เลือกตั้งและการเมือง

‘ทวี’ นั่งหัวโต๊ะประชุม คกก.ราชทัณฑ์ ย้ำคำเดิม ไม่ได้ออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำเอื้อ ‘ทักษิณ’

12 ม.ค. 2567

34 views

รมว.ยุติธรรมนั่งหัวโต๊ะประชุม คกก.ราชทัณฑ์ พิจารณาหลักเกณฑ์คุมผู้ต้องขังนอกเรือนจำ ย้ำ ไม่ได้ออกระเบียบเอื้อ ‘ทักษิณ‘ แต่เป็นจังหวะที่รัฐบาลใหม่เข้ามาพอดี - ด้าน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยันทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ ปัดตอบทักษิณเข้าเกณฑ์ใหม่หรือไม่พร้อมเผยมีผู้ต้องขังนับหมื่นรายรอพิจารณาให้รักษาตัวนอกเรือนจำ กรณีเกิน 60-120 วัน


วานนี้ (11 ม.ค. 67) เวลา 13:00 น. ที่กรมราชทัณฑ์  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการราชทัณฑ์ พร้อมด้วยนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมประชุมกับคณะกรรมการราชทัณฑ์ เพื่อออกหลักเกณฑ์คัดกรองผู้ต้องขัง ที่เข้าข่ายตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณาให้นักโทษที่เข้าเกณฑ์ ได้คุมขังนอกเรือนจำ


ภายหลังการประชุม พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า วานนี้ (11 ม.ค.67) ได้มีการรับทราบความคืบหน้าของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่มีการออกระเบียบดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงนำเข้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ร่วมรับทราบ พร้อมยืนยันว่า การประชุมในเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.67) ไม่ได้มีการระบุถึงตัวบุคคลหรือสถานที่ เช่น กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนอกเรือนจำ เกิน 120 วัน แต่เป็นการพูดถึงภาพรวมของระเบียบให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ออกมา ซึ่งได้กำชับให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับกรณีที่มีการออกระเบียบมาในช่วงเวลานี้พอดี ว่าเป็นไปตามวาระที่ต้องมีการขับเคลื่อน และเป็นจังหวะที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาพอดี


ส่วนกรณีของนายทักษิณ จะเข้าข่ายได้รับสิทธิประโยชน์จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพียงว่า ให้เป็นไปตามอำนาจของผบ.เรือนจำแต่ละแห่งไปพิจารณาคัดเลือก พร้อมย้ำว่าการให้ไปคุมขังที่อื่นไม่ใช่การปล่อยตัวออกไปเพราะหากจะปล่อยตัวต้องขอศาลออกหมายโดยระเบียบลักษณะนี้ ในต่างประเทศก็มีการดำเนินการเหมือนกัน


ด้าน นายสหการณ์ กล่าวถึง การออกระเบียบที่ราชทัณฑ์ออกมา สอดคล้องกับช่วงที่นายทักษิณ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำนั้น นายสหการณ์ ระบุว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมตามวาระ ซึ่งจะเป็นการประชุมขับเคลื่อนงานในส่วน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ส่วนการนำวาระต่างๆ เข้ามาในที่ประชุม เป็นวาระที่เกี่ยวเนื่องกับรัฐบาล และรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ทั้งเรื่องสถานที่ การควบคุมตัวระหว่างการดำเนินคดี และระเบียบที่จะต้องรายงานกรรมการ และอนุกรรมการให้ทราบ


ส่วนกรณีนายทักษิณ พักรักษาตัว ที่ รพ.ตำรวจ เกิน 120 วัน ก็เป็นไปตามกฎกระทรวง ของการพิจารณาผู้ต้องขังที่เจ็บป่วย ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยายาลภายนอก ซึ่งเป็นอำนาจที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ และที่ กมธ.ตำรวจ จะขอเข้าไปศึกษาดูงานที่ รพ.ตำรวจ ในวันนี้ (12 ม.ค.67) ทราบว่า รพ.ตำรวจได้อนุญาตให้เข้าไปแต่จะดูในส่วนใดบ้าง ก็ต้องดูตามความเหมาะสม ส่วนของกรมราชทัณฑ์ได้ตอบรับไปแล้ว ซึ่งเป็นการตัดสินใจของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะต้องพิจารณาตามระเบียบที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน


สำหรับการจะพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจจะมีระยะเวลานานเพียงใดนั้น นายสหการณ์ ระบุว่า ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัย และความเห็นของแพทย์


นายสหการณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่กรมราชทัณฑ์ส่งนายทักษิณเข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ตนเองยังไม่เคยพบและเข้าเยี่ยมนายทักษิณแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนจำนวนผู้ต้องขังที่เข้ารักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน ไม่ได้มีเพียง 3 ราย แต่ยังมีอีกนับหมื่นรายที่ต้องพิจารณาว่าจะให้นอนพักรักษาตัวเกิน 60 วัน หรือ 120 วัน ส่วนโครงการพักการลงโทษกรณีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป ถือเป็นคุณสมบัติของผู้ต้องขังอยู่แล้ว ซึ่งต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 โดยราชทัณฑ์ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะผู้ต้องขังทั่วประเทศมีมากกว่า 1 แสนราย 


ส่วนมีความกังวลจะถูกดำเนินคดี ม.157 หรือไม่ หลังหลายฝ่ายร้องกับ ป.ป.ช. นายสหการณ์ ระบุว่า ไม่มีความกังวล ไม่ได้ดำเนินการโดยพลการ ทำตามที่หลักกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งปัจจุบันมีนักโทษที่ถูกคุมขังนอกเรือนจำ ทั้งหมด 3 คน จำนวนนี้รวมอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก๋ตาม นายสหการณ์ ยังยืนยันอีกว่า การชุมนุมของกลุ่ม ศ.ป.ป.ส. และ คปท. ในวันพรุ่งนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้จัดกำลังดูและเพิ่มเติมแต่อย่างใด ยังคงเป็นตามหลักเกณฑ์เดิม และไม่ได้กดดันการทำงานในส่วนกรมราชทัณฑ์


นายสหการณ์ ยังกล่าวว่า  การชุมนุมของกลุ่ม ศปปส. และ คปท. ในวันนี้ (12 ม.ค.67)  ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้จัดกำลังดู และเพิ่มเติมแต่อย่างใด ยังคงเป็นตามหลักเกณฑ์เดิม และไม่ได้กดดันการทำงานในส่วนกรมราชทัณฑ์


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hjCnOxJjEtI

คุณอาจสนใจ

Related News