เลือกตั้งและการเมือง

'ปกรณ์วุฒิ' ยินดีนายกฯเซ็นรับรอง ร่างอากาศเป็นพิษก้าวไกล - 'เศรษฐา' ลุยแก้ฝุ่นไฟป่า ย้ำตั้งใจเป็นนายกฯ 4 ปี

โดย nattachat_c

12 ม.ค. 2567

24 views

จากกรณีมีข่าวว่า ได้มีการบรรจุ ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยมีร่างต่าง ๆ ดังนี้


  • ร่างของ ครม.
  • ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล
  • ร่างของภาคประชาชน


โดยไม่มีร่างของพรรคก้าวไกลบรรจุเข้าไปด้วย ทำให้แกนนำของพรรคก้าวไกลได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ และกล่าวหาว่า รัฐบาลกีดกันร่าง พ.ร.บ.ของพรรค


ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้ชี้แจงว่า ร่างของพรรคก้าวไกลยังไม่ได้ส่งให้นายกฯ ลงนาม จึงยังไม่ถูกบรรจุเข้าวาระ

------------

วานนี้ (11 ม.ค. 67) เวลา 09.40 น. ที่กองบิน 41 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทันทีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาถึงก่อนเป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระบบขนส่ง และเดินทาง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่


นายกฯ ได้เซ็นชื่อเอกสารในร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดของพรรคก้าวไกล จากคณะทำงานทันที โดยคณะทำงานเปิดเผยว่า ร่างฉบับดังกล่าวพึ่งมาถึง นายกฯ จึงลงนาม และส่งกลับทันที

------------

จากกรณี ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @talkingpen88 (ปากกาส้ม) ได้ทวีตทำนองว่า 


นายกฯเศรษฐา ไม่ยอมเซ็นรับรอง ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดของพรรคก้าวไกล โดยไม่คำนึงถึงประชาชน เล่นแต่การเมือง เพราะกลัวว่าจะเป็นผลงานของพรรคก้าวไกล 


วานนี้ (11 ม.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทวีตข้อความระบุว่า


“ผมไม่สบายใจการพูดใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย โดยพูดความจริงไม่หมด หรือพูดแค่ครึ่งเดียว เราทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่ทำให้พรรคตัวเอง “แบบเอาข้อเท็จมาใส่ร้ายพรรคอื่น เพื่อชัยชนะของพรรคตน”


ฝากหัวหน้าพรรคดูแล “คนของตน” อย่างจริงจังด้วย นี่เป็นปัญหาจริยธรรมเลยครับ เตือน “อย่าปากว่า ตาขยิบ”ครับ”

-------------
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น ว่าที่ สส. ได้ทวีตเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2567 ว่า


วันนี้ ครม.อนุมัติ ร่าง พรบ #อากาศสะอาด 3 ฉบับที่มีการยื่นเข้ามาก่อน และผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และให้ความเห็นของหน่วยงานครบถ้วนแล้วครับ


- ร่างของภาคประชาชน

- ร่างของพรรคเพื่อไทย

- ร่างของรัฐบาล


โดยคาดว่าจะมีการบรรจุวาระเพื่อเร่งพิจารณาในสภา ในสัปดาห์นี้


ส่วนร่างที่ยังไม่ได้รับรองเข้าสภา เป็นร่างที่เสนอตามมาทีหลัง และกระบวนการให้ความเห็นยังไม่แล้วเสร็จ หากครบถ้วนแล้ว และมีหลักการที่แตกต่างจะมีการพิจารณาต่อไปครับ

-----------

วานนี้ (11 ม.ค. 67) ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงนามรับรองร่าง พ.ร.บ. ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน ของพรรคก้าวไกล ว่า


ก็ยินดี 2 วันที่ผ่านมาก็ลุ้นกันตลอด มองว่าเรื่องนี้มีความสับสนเล็กน้อย เนื่องจากมีความเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของข้อมูล เมื่อวันจันทร์ ตนรับทราบว่ามีความเห็นของบางหน่วยงานว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่าร่าง พ.ร.บ. ของพรรคก้าวไกล หลักการต่างจากร่างอื่น แต่ปรากฏว่ากฤษฎีกาก็แจ้งต่อวิปฝ่ายค้านว่าไม่เคยให้ความเห็นแบบนั้น ต่อจากนั้น เหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปมาว่าร่างของพรรคก้าวไกลส่งช้ากว่าร่างอื่น


