เลือกตั้งและการเมือง

'จุลพันธ์' รับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ช้ากว่า พ.ค. แต่ยังมีนโยบายอื่น - 'เศรษฐา' เมินนิด้าโพล เผยลงพื้นที่มีแต่คนต้องการ

โดย nattachat_c

30 ม.ค. 2567

91 views

หลังประกาศฟรีวีซาไทย-จีน พบว่า ประเทศไทยถูกค้นหาเพิ่มถึง 7 เท่า บน Ctrip เว็บไซต์สำหรับบริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรยักษ์ใหญ่ของจีน


โดย เพจ อ้ายจง ได้เปิดเผยข้อมูลระบุว่า หลังไทย-จีน ประกาศฟรีวีซ่า อย่างเป็นทางการ พบว่า คนจีนเข้าไปค้นหาเกี่ยวกับประเทศไทย บน Ctrip เพิ่มถึง 7 เท่าจากปกติ โดยเฉพาะการค้นหาตั๋วเครื่องบิน และที่พัก


โดย TOP 5 สถานที่ที่ถูกถามหามากสุด คือ

1. กรุงเทพ

2. ภูเก็ต

3. เชียงใหม่

4. เกาะสมุย

5. พัทยา


ขณะที่ ข้อมูลจากการบินพลเรือนจีน ระบุว่า แผนการกำหนดไฟล์ทบินระหว่างเมืองในจีนและไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณมากถึง 7,620 ไฟล์ท  โดยเส้นทางเซี่ยงไฮ้-กรุงเทพ และกว่างโจว-กรุงเทพ เป็น 2 เส้นทางที่มีไฟล์ทบินมากสุด เกิน 400 ไฟล์ทต่อเส้นทาง


ทั้งนี้ สามสัปดาห์แรกของปีนี้ (67) คนจีนเข้าไทยแล้วเกิน 3 แสนคน หรือเฉลี่ยสัปดาห์ละเกิน 1 แสนคน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีน กลับมาทวงแชมป์ เป็นเบอร์ 1 แซงหน้ามาเลเซีย


ขณะที่นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า มีเเผนเพิ่มเส้นทางใหม่ อาทิ ดอนเมือง-ปักกิ่ง รวมทั้งความถี่บินเส้นทางไทยเเละจีน ที่ปัจจุบันบินอยู่ 11 เส้นทาง เพื่อรองรับปริมาณการเดินทาง ที่คาดว่ายอดจองจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หลังการเปิดฟรีวีซ่า ทั้งนี้ ตั้งเเต่ไตรมาส 4 ปี 66 จนถึงปัจจุบันมีคนไทยไปจีนกับแอร์เอเชียกว่า 1 แสนคน กลับมา 100% เทียบก่อนโควิด ขณะที่คนจีนมาไทย มียอดกว่า 3.5 เเสนคน

----------------
วานนี้  (29 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อน เป็นประธานการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 2/2567 ถึงกรณีที่นิด้าโพลเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนว่า ไม่โกรธเลยถ้ายกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท


นายเศรษฐา ระบุว่า โพลก็มีหลาย ๆ อย่าง ทั่วถึงหรือไม่ ถามคนที่จังหวัดหนองบัวลำภู บึงกาฬหรือไม่ เพราะอย่างนั้นต้องดูนิดหนึ่งแล้วกัน


เมื่อถามย้ำว่า  แสดงว่าที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ประชาชนต้องการใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ไม่มีใครบอกว่าไม่ต้องการเลย”

----------------

วานนี้ (29 ม.ค. 67)  นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเตรียมรับมือกับข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.จะออกมาอย่างไร  ก็พร้อมที่จะเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ภายใต้เงื่อนไขเดิมทุกประการ


ซึ่งเอกสาร ป.ป.ช. ที่หลุดออกมา ก็พอที่เห็นภาพแต่ละประเด็นว่ามีอะไรบ้าง อะไรที่ตอบได้ก็ตอบ อะไรที่ตอบไม่ได้ก็ต้องเตรียมการว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อที่จะขจัดขอห่วงใยเหล่านั้น  ซึ่งหากสิ้นสุดการตอบข้อสงสัยของ ป.ป.ช.แล้ว จะเรียกประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ เพื่อเดินหน้าโครงการต่อทันที ซึ่งตนเองก็ได้ยินมาจากข่าวว่า ป.ป.ช.จะชัดเจนในอีก 2 สัปดาห์หลังจากนี้


