เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' ยันไม่ได้แกล้งก้าวไกล หลังรัฐบาลได้ฉายา 'แกงส้มผลักรวม' - 'อดิศร' ร่ายกลอน เป็นเพราะบุญไม่ถึง
27 ธ.ค. 2566
79 views
วานนี้ (26 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เผยแพร่การตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีประจำปี ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติ
โดยผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล มีมติร่วมกันตั้ง ฉายารัฐบาล ฉายารัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2566 ดังนี้
-------------
ฉายารัฐบาล - แกงส้ม 'ผลัก' รวม
'แกง' คือ คำสแลงที่ใช้แทนความหมายว่า แกล้ง
'ส้ม' คือ สีของพรรคก้าวไกล
'ผลักรวม' ล้อมาจากคำว่า 'ผักรวม' เมนูแกงส้มยอดนิยมประเภทหนึ่ง
เมื่อรวมกันแล้ว นิยามความหมายในทางการเมือง สะท้อนกระแสสังคม มองพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง MOU ถูกฉีก และ ถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย และ ข้ออ้างทางการเมือง
ส้มจึงหล่นใส่พรรคอันดับรอง กลืนน้ำลายจัดตั้งรัฐบาล 'มีลุง' ก็ไม่เป็นไร โดยให้เหตุผลเพื่อความสมานฉันท์ ทำเอาแฟนคลับผู้รักประชาธิปไตยถึงกับหัวใจสลาย ก่อเกิดวาทกรรม 'ตระบัดสัตย์'
ดังนั้น แกงส้ม 'ผลัก' รวม จึงใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางการเมือง ของการจัดตั้งรัฐบาลที่ว่า 'ชนะเลือกตั้ง แต่แพ้จัดตั้ง' ได้เป็นอย่างดี
-------------
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง : เซลล์แมนสแตนด์ 'ชิน'
นับแต่เศรษฐีที่ชื่อ 'เศรษฐา' เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เดินหน้าทำงานทันที โดยเฉพาะการหารายได้เข้าประเทศ ต้องยอมรับในความมุ่งมั่นตั้งใจ คิดเร็วทำไว เดินสายพกประเทศไทยใส่กระเป๋า ไปโรดโชว์จีบนักลงทุนทั่วโลก ประกาศตัวเป็นเซลล์แมนเต็มรูปแบบ
แต่ในทางการเมือง ยังถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เงาของคนในตระกูล 'ชินวัตร' ยังปกคลุม เปรียบเสมือนตัวแสดงแทน หรือ สแตนด์อิน เพราะเคยหลุดปากขณะออกงาน พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของนายใหญ่ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ว่า "นายกฯ คนไหน มีนายกฯ 2 คน” อีกทั้งหลายนโยบายก็ถูกวิจารณ์ว่า ต่อยอดมาจากนโยบายเดิมของรัฐบาลนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
-------------
วานนี้ (26 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม. ถึงฉายา เซลล์แมนสแตนด์ 'ชิน' ว่า
เข้าใจว่าทุกปีก็ต้องมีฉายา มองว่าเป็นสีสัน ซึ่งคำว่าเซลล์แมนก็ทราบอยู่แล้วเพราะตนเองก็ประกาศตัวอยู่แล้ว ส่วนสแตนด์ชินเป็นคำควบกล้ำระหว่างภาษาไทยกับอังกฤษ หรือไม่
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันมาถามความหมายเพิ่มเติมจากสื่อมวลชน เพราะเข้าใจความหมายหลวมๆ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ ตนก็เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งใจจะอยู่ให้ครบ 4 ปี ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น สำหรับคำว่าสแตนด์ชิน หากหมายความว่าให้ตระกูลชินเข้ามาให้ประชาชนเป็นคนตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เข้าใจ และไม่คิดอะไร
ส่วนฉายารัฐบาล 'แกงส้มผลักรวม' นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจคำว่า 'ผลัก' เท่าไหร่ แต่แกงส้มก็เป็นแกงที่มีรสชาติดี ที่ทั้งเปรี้ยวหวาน เค็ม เผ็ด แม้เป็นรัฐมนตรีที่มาจากหลายพรรค แต่ก็ครบเครื่อง พร้อมทำงานให้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวได้อธิบายความหมายของคำว่า 'แกง' ที่แปลว่า 'แกล้ง' โดยเฉพาะในส่วนของพรรคก้าวไกลที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ตอนโหวตพรรคเพื่อไทยก็โหวตให้ แต่ไม่สามารถรวมเสียงได้ และเราก็ไม่สามารถรอได้ 9-10 เดือนตามที่เขาบอก ก็ต้องทำหน้าที่กันไปประเทศคอยไม่ได้ ไม่ได้แกล้งแน่นอน และตนก็พูดมาตลอดตั้งแก่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง
เมื่อถามว่า จะรักษาบรรยากาศพรรคร่วมรัฐบาลแบบนี้ให้ครบ 4 ปี ใช่หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นผลงานของเรามากกว่า และดูที่ผลงานของรัฐมนตรีมากกว่า ไม่ได้ดูว่าเป็นรัฐมนตรีจากพรรคไหน ให้ดูผลงานเป็นหลัก
ส่วน 314 หมายความว่า จะไม่มีเพิ่มหรือลดใช่หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่วันนี้ มีความสุขอยู่แล้ว ตนเชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคนจากทุกพรรคทำงานเต็มที่ และตระหนักดีจากการให้ข้อคิดของสื่อมวลชนว่า มีปัญหาตรงไหน ต้องปรับปรุงตรงไหน ตนเชื่อว่าเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐมนตรีทุกคนช่วยกันทำงานอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า แต่หากจะมีเสียงมาเพิ่ม ก็พร้อมจะพิจารณาใช่หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้คิด วันนี้เรายังทำงานกันดีอยู่ 314 เสียง เราก็ยังทำงานกันได้ดีอยู่ มีเรื่องอะไร มีปัญหาอะไร เราก็คุยกันตรงไปตรงมา เน้นเอาผลงานเป็นที่ตั้ง วันนี้เราโอเค
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวการปรับ ครม.
