวัสดุก่อสร้างไปบริหารจัดการให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หลังจากที่ได้รับข้อมูลจุดพื้นที่ความร้อนจากกระทรวงทรัพย์ฯ ว่าพื้นที่ที่เป็นจุดความร้อนจริงๆ ต้องสั่งการให้ตรงจุดว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะในพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา เมียนมาร์และลาว ไม่ใช่รอสภาพอากาศว่าอีก3-4 วันลมทิศทางลมจะดีขึ้นหรือฝนฟ้าอากาศจะช่วย ต้องทำทันที การรอดินฟ้าอากาศไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง
ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวควรจำกัดเรื่องการปล่อยควันดำจากท่อไอเสียและส่งเสริมการใช้รถอีวี เพราะปัญหาฝุ่นกว่า 25% จากท่อไอเสีย ด้านการย้ายคลองเตยออกไปอยู่ในพื้นที่อื่น กรุงเทพมหานครได้เสนอเรื่องมาแต่ต้องมีการพูดคุยกันก่อนเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นในระยะยาว รวมไปถึงการเผาในพื้นที่ต่างๆ ที่มาตามทิศทางลมด้วย ขณะเดียวกันจะมีการเชิญชวนประชาชนใช้รถขนส่งสาธารณะมากขึ้น ส่วนการลดค่าโดยสารเพื่อสร้างแรงจูงใจต้องมีการพูดคุยกันก่อน
-------------
วานนี้ (15 ก.พ.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน การประชุมติดตามสถานการณ์ฝุ่น โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลโทอานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนและโฆษกกองทัพบก เป็นต้น หารือยังห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ต้องบูรณาการหลายภาคส่วน ซึ่งเรื่องปัญหาฝุ่นละอองPM 2.5 การประสานงานระหว่างหลายภาคส่วนของรัฐบาล ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ซึ่งหลายฝ่ายมีส่วนทำให้มันไม่ราบรื่น ตนต้องขอโทษด้วย หากต้องมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เชื่อว่าเชียงใหม่ทำได้ กาญจนบุรีที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ก็ทำได้ พร้อมกับระบุว่าผู้ว่าฯ เองต้องแอคทีฟให้มากขึ้น ลงพื้นที่ให้เยอะขึ้นไปบัญชาการเองเรื่องการเก็บวัชพืช และเรื่องการป้องกันไฟที่จะเกิดขึ้น ทั้งจุดความร้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีเครื่องมือที่ดีมาก ฝากให้นายอนุทิน ขอให้พื้นที่ทุกจังหวัด ช่วยกันคิดว่าแต่ละจังหวัดมีกลไกอะไร ที่จะสามารถระดมสรรพกำลังซึ่งเชื่อว่าสามารถทำได้
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ตนได้มีการหารือกับผู้บัญชาการทหารบก ว่ายุทโธปกรณ์อะไรที่ยังไม่ได้ใช้ เช่น รถลำเลียงคน ขอให้เปลี่ยนมาเป็นรถจัดเก็บซากวัชพืชลำเลียงให้กับเกษตรกร ไปทำไบโอดีเซล ทำถ่านไร้ควัน ทำปุ๋ยอินทรีย์ รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนด้านน้ำมันให้อยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยตนขอให้พื้นที่ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเกษตรจังหวัด และประสานกับท้องถิ่นให้ดี ตนเชื่อว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้