“ผมใช้คำว่าถึงมือนายกรัฐมนตรีช้ากว่าร่างอื่นแล้วกัน เพราะที่จริงแล้วก็ยื่นสภาไปตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. ก็ยังมีเวลาเยอะอยู่ แต่ผมเข้าใจว่าในทางธุรการ ก็มีหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงมือนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งสำคัญก็คือ ณ วันที่ประชุมวิปรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รับทราบแล้วว่ามีกี่ร่าง”


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า มีอยู่ 3 ร่าง ที่ยังไม่ได้รับความเห็นจากหน่วยงาน คือร่างของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และร่างของพรรคก้าวไกล


คำถามของตนก็คือ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่า ยังไม่ได้รับฟังความเห็นหน่วยงาน ทำไมต้องรีบร้อน และนำวาระนี้เข้าเป็นคิวแทรก ย้ำว่าไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลแซงคิวจะเป็นคิวแทรก เรื่องนี้ต้องบอกตามตรงว่า ร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่แซงคิวสภาฯ ซึ่งส่ง SMS แจ้ง สส.ให้รับทราบตอน 20.30 น. ของวันอังคาร ดังนั้น สส.มีเวลาแค่ 40 ชั่วโมง และหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้ในอนาคต มองว่าการทำงานควรเป็นไปด้วยความรอบคอบ


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ และร่างของพลังประชารัฐ นายกรัฐมนตรีเซ็นตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ร่างของพรรคก้าวไกลเพิ่งเซ็นเมื่อเช้า ซึ่งขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้จบด้วยดี


ส่วนมองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้น ตนมองว่า เป็นความไม่รอบคอบ การที่วิปรัฐบาลหรือ ครม.ทุบโต๊ะ ตนไม่มั่นใจว่า ใครริเริ่มเรื่องที่จะต้องเอาเข้าวันนี้ แต่ไม่ได้มองข้างหลังว่ายังมีกระบวนการที่ไม่เรียบร้อย และยังมีร่างของ สส. อีกหลายร่างที่ต้องเข้า แต่ยังไม่เสร็จ ถ้ามีการคำนึงถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น


เมื่อถามว่าจะนำบทเรียนในครั้งนี้ไปหารือกับวิปรัฐบาล ตนมองว่ามาตรฐานจริง ๆ คิวแทรกแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แบบร้ายแรงจริง ๆ ไม่ควรมี อย่างน้อย สส. ควรได้รับทราบก่อน สัก 1 สัปดาห์ คิวแบบนี้ สส.ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่แทรกกันระหว่างทางแบบนี้


ส่วนมั่นใจว่าจะรับหลักทุกร่างหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เท่าที่ทราบเป็นการลงมติรวม น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

---------------

วานนี้ (11 ม.ค. 67) ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า


ได้รับร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดของพรรคการเมืองอีก 3 พรรค ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ // พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคก้าวไกล ที่นายกรัฐมนตรีลงนามรับรองด้วยเป็นกฎหมายการเงิน เรียบร้อยแล้ว


โดยของพรรคก้าวไกลเป็นฉบับสุดท้าย ที่ลงนามเมื่อเช้าจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้นำเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุร่างในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทันที


คาดว่าจะสามารถหยิบยก ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ขึ้นพิจารณาได้ในคราวเดียวกันทั้ง 7 ฉบับ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทันในช่วงบ่ายวันนี้


ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ทั้ง 7 ฉบับ ประกอบด้วย


1. ฉบับรัฐบาล

2. ฉบับภาคประชาชน

3. ฉบับพรรคภูมิใจไทย

4. ฉบับพรรคเพื่อไทย

5. ฉบับพรรคประชาธิปัตย์

6. ฉบับพรรคพลังประชารัฐ

7. ฉบับพรรคก้าวไกล

-----------------

วานนี้ (11 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระบบขนส่ง และการเดินทาง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่


โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม // นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม // นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย // นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ // นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมด้วย


นายกฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ตนและคณะรัฐมนตรีมีความห่วงใยกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องภาคเหนือหลายจังหวัด จึงต้องการหารือแนวทาง การแก้ไขปัญหาและวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง จากการที่ได้มาตรวจราชการเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานข้าราชการไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์หน่วยงานความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองทัพ ที่ช่วยกันให้ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขและคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอเน้นให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือโดยยึดหลักแนวทางการดำเนินงานนี้


นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์ต้องดีขึ้นทุกวัน ด้วยการทำงานเต็มหน้าที่อย่างจริงจัง ขอให้ท่านแบ่งหน้าที่และพื้นที่ความรับผิดชอบเอ็กซเรย์พื้นที่ความรับผิดชอบของท่านว่ายังมีปัญหาใดที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วนและรายงานให้ตนทราบทุกวันถ้าไม่ดีกว่าเดิมต้องแจ้งให้ตนทราบว่ามีอุปสรรคอะไร เป็นความประสงค์ของรัฐบาลนี้ที่อยากจะคืนอากาศบริสุทธิ์แก่พี่น้องประชาชนภาคเหนือให้ได้โดยเร็วที่สุด การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกไฟป่าต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อความยั่งยืน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนแม่นยำ เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว การดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสุขภาพ


ขอให้จังหวัดและหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ สุขภาพอนามัยของเด็ก โดยเฉพาะผู้สูงอายุใช้ชีวิตความเป็นอยู่การรณรงค์ใส่หน้ากาก จัดพื้นที่เซฟตรงศูนย์พักพิงของประชาชน ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้ประชาชนมีหน้ากากกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพและราคาที่เข้าถึงได้ ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกประชาชนในการรับรู้ข่าวสาร ยกระดับความตื่นตัวให้ประชาชนรู้ถึงภัยของPM2.5 พร้อมขอความร่วมมือประชาชนดูแลพื้นที่ป่าลดการเผา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ของคนใดหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาในระยะยาว ต้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างอากาศบริสุทธิ์ และปฏิบัติให้ได้


นายกฯ กล่าวด้วยว่า การคมนาคมต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ มีการพูดคุยกับส่วนงานราชการหลาย หน่วยงาน รู้สึกกันดีเมื่อเทียบตัวเลขปีที่แล้วของ PM 2.5 พบว่าปัญหาฝุ่นลดลงไปหลายเท่าตัว การแสดงแผนที่ Red Zone อย่างมีในนัยพิสูจน์ทราบได้ว่า จากการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาจึงทำให้ตัวเลขลดลงอย่างมีนัย ส่งผลอย่างยิ่งเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ดอยอินทนนท์มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 13,000 คน เป็น 17,000 คนต่อวัน แสดงให้เห็นว่าเรื่องการมี PM 2.5 น้อยลง ดูจากกราฟเป็นเรื่องที่ดี ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันบูรณาการ วันนี้เราจะมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะการคมนาคม ซึ่งหลายเรื่องยึดโยงถึง PM 2.5 ด้วย ไม่ใช่แค่การเผาป่าอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องที่เรา ใช้เรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคม กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้และจะจัดสรรงบประมาณให้เป็นลำดับความสำคัญต้นๆในการที่จะดำเนินการเหล่านี้ต่อไป


“ขอให้ทุกท่านช่วยกัน ซึ่งการทำงาน 2 เดือนที่ผ่านมาต้องกราบพระคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ที่ทำงานประสานงานกันอย่างดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นจุดศูนย์รวมของจิตใจและช่วยกันประสานให้ทุกฝ่าย เหมาะสำหรับการเป็นแม่แบบไปใช้ในจังหวัดต่างๆที่ทำงานร่วมกันอย่างดีเยี่ยม ระหว่างฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ สาธารณสุข เกษตร คมนาคม คือเป็นแม่แบบที่ดีมากต้องขอชื่นชม”


จากนั้นนายกฯรับฟังข้อเสนอของทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องของการแก้ไขปัญหาจราจรและการคมนาคมที่ติดขัดและเป็นปัญหา โดยเฉพาะบริเวณหน้ากองบิน 41 และถนนนิมมานเหมินทร์


นายกฯ ระบุว่า หลังกลับจากเชียงใหม่จะเชิญรมว.คมนาคม และผู้บัญชาการทหารอากาศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเรื่องการแก้ไขปัญหานี้ต่อ ส่วนข้อเสนอการจะทำรถไฟฟ้าเชื่อมต่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและการลดการใช้รถยนต์ เพื่ออากาศสะอาด ลดความแออัดในเมืองเป็นสิ่งที่ดี เห็นด้วยควรสร้างรถไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวมาเชียงใหม่ในระดับต้นๆ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่มาก แต่ยังไม่มีระบบของรถไฟฟ้า ตรงนี้น่าจะนำมาพิจารณา ถือว่ามีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและเศรษฐกิจหลักของประเทศ ทั้งนี้ในระหว่างก่อสร้างไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาจราจร จะทำจริงก็ต่อเมื่อวงแหวนการจราจรข้างต้นเสร็จก่อนเพื่อแบ่งเบาภาระการจราจรลงไปได้


