มติสภา! ตีตกร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ฉบับก้าวไกล – วิปรัฐบาล จ่องัดแผนแก้เผ็ด ทำสภาฯล่ม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ที่เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นวาระการลงมติว่าจะรับหลักการหรือไม่

ซึ่งค้างจากการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เนื่องจากต้องปิดประชุมสภาฯ ด้วยเหตุที่ผู้ลงมติมีจำนวนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีของสภาฯ และถือว่าเป็นการประชุมล่ม โดยมีผู้ลงชื่อเป็นองค์ประชุมจำนวน 364 คน และลงมติเสียงไม่รับหลักการ 233 เสียง รับหลักการ 158 เสียง ถือว่าร่างข้อบังคับดังกล่าวต้องตกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาร่างข้อบังคับฯ ดังกล่าว ถือเป็นร่างกฎหมายของสภาฯ ที่เข้าสู่วาระการพิจารณาสภาฯ ชุดที่ 26 เป็นฉบับแรก และต้องตกไปด้วยมติข้างมากของที่ประชุมสภาฯ

สำหรับสาระสำคัญของร่างข้อบังคับดังกล่าว  เป็นร่างแก้ไข เพื่อปรับปรุงการทำงานของสภาฯ ที่สำคัญ เช่น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเปิดเผยรายงานหรือรายละเอียดของการประชุม, ให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 5,000 คน เข้าชื่อเสนอญัตติให้สภาฯพิจารณาได้, กำหนดสัดส่วนประธานกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบต้องสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นต้น

------------------------------------------------------

ครูมานิตย์ชี้ ก้าวไกล" มีเขี้ยวเล็บมากขึ้นจ่อหารือวิปรัฐบาล รับมือสภาล่ม

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงเหตุการณ์สภาล่มเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ระหว่างการลงมติร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ดูแล้วเป็นการแก้เผ็ดของพรรคก้าวไกลที่คงไม่พอใจ ส.ส.รัฐบาลไม่ลงมติโหวตเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ให้พรรคก้าวไกลในช่วงเช้าวันที่ 13 ธ.ค. จึงมาเอาคืนในการลงมติร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ตอนนับองค์ประชุมก็ช่วยแสดงตนให้ แต่ไม่ยอมกดคะแนนตอนลงมติ

“ถือเป็นบทเรียนที่รัฐบาลจะต้องนำไปแก้ไขในการประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 19 ธ.ค. โดยจะนำเรื่องสภาล่มมาหารือในที่ประชุม เพื่อวางมาตรการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดเหตุสภาล่มขึ้นมาอีก” นายครูมานิตย์กล่าว

ส่วนที่รัฐบาลมีเสียง ส.ส. 314 เสียง แต่ยังปล่อยให้สภาล่มได้อีกนั้น นายครูมานิตย์กล่าวว่า อยากให้มองวิกฤตเป็นโอกาส เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าพรรคก้าวไกลส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว เราต้องเตรียมรับมือหลังจากนี้ให้ดี ตอนนี้ก้าวไกลมีเขี้ยวเล็บมากขึ้น ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป เขาเรียนรู้การใช้วิชาการเมืองแล้ว ไม่ได้มีแค่หลักวิชาการอย่างเดียว เป็นการเรียนรู้วิชาการเมืองมาจากแกนนำเพื่อไทยที่ใช้ในสมัยที่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/wLD3HeMb9IM