เลือกตั้งและการเมือง
"พิธา" หนุนออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ย้อนถึงปี 2549 เลิกผูกขาดกับคณะรัฐประหาร ป้องวัฒนธรรมผิดลอยนวล
1 ก.พ. 2567
285 views
"พิธา" หนุนออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ย้อนถึงปี 2549 เลิกผูกขาดกับคณะรัฐประหาร ป้องวัฒนธรรมผิดลอยนวล ไม่ใช่แค่นิรโทษกรรมให้คนที่สั่งฆ่า แต่จะต้อง เยียวยาเหยื่อที่ถูกฆ่าด้วย ขอ 3 เสาหลัก นายกฯ สั่งชะลอคดี ขณะฝ่ายอัยการศาล ต้องวินิจฉัยคดี ด้วยความรัดกุม รอบคอบ บนฐานของข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ใช่เอาอารมณ์ หรืออะไรอย่างอื่นมาตัดสิน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายสนับสนุน ญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่พรรคเพื่อไทย เสนอ ว่า การนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย และไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเสมอไป ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ประเทศไทยเคยนิรโทษกรรมมาแล้วทั้งหมด 22 ครั้งด้วยกัน และถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะนิรโทษกรรมเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม เพิ่มเสถียรภาพให้กับการเมือง ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ คืนพ่อให้กับลูกสาวที่ยังเล็กได้ เพื่อให้คนที่อยู่ในต่างประเทศที่มีความเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกับรัฐกลับมาสู่มาตุภูมิประเทศของเขา ตนจึงคิดว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวหรือมีภาพที่เป็นลบตลอดเวลา
ตนคิดว่า โอกาสในการรับนิรโทษกรรม ไม่ควรผูกขาดกับคณะรัฐประหาร หรือคนที่คิดที่จะล้มล้างการปกครอง เพียงอย่างเดียว ไม่ควรที่จะผูกขาดกับคนที่จะบ่อนเซาะ ต้องการที่จะทำลายระบบ ประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว
ก่อนที่นายพิธาจะหยิบเอกสารจากสภาฯ ขึ้นมาอ้างอิง พร้อมระบุ ตั้งแต่ปี 2475 - 2557 ไม่ว่าจะครั้งไหน มีเพียงแค่ 2521 ครั้งเดียว ที่เป็น พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ นอกจากนั้น มีแต่นิรโทษกรรมผู้กระทำการปฏิวัติ ยึดอำนาจปกครองประเทศ ความผิดต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรในฐานะ กบฏ นี่คือสิ่งที่เราไม่ควรอนุญาตให้การผูกขาดการนิรโทษกรรม อยู่กับการรัฐประหาร เพียงอย่างเดียว
การนิรโทษกรรมไม่ใช่แค่เรื่องการให้พ้นผิดทางกฎหมาย ภาษาอังกฤษ คือ Amnesty มาจากภาษากรีก แปลว่า ทำให้ไม่ต้องจำ ทำให้ลืมไป ต้นคิดว่าประเทศไทยต้องก้าวผ่านเรื่องแค่การพ้นผิดทางกฏหมายเพียงอย่างเดียว เราควรที่จะคิดเรื่องนี้ว่าเป็นโอกาสสร้างความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เราควรมีการป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ทำให้เกิดความโป่งใสขึ้น ทำให้เกิดการเสาะหาข้อเท็จจริงขึ้น รวมถึงการรับผิดชอบต่อสาธารณะ จึงจะทำให้ความปองดอง เกิดขึ้นในชาติ ได้จริง
นี่จึงเป็นโอกาสที่สังคมไทยจะก้าวเกินกว่าแค่เรื่องการนิรโทษกรรม เพราะ เป็นแค่จุด จุดหนึ่ง เท่านั้นในการจะทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองประเทศไทยรถน้อยลงและมีเสถียรภาพและมีสมาธิพอที่จะใช้พลังของพวกเราในการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นการเมืองเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อมหรือเรื่องการศึกษาก็ตาม
เราต้องยอมรับก่อนว่า เราอยู่ในช่วงความขัดแย้ง ทางการเมืองไทย อย่างน้อยนับแต่การทำรัฐประหาร 19 กันยายน สร้างบาดแผล ร้าวลึก กับสังคมไทยตั้งแต่สงครามสีเสื้อ จนถึงการลุกขึ้นเรียกร้องของเยาวชนคนรุ่นใหม่ นำไปสู่ 10 กว่าปีที่สูญหาย ตั้งแต่ปี 2549 - 2567 การเมืองไทยประสบพบผ่านนายกรัฐมนตรี 7 คน รัฐประหาร2 ครั้ง รัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ม็อบใหญ่ต้านรัฐบาล 9 ระลอก การประทะปราบปรามสลายม๊อบ 5 ยก คนล้มตาย เรือนร้อย บาดเจ็บเรือนพัน เศรษฐกิจเสียหายหลายแสนล้านบาท
เพราะฉะนั้นการนิรโทษกรรมครั้งนี้ จะต้องไม่คิดเฉพาะคนที่ทำรัฐประหาร แต่ ควรคิดที่เหยื่อ คนที่ถูกทำรัฐประหาร เราต้องคิดถึงคนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายจากรัฐบาลที่สืบทอดมาจากการทำรัฐประหาร ไม่ใช่จำเป็นเฉพาะแค่พูดออกมาเรียกร้องทางการเมือง แต่ยังมีเรื่องอื่นเช่นการการติดคุกทวงคืนผืนป่า หรือคนที่ถูกรัฐฟ้องปิดปากประชาชน
ถ้าเราตั้งหลักกันได้ ว่าเวลา ที่จะนิรโทษกรรมเมื่อไหร่ หากฟังที่ตนพูดก็จะรู้ได้ว่าอย่างน้อยย้อนหลังไปถึงปี 2549 ใครที่จะได้รับนิรโทษกรรม ก็คงจะเดาออก ส่วนกระบวนการที่จะทำไม่ใช่แค่บอกว่ายุติคดีทางอาญาแต่คือการเยียวยาการออกมารับผิดชอบสร้างสาธารณะ ไม่ให้เกิดวัฒนธรรมผิดลอยนวล ไม่ใช่แค่นิรโทษกรรมของคนที่สั่งฆ่าแต่จะต้อง ดูคนที่ถูกฆ่าด้วย พูดในมุมของคนที่ต้องสูญเสียอิสรภาพในการอยู่ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอน เท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นการนิรโทษกรรมที่รอบคอบบรรลุไปถึงเป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการ ณ ปัจจุบัน
ถ้าหากทำแบบนี้ตอนคิดว่าจะเป็นกระดุมเม็ดแรกที่เราจะสามารถตั้งต้นทั้งสามอธิปไตยของประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1. ฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรี สามารถสั่งตำรวจได้เลย ชะลอคดี
2. ฝ่ายอัยการศาล ต้องวินิจฉัยคดี ด้วยความรัดกุม รอบคอบ บนฐานของข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเท่านั้นไม่ใช่เอาอารมณ์ หรืออะไรอย่างอื่นมาตัดสินด้วย
3. ฝ่ายรัฐสภา อภิปรายความแตกต่าง ของ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน และรวมถึงข้อคิดเห็นของประชาชนด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ,พ.ร.บ.นิรโทษกรรม