นายกฯ ยังกล่าวขอบคุณที่ช่วยกันคิดในเรื่องของการท่องเที่ยวมาอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะทำให้ความมั่นใจดีขึ้น ส่วนเรื่องการพัฒนารถแดงไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะรถแดงถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญต่ออากาศสะอาดด้วย หากเรื่องรถแดง ผู้ต้องการทำรถ EVและต้องการ การสนับสนุนเรื่องดอกเบี้ยต่ำ ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมและขอให้เป็นวาระสำคัญ ในการพูดคุย หาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อมาสนับสนุนจุดนี้ โดยเฉพาะธนาคารที่อยากมีส่วนช่วยเหลือสังคมและอยากจะมาช่วยดูแลตรงนี้


ตนเชื่อว่าการพัฒนาระบบคมนาคม ซึ่งถ้าหากพี่น้องชาวเชียงใหม่และภาคเหนือได้มานั่งฟัง ก็น่าจะมีขวัญและกำลังใจขึ้นอีกเยอะ เพราะจากการทำงานบูรณาการของทุกภาคส่วน ถือว่าเป็นการทำงานที่คิดมาอย่างครบวงจรแล้ว แต่ต้องการประสานงานที่ดี ซึ่งตนอยากจะเห็นผู้ว่าราชการทุกจังหวัดมีความสามารถที่จะผนึกกำลังอย่างที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำไว้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งนี้ วันนี้ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ก็มา ช่วยทำให้ความมั่นใจสูงอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มองเห็นไม่ใช่แค่แผนปฏิบัติการเร่งรัด อย่างเดียว แต่เรามีแผนการทำงานที่ชัดเจนและอาจจะกลายเป็นแผนเพิ่ม 4-5 เท่า ได้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับเรื่องฟรีวีซ่าที่รัฐบาลได้ทำ และเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาผู้ว่าฯททท. ได้มาพูดคุยกับตนเรื่องเที่ยวบินอินเดียที่เข้ามาประเทศไทยน้อย ซึ่งจากการที่ตนได้เจอกับเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศ ไทย ก็จะมีการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีสายการบินเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่บินเข้ามาคือนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย รองลงมาคือนักท่องเที่ยวจีน และประเทศที่ 3 ที่ทำให้ตนแปลกใจคือประเทศเกาหลี เพราะจากที่ตนเดินทางมาเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาก็เจอแต่นักท่องเที่ยวเกาหลี คาดว่าที่เชียงใหม่มีสนามกอล์ฟเยอะ จึงทำให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมา


ปัญหาใหญ่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาคือปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเราได้มีการบริหารจัดการไปอย่างดีเยี่ยม รวมถึงการคมนาคมก็ต้องไม่ทำให้รถติด เพราะจะทำให้เขาไม่อยากมา ซึ่งรัฐบาลได้ตอบโจทย์ในระยะใกล้ ระยะกลางและระยะยาวแล้วอย่างบูรณาการเต็มที่ รวมถึงมีการรักษาเรื่องดีๆของเชียงใหม่ไว้ด้วย อาทิ รถสองแถวแดงที่ถือเป็นไฮไลท์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเราพยายามจะเปลี่ยนให้เป็นรถไฟฟ้า ตนเชื่อว่าทุกอย่างมีการคิดกันมาอย่างดีมาก ทำให้การทำงานเชื่อมต่อระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่น และทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกัน รวมถึงพรรคการเมืองเองก็จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพที่โดดเด่นได้


นายกฯ กล่าวต่อว่า ถ้าวันนี้พี่น้องชาวเชียงใหม่ได้มาได้ยิน ได้ฟังในสิ่งที่เรามาหารือกัน ตนก็เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ และอยากจะนำโมเดลดังกล่าวไปใช้ในหลายจังหวัด รวมถึงในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าถ้าหากเราร่วมใจกันเช่นนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนสนับสนุนเราอย่างดี


“ถึงแม้ว่ารัฐบาลนี้มาเพียงแค่ 4 เดือน แต่ก็เห็นการทำงานของทีมไทยแลนด์อย่างชัดเจน ที่ทุกคนได้ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ รวมถึงคนที่ทำงานปิดทองหลังพระอย่างฝ่ายความมั่นคง กองทัพ ที่ทำงานในการป้องกันไฟป่าแม้เป็นจุดเล็กๆแต่ก็ไม่ควรมองข้ามไป ผมจึงขอให้รักษาตรงนี้ไว้และดำเนินการต่อไป”