จากนั้นโฆษกกองทัพบกได้รายงานว่าผู้บัญชาการทหารบกรับสนองนโยบาย และได้สั่งการไปยังแม่ทัพภาค 1 ที่รับผิดชอบในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีโดยกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เป็นผู้ดำเนินการและบริหารงานร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า ตนเข้าใจว่ากองทัพพยายามทำงานอยู่ และตนคิดว่า แม่ทัพภาค 1 เองมีภารกิจค่อนข้างมาก แต่อยากให้ลงไปดูเองบ้าง ตรงแนวที่มีจุดความร้อนจำนวนมาก เพราะไม่เช่นนั้นจะได้รับการบูรณาการที่ไม่จริงจัง เพราะขณะนี้อ้อยในพื้นที่ถูกเก็บเกี่ยวเกือบหมดแล้วเหลือข้าวกับข้าวโพด และตนก็ได้สั่งการบางอย่างไปไว้ก่อน ซึ่งพื้นที่เชียงใหม่ตนลงพื้นที่ไปสามครั้งแล้ว อยากให้ตนลงไปช่วย ตนก็ยินดีไป ไม่มีปัญหา ขอให้บอก ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีรายงานว่าอีกสามวันจะมีการเปลี่ยนของทิศทางลมทำให้เรื่องนี้ดีขึ้น แต่เราก็อย่าหวังพึ่งทิศทางลมเลย เราต้องช่วยกันก่อน เพราะมันดีได้อีกสองวัน เดี๋ยวมันก็เลวได้อีกสามวันตรงนี้คนป่วย คนเจ็บ และอาจมีผู้เสียชีวิตได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิพื้นฐานของพี่น้องประชาชน ส่วนฝุ่นที่มาจากกัมพูชาหรือที่ใดตนรับไปพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศเอง
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังสั่งการไปยังนายอนุทิน ว่าขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วง สุดสัปดาห์แล้วขอให้รีบเร่งประชุมผ่านระบบวิดีโอ conference ก็ได้ อย่าใช้เพียงการสั่งการอย่างเดียว
“ขอเถอะ ควรจะต้องลงพื้นที่ให้เยอะขึ้น ไปสำรวจกันหน่อย ใส่รองเท้าบูทยอมเหนื่อยกันหน่อย มือเปื้อนดิน เท้าเปื้อนโคลนหน่อย ถ้าผู้ใหญ่ลงไปกันเองผมว่ามันได้ใจนะ ซึ่งที่เชียงใหม่ก็ทำอย่างนั้น ทุกๆ ภาคส่วนเลย รวมถึงแม่ทัพภาคที่ 3 ก็ทำได้มาก ยังไงฝากหน่อยแล้วกัน และมันจะช่วยได้หมด ไม่ใช่แค่ PM 2.5 อย่างเดียว เรื่องยาเสพติด สินค้าเถื่อน ถือเป็น 3 ปัญหาหลัก หากแก้ปัญหาสินค้าเถื่อนได้ดี พืชผลไทยก็จะขึ้นมาเยอะ รายได้พี่น้องจะเข้าสู่กระเป๋าเยอะขึ้น เพราะไม่ไปสอดส่ายกับยาเสพติด ผมว่ามันเป็นห่วงโซ่ที่จะเป็นเรื่องบวกในวันข้างหน้า ยังไงขอให้หนักหน่อย เสาร์-อาทิตย์นี้ถ้าเป็นไปได้ ผู้ใหญ่ลงไปหน่อยแล้วกัน และขอให้รองนายกฯไปเยี่ยมที่เชียงใหม่ด้วย ไปให้กำลังใจเขาหน่อย เพราะเขาทำได้ดีมากจริงๆ และให้นำไปทำในพื้นที่จังหวัดอื่นด้วย”
ภายหลังการประชุมนายอนุทิน เปิดเผยว่า ตนจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายประชุมผู้ว่าฯในพื้นที่ภาคเหนือ ทำความเข้าใจกับในพื้นที่หาแนวทางแก้ไขซึ่งคิดว่าจะนำโมเดลของจังหวัดเชียงใหม่มาปรับใช้
ส่วนมาตรการเร่งด่วนก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและขอความร่วมมือเรื่องของการเผาซากผลผลิตและวัชพืชแต่ก็ยังมีการลักลอบอยู่บ้าง ส่วนที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านรัฐบาลก็จะใช้วิธีการเจรจา สำหรับในพื้นที่เมืองใหญ่ก็อาจจะต้องใช้มาตรการเวิร์คฟอร์มโฮมรวมถึงเรื่องของอาจจะต้องใช้รถสาธารณะให้มากขึ้น เพื่อลดฝุ่นควัน
เมื่อถามว่า เรื่องของเวิร์คฟอร์มโฮม แม้กทม. จะมีการออกมาตรการไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร นั้น นายอนุทิน กล่าวว่าอยากให้มองว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา ก็ชัดเจนว่าไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นอุปสรรค ช่วงไหนที่สภาพอากาศไม่ดีก็อยากจะขอความร่วมมือ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องล็อคดาวน์เหมือนช่วงโควิด ไม่อยากต้องใช้มาตรการบังคับ แต่อยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือซึ่งเป็นเรื่องของจิตสำนึก
------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VqlZpSxXy-g