อย่างไรก็ตามยังไม่ได้พูดถึงกรอบเวลาในการออกมาตรการ  แต่ล่าช้าจากเดือนพฤษภาคม 67 แน่นอน และยอมรับว่าผลจากมาตรการต่อการผลักดันจีดีพีที่เคยประเมินไว้ว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ อาจลดลงและเลื่อนไปส่งผลในปีหน้า แต่รัฐบาลไม่ได้ทำเพียงนโยบายเดียว ได้พูดคุยถึงมาตรการอื่น ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม


ส่วนกรณีที่อาจเปลี่ยนจากการออก พ.ร.บ.จะเป็น พ.ร.ก.หรือไม่นั่น แม้ยังไม่มีการพูดคุย แต่ตามข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ว่ากลไกใด ๆ หากอยู่ในอำนาจของรัฐบาล เพื่อผลักดันโครงการก็มีโอกาสเสมอ


สำหรับโพลล์จากสำนักต่าง ๆ เช่น นิด้า ยินดีรับฟังความคิดเห็น แต่คงไม่นำมาเป็นตัวกำหนดนโยบาย ส่วนใหญ่แสดงความเป็นห่วงในสถานการณ์เศรษฐกิจ ว่าเข้าข่ายวิกฤติหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่ในระดับบน ถ้าไม่เดือดร้อนก็ไม่รู้สึก แต่คนระดับล่างหากไปถามก็นับว่าเข้าขั้นอันตรายแล้ว เศรษฐกิจถดถอย จากภาระหนี้ภาคครัวเรือน หนี้เอกชนสูง การลงทุนน้อย คิดแต่เรื่องการประทังชีวิตและลดหนี้สิน ทำให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ยาก อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำมาโดยตลอด ซึ่งสะท้อนจากตัวเลขของสำนักงานการคลัง หรือ สศค. ที่ประเมินจีดีพีไทย ปี 66 โตเพียง 1.8% และเชื่อว่าตัวเลขจากสภาพัฒน์ที่กำลังจะประกาศออกมา  ก็คงใกล้เคียงกัน


อย่างไรก็ตาม การนิยามคำว่า วิกฤติทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคล ซึ่งรัฐบาลประเมินว่าวิกฤติ  ทั้งนี้ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ซึ่งจะผลักดันให้กลไกการวิเคราะห์และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายของสภาผู้แทนราษฎรให้แล้วเสร็จเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดปกติที่ 105 วัน หรือ ก่อน เม.ย. 67 โดยเปิดให้ออก TOR ได้ก่อน กรณีจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อเตรียมพร้อม เมื่ออยู่ในวาระ 2 ของการพิจารณา เมื่อเงินพร้อมก็สามารถเปิดช่องให้ดำเนินการได้ทันที


นอกจากนี้ กระทรวงการคลังโ ดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ มีแผนที่จะจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปี 2567 งวดแรกเดือนมีนาคม วงเงิน 40,000 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อรองรับการบริหารการเงินการคลังของภาครัฐ สร้างการกระจายเครื่องมือระดมทุนของรัฐบาลให้หลากหลาย ครอบคลุมนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ซึ่งส่วนนี้จะพุ่งเป้ากลุ่มรายย่อย ทั้งนี้แผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ทั้งปีของคลังอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท


นอกจากนี้ จากการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเพื่อเข้าร่วมการประชุม Asian Financial Forum (AFF) ครั้งที่ 17 ที่ผ่านมา ได้มีแผนจะออกพันธบัตรเงินตราต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของไทย โดยมองโอกาสไว้ในหลายสกุลเงิน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ซามูไรบอนด์ เพื่อเป็นเบนช์มาร์คให้ภาคธุรกิจที่จะออกตราสารหนี้ ออกเงินกู้ต่างประเทศ ซึ่งฮ่องกงแสดงความสนใจที่อยากจะออกพันธบัตรร่วมกับไทย คาดว่าจะเห็นภายใน 1-2 ปี นับจากนี้ อีกทั้ง SME ฮ่องกงยังแสดงความสนใจที่จะลงทุน โครงการ EEC เช่น อู่ตะเภาเฟส 2 ซึ่งไทยจะต้องกำหนดเงื่อนไขไม่ให้ SME ไทยเสียเปรียบ และต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเทคโนโลยีด้วย

---------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ixryvO-RXeE




คุณอาจสนใจ

Related News