เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ ลงดูพื้นที่จริงสร้าง Land Bridge เจอป้ายขึ้น "No landbridge" เจ้าตัวลุยรับหนังสือเอง
22 ม.ค. 2567
70 views
นายกฯ ลงดูพื้นที่จริงสร้าง Land Bridge เจอป้ายขึ้น "No landbridge" เจ้าตัวลุยรับหนังสือเอง บอกความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหน้าที่รัฐบาล ลั่น ทำเมกะโปรเจค มีทั้งเห็นด้วย-เห็นต่าง ขออย่าทำเป็นเรื่องใหญ่-เรื่องโต โครงการเพิ่งเริ่ม ขอฟังคงามเห็นก่อน
เวลา 13.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย - อันดามัน หรือ Land Bridge ชุมพร - ระนอง ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง พร้อมด้วยนาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมทั้ง 2 คนร่วมคณะด้วย
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางมาถึงปรากฏว่าได้มีกลุ่มคัดค้านติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ เขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า "No landbridge แลนด์บริดจ์" ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันไม่ให้เข้ามาในพื้นที่เพียงให้อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าอุทยานฯเท่านั้น เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า
โดยทันทีที่เดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรี ได้ไปดูจุดที่จะก่อสร้างท่าเรือและได้รับฟังบรรยายการก่อสร้างจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ โดยระบุถึงโครงการดัง ว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรก ได้รับฟังรายงานจาก สนข.ถึงภาพรวมโครงการ ซึ่งอธิบายชัดเจนว่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่สามารถประกอบอาชีพประมงได้ และเห็นถึงศักยภาพตามที่คณะกรรมการได้เสนอ
เมื่อถามว่า ยังมีการคัดค้านจากประชาชนจะเป็นจะต้องทำความเข้าใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การทำโครงการใหญ่ๆเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีคนไม่เห็นด้วย รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับฟัง ทั้งจากในพื้นที่และนอกพื้นที่ วันนี้ก็จะมีคนมายื่นหนังสือก็จะได้รับฟังว่าข้อห่วงใยของเขามีอะไรบ้าง
เมื่อถามว่า ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่น้อยไปหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า โครงการเพิ่งเริ่มเอง อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องโต ขอรับฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชนก่อน ถ้าจำได้ เมื่อ 20 ปีที่แล้วสมัยนายทักษิณ ชินวัตร ก็มีโครงการเมกะโปรเจคที่ใหญ่ระดับชาติ คือการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีการถกเถียงกันนานมาก แต่รัฐบาลของนายทักษิณ ก็เดินหน้าเต็มที่จนกลายเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงทุกวันนี้ และนายสุริยะ ก็เป็นรัฐมนตรีคมนาคมในสมัยนั้นด้วย และหลังจากนั้นมาก็ไม่มีเมกะโปรเจคใหญ่ๆอีกเลย แล้วดูซิว่าประโยชน์ที่เราได้รับจากสนามบินสุวรรณภูมิ จาก 20 ปีที่แล้วจนมาถึงวันนี้ประโยชน์มหาศาล ถ้าเราไม่มีโครงการเหล่านี้ขึ้นมา
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อด้วย ว่า การขนส่งทางทะเล ตอนนี้เริ่มหนาแน่นและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้มีการแออัดการในการขนส่งสินค้าจากฝั่งนึงของโลกมาอีกฝั่งหนึ่งของโลก ทำให้การสร้างโครงการเมกะโปรเจค เชื่อมระหว่างอันดามันมายังอ่าวไทย ส่งต่อไปทั่วโลกเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งยังนำความเจริญก้าวหน้าเข้ามาสู่ประเทศทั้งเรื่องการขนถ่ายสินค้ากาาเป็นแรงจูงใจให้บริษัทข้ามชาติ หลายบริษัทมาสร้างแหล่งผลิตส่งออก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เครื่องจักรกลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งนี้ หากไปดูในรายละเอียดการขนส่งสินค้าน้ำมันไปทั่วโลก 60% ผ่านทางช่องแคบมะละกา ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่เราจะต้องผลักดันให้ประเทศมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องนี้
