เลือกตั้งและการเมือง
'ภูมิธรรม' เมินคะแนนนิด้าโพล 'พิธา' นำ 'เศรษฐา-แพทองธาร' ชี้ 3 เดือน เร็วเกินไป ยังแค่ปูรากฐาน
โดย nattachat_c
26 ธ.ค. 2566
5 views
วานนี้ (25 ธ.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง
โดย คะแนนของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สูงกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน และ นางสาวแพทอง ธารชินวัตร ว่า ไม่แปลกอะไร เพราะการสำรวจของโพล ก็ต้องดูว่าขึ้นอยู่กับสถาบันไหนบ้าง และกลุ่มตัวอย่างมีจำนวนเท่าไหร่ หรือส่วนใดบ้าง
เรารับฟังผลโพลทุกส่วน ที่มีทิศทางเดียวกันหรือแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือปัญหาพื้นที่ของประชาชนโดยตรง ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ที่เราไป และประชาชนส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีอยู่
ส่วนกรณีที่ มีลักษณะคนเมือง หรือคนกลุ่มหนุ่มสาว
นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เสียงความนิยมของนายพิธา ยังมีความนิยมอยู่ แต่จริง ๆ ต้องอยู่ที่การทำงาน ซึ่งรัฐบาลนี้ เข้ามาในช่วงแรก ก็ยังยุ่งอยู่ในช่วงการทำงานมาก แต่หลังการทำงานก็ต้องดูกันว่า ประชาชนจะรู้สึก หรือยอมรับอย่างไร พร้อมย้ำว่า ความนิยมไม่เท่ากับผลงานรับใช้ประชาชน
เมื่อถามว่าระยะเวลา 3 เดือน เร็วเกินไปสำหรับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือไม่
นายภูมิธรรม ระบุว่า 3 เดือนเร็วไปนิดนึง เหมือนกับที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน
พร้อมขอให้เข้าใจว่า รัฐบาลเข้ามาทำงานก็เจอแต่ปัญหาเยอะ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมา 9-10 ปี จากการรัฐประหารของประเทศ ซึ่งการดำเนินการขณะนี้ ถือเป็นการปูรากฐาน โดยสิ่งที่สำคัญขณะนี้คือ รัฐบาลไม่มีเงินลงทุนเกี่ยวกับงบในการดำเนินงาน โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณประจำ เพราะงบประมาณเป็นช่วงรอยต่อ และขณะนี้ งบประมาณปี 2567 กำลังจะเข้าต้นปีที่จะถึงนี้ เพราะฉะนั้น ขณะนี้จึงไม่มีเงินทำงาน แต่เงินที่จะสามารถจะมาดำเนินการได้ก็จะเป็นช่วงพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมาเราใช้เงินในการบริหาร โดยเอาธนาคารของรัฐเข้ามาช่วยบ้างหรือเป็นเงินที่หยิบตรงนั้นมาโปะตรงนี้ ฉะนั้น การทำงานในวันนี้ คือ การสร้างรากฐาน และเป็นการเตรียมพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป
พร้อมยืนยันว่า ปี 2567 จะเป็นปีที่ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือการทำงาน พร้อมมองว่าตั้งแต่ปี 2567 คนก็จะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ในช่วง 3 เดือน ที่รัฐบาลดำเนินการมาได้ปูรากฐานอะไรไว้บ้าง
โดยในส่วนของตน ที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำนโยบายเรื่องลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งไม่มีการใช้เงินรัฐ เพราะมีการดึงบริษัทต่าง ๆ เข้ามาช่วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน และบริษัทหลายบริษัทก็ยอมขาดทุน เพราะเป็นการช่วยเหลือประชาชน เพราะถ้าประชาชนแข็งแรงก็จะเอื้อในเรื่องเศรษฐกิจได้ดี และทำให้ระบบขับเคลื่อนไปได้ และจะเชื่อมโยงไปถึงการขยับขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ
ส่วนมั่นใจว่า ผลงานรัฐบาลจะเป็นตัวดึงคะแนนความนิยมกลับคืนมาได้ ใช่หรือไม่
นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนมองว่า เรื่องผลงานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการดึงความรู้สึกของประชาชน เพราะถ้าเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจจริง และสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาชนก็จะพึงพอใจ
แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ เรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น คือการลงไปพบปะกับประชาชนโดยตรง เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ ก็ได้รับเสียงสนับสนุนแนบแน่นและแข็งแรง เราก็ยังเชื่อมั่นในตรงนี้ แต่อาจจะต้องปรับปรุงการสื่อสารให้กับประชาชน และเยาวชนให้มากขึ้น โดยการใช้ โซเชียลมีเดีย
ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทย ยังไม่แข็งแรงในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้การสื่อสารยังคงมีข้อจำกัด แต่เชื่อว่า หลังจากที่มีการปรับปรุงพรรคใหม่ และมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ นางสาวแพทองธาร รวมถึง มีกรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่ ก็เชื่อว่า การปรับตัวต่าง ๆ จะทำให้เข้าถึงทุกกลุ่มทุกวิชาชีพ และเยาวชนกลุ่มต่าง ๆ ได้มากขึ้น ความเชื่อว่าการสื่อสารในเรื่องของวิสัยทัศน์ผลงาน สื่อสารประชาชนมากขึ้น ก็จะเป็นผลทำให้สิ่งต่าง ๆ ได้พัฒนาดีขึ้น
นายภูมิธรรม ยังกล่าวย้ำว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไป เพราะรัฐบาลมีเวลา 4 ปี แต่หลังจาก 4 ปีประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครพูด ใครทำ และสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ดีที่สุด
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/h0z5VlHO-a4