เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' มั่นใจแจกเงินดิจิทัลไปต่อได้ 'ศิริกัญญา' ย้ำสำเร็จยาก ชี้ รบ.ขึ้นหลังเสือแล้วลงลำบาก

10 ม.ค. 2567

86 views

นายกฯ มั่นใจแจกเงินดิจิทัลไปต่อได้ ยืนกรานออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน บอกถึงเวลาจะเปิดความเห็นกฤษฎีกา เผยนัดคุยผู้ว่าฯธปท. บ่ายพรุ่งนี้ หลังความเห็นต่างกัน


ด้าน ศิริกัญญา ย้ำอีกรอบ เงินดิจิทัลเดินหน้าสำเร็จยาก มองนายกรัฐมนตรีทำถูกแล้ว เดินหน้าขอมติ คกก.ดิจิทัล ก่อนเข้า ครม. เชื่อเป็นเกมที่วางไว้ ไปให้สุดก่อนแล้วหาทางลง บอกต้องผ่านอีกหลายด่าน ลั่นรัฐบาลขึ้นหลังเสือแล้วคงลงลำบาก



เมื่อวันที่ 9 ม.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในที่ประชุม ครม.ยังไม่มีการพิจารณาถึงร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน เพื่อมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งความเห็นมายังรัฐบาล เพราะต้องเสนอผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ตนเป็นประธานก่อน โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กำลังดูเวลาอยู่


ส่วนที่มีรายงานว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในตารางการประชุมของตน เมื่อถามว่า ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนหนึ่งพูดถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงิน ที่ต้องเป็นไปตามระเบียบการเงินการคลัง นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกัน


เมื่อถามว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกามีความชัดเจนหรือไม่ ว่าทำได้หรือไม่ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยากจะฟังความเห็นของทุก ๆ ฝ่ายด้วย เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกให้ฟังความเห็นของทุก ๆ ฝ่าย ที่ต้องมีความเห็นของ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตทุกคน ต้องให้ความสำคัญกับทุกเสียง


เมื่อถามว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้มีความชัดเจนว่าทำได้หรือไม่ได้ใช่หรือไม่ ในความรู้สึกของนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้บอกว่าทำได้หรือทำไม่ได้ เป็นเรื่องของดุลพินิจและต้องรับฟังความคิดเห็น ถึงบอกว่าจะต้องมีการประชุมคณะกรรมการ


ส่วนกรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดคำถามและคำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีกา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาสมควรก็จะเปิดเผย เมื่อถามว่าแสดงว่าเรื่องนี้จะต้องใช้ระยะเวลาไปอีกสักระยะ นายกฯ กล่าวว่า ต้องประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตนนั่งเป็นประธานก่อน อย่างที่ตนได้เรียนให้ทราบ ยังไงก็ต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ เพราะมีหลายฝ่ายร่วมอยู่ และต้องมาแสดงความคิดเห็น


ทั้งนี้ นายรัฐมนตรี มั่นใจว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อไปได้แน่นอน แต่ต้องขอประชุมคณะกรรมการดิจิทัลก่อน และจะตอบเนื้อหาที่หลัง และเวลานี้ยังยืนยันตามไทม์ไลน์เดิม แต่ต้องขอประชุมก่อนว่าผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะอะไรอีกหรือไม่ อย่างที่บอกนัยสำคัญของกฤษฎีกาคือต้องฟังความคิดเห็นของทุก ๆ ฝ่าย


เมื่อถามว่าการออกเป็นพระราชบัญญัติจะทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ถ้าออก ก็ออกเป็นพระราชบัญญัติ ส่วนความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ทำให้เกิดความหนักใจอะไรใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกเรื่องมีความหนักใจหมด เพราะต้องดูเรื่องของความถูกต้อง ความครบถ้วนในแง่ของการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย


ส่วนประเด็นความเห็นที่แตกต่างของนายกฯ กับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีผลกระทบต่อนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนอยู่บ้านเดียวกันเห็นไม่ตรงกันก็หลายอย่าง ตนว่าอยู่ในสังคมเดียวกันเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านมีจุดประสงค์เดียวกันคืออยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แต่เรื่องของการปฏิบัติงานหรือเรื่องนโยบายต่าง ๆ อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องมีการพูดคุยกัน


