เลขาฯ กพฐ. เสนอครม. ขอภารโรงให้ทุกโรงเรียน ลดภาระครูอยู่เวรประจำโรงเรียน

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีมีคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายครูโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ อ.เมือง จ.เชียงราย ขณะที่มาอยู่เวรรักษาการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนเกิดการต่อสู้และได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย


ซึ่งต่อมาจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้น เบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ.ได้มอบหมาย ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. บุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 (สพป.เชียงราย เขต 1) นักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่ พร้อมทีมสหวิชาชีพ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดตามอาการของคุณครูที่ได้รับบาดเจ็บ


เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ทราบถึงภาระและความกังวลใจ ของคุณครูทั่วประเทศ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ซึ่งเป็นไปตาม มติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2542 ที่กำหนดให้สถานที่ราชการทุกแห่ง ต้องจัดให้มีเวรรักษาการณ์ เพื่อดูแลและป้องกันความเสียหาย อันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการ จึงได้กำหนดนโยบายลดภาระครู เพื่อให้คุณครูได้ทุ่มเทเวลาเพื่อการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ และได้สั่งการ สพฐ. ให้เสนอขอครม. อนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ ซึ่ง สพฐ. ได้จัดทำคำขอต่อ ครม. เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา


โดยในระหว่างที่ รอ ครม.อนุมัติ ขอ สพฐ.พื้นที่ และโรงเรียนประสานหน่วยงานปกครองในพื้นที่ หรือผู้นำชุมชน ช่วยจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยในโรงเรียนและช่วยเฝ้าระวังผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงรุนแรง โดยส่วนกลางได้มีหนังสือส่งถึงกระทรวงมหาดไทยให้สนับสนุนโรงเรียนก่อนหน้านี้แล้ว


ด้าน “ครูจวง” นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเสียใจต่อเหตุ ครูเชียงรายถูกชายบุกเข้าทำร้ายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ "ครูนอนเวร" ตอกย้ำ ปัญหาระบบครูนอนเวร ที่สร้างภาระ-อันตรายให้กับครู โดยขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความจริงใจ แก้ปัญหา โดยสามารถออกมติ ครม.ยกเลิกได้ทันที เพราะไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพียงแก้ไขมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 ขณะเดียวกัน ขอให้จัดสรรงบประมาณ เปลี่ยนใช้กล้องวงจรปิด แทนครูนอนเวร