เมื่อถามถึงเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ขณะที่ในพื้นที่อยากให้ศึกษาให้รอบด้านก่อน และถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและเป็นพื้นที่เสนอเป็นมรดกโลก และความสัมพันธ์กับการท่องเที่ยว และที่ระนองค่อนข้างจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและธรรมชาติ จึงเกิดข้อกังวลกับผลกระทบดังกล่าว จึงอยากให้ศึกษาก่อนผลักดัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องศึกษาก่อน จริงๆแล้วขั้นตอนต่อไปจะไปดูแหล่งน้ำพุร้อน เรื่องของการท่องเที่ยว ดังนั้นเรื่องของการท่องเที่ยวให้ความสำคัญอย่างยิ่ง การที่เราจะสนับสนุนตรงนี้ต้องควบคู่เรื่องของความเจริญในหลายๆมิติ
ส่วนเรื่องการศึกษาโครงการก็ต้องทำควบคู่กันไป จะช้าจะเร็ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับเสียงเรียกร้องของประชาชนด้วยว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่ ยืนยันจะทำเต็มที่และเข้าใจความต้องการของทุกฝ่าย
ส่วนที่ชาวบ้านมีความกังวลเรื่องการจ้างงานหลังก่อสร้าง Land Bridge นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องมีความกังวลเลย น่าจะเป็นเรื่องของโอกาสมากกว่า ให้มองเป็นเรื่องโอกาส การสร้างท่าเรือไม่ใช่เฉพาะเรื่องการขนส่งอย่างเดียว เรือสำราญต่างๆ จอดเทียบได้เรือสำราญต่างๆก็เข้ามาจอดเทียบได้ ตนเชื่อว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญไม่ใช่แค่ชาวระนอง แต่ยังรวมถึงจังหวัดอันดามันด้วย ซึ่งควบคู่ไปกับการพัฒนาภาคใต้ทั้งจังหวัด เพราะจะมีการสร้างสนามบินอันดามัน ที่จังหวัดภูเก็ต ที่จะเป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ รัฐบาลเชื่อว่าจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะที่เรื่องของความมั่นคง ยืนยันว่า เวลาทำโครงการใหญ่ ดูรายละเอียดครบทุกมิติ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียนจากนางสาวทม สินสุวรรณ ตัวแทนกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นตำบลราชกรูด ที่อาศัยอยู่บริเวณที่จะมีการก่อสร้าง Land Bridge อยากให้รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ โดยนางสาวทม กล่าวว่า อยากให้ช่วยพี่น้องคนไทยพลัดถิ่นด้วย และมาวันนี้อยากจับมือกับท่านนายกฯ เพราะท่านนายกฯเป็นคนดี อยากให้ช่วยก่อนจะถามว่า "ทะเลสวยมั้ยค่ะ ชะลอไปก่อนได้มั้ยค่ะ"
จากนั้นตัวแทนอีกคนได้อธิบาย ว่า ชุมชนที่คนไทยพลัดถิ่นอาศัยอยู่ เป็นพื้นที่ที่จะทำ Land Bridge พอดี และพี่น้องตรงนี้ก็ยังไม่มีบัตรประชาชนด้วย ซึ่งเคยเดินขบวนไปเรียกร้องที่กรุงเทพฯตั้งแต่ปี 2555 แต่นับวันนี้กระบวนการก็ยังไม่แล้วเสร็จ อยากให้นายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการสำรวจพี่น้องที่ยังไม่ได้รับสัญชาติ ขณะเดียวกันก็อยากจะให้ช่วยค่าใช้จ่ายในการตรวจ DNA พิสูจน์สัญชาติด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ Land Bridge ถือว่าเป็นโอกาส แต่ว่าการมีโอกาสก็ต้องมีการให้โอกาสกับคนพื้นที่ได้แสดงความคิดเห็นเช่นกัน หน้าที่ของรัฐบาลก็ต้องมารับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน
จากนั้นตัวแทนของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ได้ย้ำกับนายกฯ อยากให้กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ก่อนจะรายงานอะไร ขอให้แสดงความจริงใจด้วย เพราะมันมีการรายงานว่าชาวบ้านเห็นด้วยกับโครงการ Land Bridge ทั้งหมด เพราะมันมีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ
นายกรัฐมนตรี จึงตอบกลับว่าการรับฟังต้องมีทั้ง 2 ทาง และท่านอนุทิน ก็ลงพื้นที่บ่อย ขอให้ทุกคน ไม่ต้องเป็นห่วงเรามีความจริงใจอยู่แล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง นายกฯ ,ข่าวการเมือง ,landbridge