เมื่อถามว่าจะมีโอกาสเชิญผู้ว่า ธปท. มาพูดคุยกันเหมือนช่วงแรก ๆ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ยังยืนยันและขอบคุณที่สื่อมวลชนบอกว่าไหนบอกจะมีการพูดคุยกันทุก ๆ เดือน แต่รู้สึกว่าเดือน ธ.ค.ไม่ได้พูดคุยกันแต่ก็มีการยกหูโทรศัพท์คุยกัน ขอบคุณที่เตือนมา ตนก็ได้นัดไปเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งท่านก็ตอบรับโดยดีไม่ได้มีเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน


"แน่นอนไม่ปฏิเสธว่าเห็นตรงกันทุกเรื่อง ผมเชื่อว่าท่านก็เห็นตรงกับผมบางเรื่อง ผมก็เห็นตรงกับท่านบางเรื่อง แต่บางเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันก็ต้องมาพูดคุยกันและเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปเยอะ ก็เป็นหน้าที่ผมที่จะต้องโน้มน้าวความคิดเห็นของท่าน ว่าเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป ตรงนี้มองว่าเป็นการอยู่ร่วมกันเป็นธรรมดาก็ต้องมีการพูดคุยกัน"


เมื่อถามถึงกรณีเอกชนเริ่มเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 10 ม.ค.จะมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าฯธปท. ในเวลา 13.30 น. ซึ่งจะมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญและนำข้อมูลมาหยิบยกกัน


ด้าน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า เปลี่ยนไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่แล้ว ที่แจ้งว่า นโยบายนี้อยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต คณะกรรมการกฤษฎีกา จึงบอกว่า ถ้าจะทำก็ทำได้ หากถูกต้องตามกฏหมาย แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายก็ไม่สามารถทำได้ และให้ไปเป็นมติของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต


ดังนั้นทางที่นายกฯทำก็ถูกต้องแล้ว ที่จะต้องเดินหน้าไปขอมติจากคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ก่อนที่จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี แล้วจะยื่นร่างให้สภาฯ เข้าสู่การพิจารณา


"นัยยะของมันก็คือยังต้องผ่านอีกหลายด่าน ทำให้เป็นกังวลว่าเดดไลน์ที่เคยขีดไว้ ประมาณเดือน พ.ค. 2567 ยังจะเป็นไปได้อีกหรือไม่ ส่วนที่ต้องไปคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จริง ๆ ก็คุยกันภายในคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้เลยนะคะ เพราะทั้งคู่นั่งอยู่ในคณะกรรมการนี้ด้วยกันค่ะ" นางสาวศิริกัญญา กล่าว


เมื่อถามว่าการที่นายกรัฐมนตรี ยังดันโครงการนี้ต่อไป ประเมินว่าจะมีอุปสรรคอะไรหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแบบกำกวมเหมือนไม่ได้ตีความแบบนี้ ก็เป็นสัญญาณแบบหนึ่งเหมือนกัน ว่าหนทางเดินข้างหน้าคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐบาลก็ถือว่าขึ้นหลังเสือแล้วคงจะลงได้อย่างลำบาก ยกเว้นจะมีคนอื่นมาทำให้ลง ดังนั้นจึงเป็นไปตามเกมที่พอคาดเดาได้ว่าจะต้องเดินไปทางนี้ ไปให้สุดก่อน


เมื่อถามว่าหลายคน รวมถึง สว. มองว่าอาจจะเป็นเหมือนคดีจำนำข้าว ฝ่ายค้านจะมีคนไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า ตนพูดแทนทุกพรรคไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลจะไม่มีวันไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้แน่นอน และมองว่าเรื่องนี้ เปรียบกับโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้ แต่เปรียบได้กับร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทมากกว่า ตนคิดว่าจะไม่มีผลถึงขั้นทำให้ใครต้องเข้าคุกได้ แต่เป็นบททดสอบอีกบทหนึ่งว่ารัฐบาลจะสามารถทำตามสิ่งที่พูดไว้ได้หรือไม่ หรือว่าจะล้มเหลวไปอีก 1 โครงการ


ส่วนความมั่นใจว่าโครงการนี้จะสำเร็จ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่มั่นใจเลย ตนคิดว่าตามตัวบทกฎหมาย ไม่สามารถกระทำได้ ตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง รวมถึงการแก้ไขวิธีนี้ก็ไม่ได้บรรเทาปัญหาเศรษฐกิจลงได้


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/oQ49oTO-q8w

คุณอาจสนใจ

Related News