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้เป็นคนให้ข่าว ตนมีหน้าที่ตอบคำถามอย่างเดียว
เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ปิดทางใช่หรือไม่ หากจะมีเสียงเพิ่ม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้แฮปปี้ มีความสุขอยู่แล้ว 314 เสียง จาก 500 เสียง เพียงพออยู่แล้วต่อการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ก็ต้องปรับกันไป แม้จะไม่เห็นด้วย ด้วยกันทั้งหมด แต่เรามีการพูดคุยกันอย่างผู้ใหญ่
เมื่อถามถึงการวัด KPI
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โอ้โห แต่ละกระทรวง แต่ละคน ก็มีเรื่องที่ต้องทำแตกต่างกันไป ผมพูดลำบาก เราเน้นเรื่องผลงานเอาระยะเวลามาเป็นตัวจับ
เมื่อถามถึง 25 เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในแง่ของตัวเลขก็อาจจะดีขึ้น แต่หากต้องมาแบ่งสัดส่วนกระทรวง ก็อาจจะลำบากขึ้นไม่มีอะไรดีหมด ขอให้ยึดที่ตนเองพูดว่า 314 เสียงเพียงพอแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว งานก็เริ่มทยอยกันออกมาแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้อวยพรปีใหม่ให้ประชาชนด้วยว่า
ช่วงปีใหม่ขอให้ทุกคนพักผ่อนอย่างเต็มที่ วันศุกร์นี้ก็ได้หยุดแล้ว เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด ก็ขอให้ระมัดระวัง ดื่มแอลกอฮอล์ก็อย่าขับรถ ขอทุกท่านประสบความสำเร็จคิดอะไร สมดังที่คิดสุขภาพร่างกายแข็งแรง
----------------
วาทะแห่งปี : ‘ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย’
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 หลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
โดยขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ แต่ทำงานยังไม่ถึง 4 เดือน กลับขอลาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นเวลา 4 วัน จนชาวโซเชียล อดแซวไม่ได้
หากถามนักข่าวหลายคนที่คุ้นเคย และ ตามติดภารกิจนายเศรษฐา ต่างรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ถึงคำว่า "ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" แทบทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ตามนายกฯ 3 เดือน เหมือน 3 ปี ให้สัมภาษณ์ทุกที่ที่มีโอกาส ถึงไม่เห็นหน้าก็มาทางโซเชียล ค่ำคืนไม่พักไม่ผ่อน โพสต์ประเด็นร้อนทันใจ
"ภูเก็ตก็แค่ปากซอย" นักข่าวพิสูจน์แล้วว่า นายกฯ ทำได้จริง
พร้อมสะท้อนปัญหาหลักของนายกฯ ที่มักบอกว่าเป็นคนพูดตรง คือ การสื่อสาร หลายครั้งนำภัยมาสู่ตน เมื่อขึ้นศักราชใหม่แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คงต้องรอติดตามกันต่อไป
----------------
วานนี้ (26 ธ.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นหลังรัฐบาลได้รับฉายาประจำประจำปี 2566 'แกงส้ม ผลัก รวม‘ ว่า
มันมีความหมายแต่ละคำ ก็แล้วแต่จะแปล แต่โดยรวมมันเป็นกระบวนกัน พร้อมอธิบายว่าแกง คือเอามาปรุง ซึ่งเป็นความหมายของคนทั่วไป แต่คนรุ่นใหม่อาจจะอีกมุมหนึ่ง
ส่วนผลัก ใช้แรงกระทำให้มันออกไป แต่สุดท้ายคือรวม การรวมเพื่อประเทศซึ่งผลสัมฤทธิ์คือการรวมเพื่อประเทศชาติบ้าน
-------------
รองศาสตราจารย์พิเศษ ดร.อดิศร เพียงเกษ ได้ทวีตข้อความว่า
"ไม่มีใคร ไปแกงหรือแกล้งคุณ แต่เป็นเพราะตัวคุณบุญไม่ถึง ไร้เพื่อนมิตรไว้ใจให้รำพึง 112 ตราตรึงกระเด็นกระดอน…สนิมเกิดจากส้มเอง วันที่ 26 ธันวาคม 2566 "-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QinQbRqSF5o