นายกฯ กล่าวว่า เรื่องงบบูรณาการ ให้ข้อคิดตามหลักการทำงาน ถ้าปี 67 เราทำงานมีผลชัดเจนเชื่อว่าเรื่องงบเป็นเรื่องที่เราสามารถพูดคุยได้ไม่มีปัญหา เพียงแค่ต้องการเหตุผลที่ชัดเจน


ส่วนเรื่องปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เรื่องสำคัญคือลดจุดความร้อน หรือ ฮอตสปอต การทำแนวกันไฟที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจพี่น้องประชาชน หาลดการเผา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และต้องไม่เผาวัชพืชเปลี่ยนทำเป็นปุ๋ยเพื่อจะใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ ขณะเดียวกันก็มีการปลูกป่าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเชื่อว่าจุดความร้อนและค่า PM2.5 จะลดลง และวันนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี พ.ร.บ.อากาศสะอาดได้เข้าสภาแล้ว มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน


นอกจากนี้ นายกฯ ขอร้องทางกองทัพภาคที่ 3 ช่วยจัดอากาศยานเพิ่ม มาช่วยปฎิบัติการแก้ปัญหาดับไฟป่า และยังเป็นการช่วยเรื่องของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเดียวกันก็จะประสานไปยังกองทัพอากาศเพื่อขออากาศยานมาช่วยขน วัชพืชส่งไปยังโรงงานต่างๆเพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องการขนส่งอีกทางนึง ส่วนเรื่องงบประมาณ ยืนยันรับทราบทุกหน่วยงานที่ขอมา ไม่ต้องเป็นห่วงขอให้ดำเนินงานตามขั้นตอนอย่างเต็มที่ ขณะที่แม่ทัพภาค 3 กล่าวว่ายินดีและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยจะมีการประสานไปยังส่วนกลาง


จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมรถไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากรถดีเซลมาเป็นรถอีวี ผลงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนที่จะขึ้นรถแดง ทะเบียน 30-6198 เชียงใหม่ เพื่อ ไปยังบริเวณจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกองบิน 41 ติดตามความพร้อมปฎิบัติการปฎิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึงชมสาธิตวิธีการปล่อยฝนหลวงด้วย

-----------
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มกราคม ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (โครงการพืชสวนโลก) ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ติดตามความคืบหน้าแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่


นายกรัฐมนตรึกล่าวว่า เป็นการติดตามความคืบหน้าพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และการมาตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ได้มีโอกาสเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างงานใหม่ๆ และสร้างรายได้ให้คนในจังหวัด ซึ่ง จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ตรงนี้ขอยืนยันเนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรม ศาสนสถาน โบราณสถาน รวมทั้งธุรกิจใหม่ๆ เช่น ร้านกาแฟ สถานบันเทิง ก็มีอยู่มากมายกระจายทั่วจังหวัด โดยเฉพาะการผลักดันด้านการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ได้แก่ ไนท์ซาฟารี ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ วัดพระธาตุดอยคำ และอีกหลายแห่ง


นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจพัฒนาต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ให้ทันสมัย มีมาตรฐานสากล สนับสนุนการท่องเที่ยวด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรงบประมาณปรับปรุงสถานที่พัฒนาบุคลากร การจัดการตลาดลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายให้เดินทางเข้ามาเที่ยวมากขึ้น การจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง สู่แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นมาตรฐานสากล รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้รัฐบาลจะให้การสนับสนุนชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่การท่องเที่ยวให้มีการพัฒนาทักษะให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยไม่ละทิ้งอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของท้องถิ่นตัวเองเพื่อพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นสามารถสร้างงานสร้างอาชีพในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงการไม่ย้ายถิ่นฐาน เพื่อเป็นการสนับสนุนสถาบันครอบครัวด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหายาเสพติดตามมา


นายกฯกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เสนอไอเดียใหม่ๆ เพื่อให้เป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ดึงดูดนักท่องเที่ยวรายใหม่ได้ ด้วยการใช้ผู้สร้างเนื้อหา หรือ Content creator บอกเล่าสถานที่ท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน หรือบริษัท เหมาะสมกับสถานที่ สร้างโอกาสและเศรษฐกิจให้กับชาวเชียงใหม่


“จ.เชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดระดับโลกก็ได้ ที่คนรู้จัก ไม่จำเป็นต้องสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา เพียงแต่ใส่ใจให้การดูแลที่ดี พูดคุยกับทุกส่วนงานเพื่อนำมาซึ่งรายได้เพิ่มมากขึ้นของพี่น้องชาวเชียงใหม่ และภาคเหนือรวมถึงทุกๆ จังหวัด” นายกฯระบุ


นายกฯกล่าวต่อว่า ขอเน้นย้ำการใช้งบประมาณแผ่นดินเมื่อลงทุนไปแล้วต้องคุ้มค่า จ.เชียงใหม่ ทำงานกันเป็นทีมไทยแลนด์ที่แข็งแกร่ง ต้องทำให้พี่น้องประชาชนที่เสียภาษีเข้าใจ แต่ละโครงการฝากผู้ว่าฯเชียงใหม่สกรีนก่อ


นายเศรษฐากล่าวในช่วงท้ายว่า ปีหน้าถ้าเราทำงานกันหนักขนาดนี้เป็นทีมไทยแลนด์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากปีหน้ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะกว่านี้ หากมีแผนงานการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวให้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการจราจรการติดขัด จึงอยากฝากไว้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมทำได้ดีในช่วงปีใหม่ ไม่มีใครพูดถึงเลยในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เรื่องอัตราการเสียชีวิตลดน้อยลงมาก เรื่องการจราจร ระยะทางจากกรุงเทพฯไปถึงเขาใหญ่ใช้เวลา 12 ชั่วโมง ตอนนี้ 4-5 ชั่วโมง สิ่งดีๆ ตรงนี้อยู่ดีๆ จะไม่เกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นจากหน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าพนักงานรัฐให้ความใส่ใจถึงการอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน ตรงนี้ชื่นชม


“เราต้องมองแง่บวกจะไปได้ไกลอีกเยอะ เรื่องต่างๆ ที่เสนอมาถ้ามีการบูรณาการและมีการโฆษณาเชื่อว่าสถานที่ท่องเที่ยวไปได้หมด อยากให้มันไกล ไม่ใช่แค่เชียงใหม่อย่างเดียว ลำปาง เชียงราย พะเยา ผู้ว่าราชการจังหวัดก็สนิทสนมกับผู้ว่าฯทุกคน ก็นำไปบอกด้วย ขยายผลต่อได้ คิดว่าครั้งหน้ามาเชียงใหม่ก็ควรเอาผู้ว่าฯลำปาง พะเยา มาด้วย


“เราไม่ได้นับจำนวนผู้โดยสารที่เข้ามา แต่เราอยากให้เขาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเรายาวขึ้น อยากให้ใช้เงินต่อหัวมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น ตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องพูดคุยกัน เชื่อว่าผู้ว่าฯเข้าใจเรื่องนี้ดี และจะทำให้เศรษฐกิจภาคเหนือทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น ฝากไว้ด้วย” นายเศรษฐากล่าว


จากนั้นนายกฯได้ทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ โดยกล่าวเป็นภาษาเหนือว่า “สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องคิดถึงขนาด” และกล่าวว่า ดีใจได้มาอีกครั้ง หลังจาก 2 เดือนที่ผ่านมา วันนี้มาดูติดตามโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลเราได้ทำไป และมาดูแลการคมนาคมด้วย การเกษตรด้วย เมื่อเช้าได้ประชุมหลายคณะ และเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ปีนี้รัฐบาลเราเชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวเหนือทุกคนจะต้องดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิทธิได้รับอากาศสะอาด ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การคมนาคมจะต้องดีขึ้น รายได้ของพี่น้องประชาชนจะยกระดับขึ้นตาม ขอให้เป็นปีใหม่ที่ทุกท่านมีความสุขกับเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ดีใจที่ได้มา


อย่างไรก็ตาม ในช่วงการพบปะกับประชาชนได้มีประชาชนในพื้นที่ที่มาต้อนรับชูป้ายข้อความเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี รวมถึงการทวงเงิน 10,000 บาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีข้อความ เช่น เปิดแอพพ์เป๋าตังรอเงินหมื่นแล้ว, เศรษฐกิจดีในยุคเศรษฐา, ขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง, ชาวชาวฟ้าฮ่ามอยากเห็นซอฟเพาเวอร์ไทยดังไกลสู่สากล เป็นต้น

----------



คุณอาจสนใจ

Related News