เลือกตั้งและการเมือง

“เศรษฐา” แถลงแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ จัดการค้าทาสยุคใหม่

โดย kanyapak_w

28 พ.ย. 2566

66 views

“เศรษฐา” นำทีม “ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-คลัง” แถลงแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ขจัดการค้าทาสยุคใหม่ จับเจ้าหนี้-ลูกหนี้ ไกล่เกลี่ย ห้ามคิดดอกเกิน 15%/ปี ยันไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ แต่มั่นใจหากเศรษฐกิจดี ประชาชนไม่กลับเป็นหนี้ซ้ำ เผย 8 ธ.ค.จ่อมอบนโยบายเชิงรุก นายอำเภอ-ผกก.ทั่วประเทศ ขอประชาชนไม่ต้องกลัว ลั่นรัฐบาลไม่ยอมรับมาเฟียหนี้นอกระบบ



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะตั้งโต๊ะแถลง ปรับหนี้นอกระบบ พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.)




โดยนายกรัฐมนตรี เริ่มการแถลง โดยกล่าวถึงหนี้นอกระบบที่เป็นปัญหากัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของคนไทย วันนี้เราจะเอาจริง กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ คืนศักดิ์ศรี สร้างความมั่นคงให้กับคนไทยทุกคน โดยจะร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับครัวเรือน ถึงมหภาค ยกระดัยความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ให้กลับไปเป็นหนี้ซ้ำ ซึ่งที่ผ่านมามีการประเมินตัวเลขประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ กว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนยังมองว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำเกินไป แต่ปัญหาจริงน่าจะมากกว่านั้น



นายเศรษฐา ยังย้ำว่า “พวกเขาไม่สามารถแม้กระทั่งจะฝัน ถูกปิดโอกาสการเติบโต ส่งผลกระทบเป็นโดมิโน ผมถือว่าเรื่องหนี้นอกระบบ คือการค้าทาสยุคใหม่ พรากอิสรภาพไปจากผู้คน”



พร้อมกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลได้บูรณาการหลายภาคส่วน โดยจะรับบทเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ทั้งเรื่องดอกเบี้ยที่แพงเกิน ,การทวงหนี้ที่รุนแรง เพื่อทำให้ชูกหนี้มีอากาศหายใจ ยืนยันว่าจะดำเนินการไม่ให้ซับซ้อน มีขอบเขตตั้งแต่ต้นจนจบ ทำถังข้อมูลกลาง มีตัวเลขตรวจสอบได้ มีวิธีเข้าสู่กระบวนการสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ให้เขเาสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยถูกต้อง ซึ่งตนได้ฝากให้ 2 หน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ ทำงานอย่างมีเป้าหมาย มีกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งหลังไกล่เกลี้ย รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังก็จะเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ให้



“การแก้หนี้ครั้งนี้ ไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ แต่ผมมั่นใจว่าเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะทำให้ประชาชนมีรายได้ ไม่จำเป็นต้องก่อหนี้อีก และรายย่อยก็สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้”



นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า วันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะแถลงแก้หนี้แบบครงวงจร ทั้งในและนอกระบบ ตนจะทำให้โครงการนี้ปลดปล่อยประชาชน จากการเป็นทาสหนี้นอกระบบ



ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว ถามถึงเกณฑ์การไกล่เกลี่ย ว่ามีการกำหนดเพดานการคิดดอกเบี้ยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามคิดเกิน 15% ต่อปี ซึ่งต้องดูว่าตั้งแต่เป็นหนี้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ หากจ่ายเกินไปแล้วก็ต้องยกเลิกต่อกัน และยืนยันว่ามาตรการที่จะดำเนินการนี้ไม่เหมือนในอดีต เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานแบบบูรณาการ แต่ครั้งนี้ จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น



สำหรับฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ต้องมีเจ้าหนี้มาเจรจา และเราจะมีกระทรวงการคลังเข้ามา ซึ่งขออย่าลืมว่าก็ยังมีการแก้ไขหนี้ในระบบอีกด้วย ที่จะทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ทำให้การกลับมาเป็นหนี้ยากยิ่งขึ้น ถ้าจะพูดว่าไม่ให้กลับมาเป็นหนี้อีกเลย คิดว่าจะลำบาก แต่ต้องมีความเป็นธรรม ตามที่กฎหมายกำหนด การที่เรามีความร่วมมือวันนี้ถือเป็นนิมตรหมายที่ดี นำทุกภาคส่วนมาบูรณาการ มาแก้ไขปัญหา คงไม่ใช่ว่าเรามองไม่เห็นปัญหา เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งในวันนี้ เรื่องนี้เราให้ความสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาลยังมีอีกมากในเรื่องของการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่ขั้นตอนแรกเราต้องลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และวันที่ 8 ธ.ค.ก็จะประชุมร่วมกันระหว่างนายอำเภอกับผู้กำกับทั้วประเทศ มีการกำหนดเคพีไอชัดเจน ติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง คงไม่เหมือนสมัยก่อนที่ทำกันมา



ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพล ที่อาจทำให้ประชาชนไม่กล้าเข้ามาไกล่เกลี่ย ทางกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการอยู่แล้วว่าเราไม่ยอมรับ ผู้มีอิทธิพลนอกระบบ หรือมาเฟีย ก็ต้องบริหารจัดการไป บ้านเมืองมีกฎหมาย อัตราดอกเบี้ยที่คิดไว้ก็ต้องชัดเจน จึงต้องเรียกมาคุยทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ทั้งฝ่ายปกครองและความมั่นคง (เสียงถาม-ตอบ อยู่ช่วงท้าย)



ด้านนายอนุทิน แถลงว่า กระทรวงมหาดไทย น้อมรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยจะบูรณาการตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้มีความใกล้ชิดกับประชาชน จึงจะเป็นจุดที่จะบูรณาการความร่วมมือกับทัว้ตำรวจและกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมแก้ปัญหาคลายทุกข์ให้กับประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทยจะทำงานบริหารเชิงพื้นที่ ด้วยบุคลากรนายอำเภอ กับผู้กำกับสถานีตำรวจ ช่วยเหลือลูกหนี้ ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม ปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด ร่วมกันทำอย่างโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด



ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย ขอเรียนเชิญประชาชน ที่ประสบปัญหาทั้งถูกข่มขู่ คุกคาม ดูหมิ่น กระทำโดยไม่เป็นธรรม หรือแม้กระทั่งอยากปรับจากหนี้นอกระบบ มาเป็นหนี้ในระบบ มายังศูนย์ดำรงธรรม ทัง้ที่อำเภอและจังหวัดทุกแห่ง



ส่วนใครที่หวั่นเกรงผู้มีอิทธิพล ตนได้สั่งให้กรมการปกครอง ออกสำรวจ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง



ด้าน รองผบ.ตร. ยืนยันว่าที่ผ่านมา ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย จับกุมสืบสวนดำเนินคดี จากสภาพปัญหา เราเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกทวงหนี้ โดยตำรวจมีสายด่วน 1599 รับแจ้งเหตุ ที่ผ่านมาได้เอกซเรย์พื้นที่ ขึ้นบัฐชีผู้ประกอบการนอกระบบ ทั้งระดับ S ,M และ L เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการจับกุมไปแล้วกว่า 134 ราย เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น เครือข่ายรับจำนำรถยนต์เป็นต้น



ขณะที่ นายกฤษฎา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ข้อสั่งการ เพื่อดูแลประชาชนที่เป็นลูกหนี้ หลังปรับโครงสร้าง โดยเราจะเข้ามาดูแล ด้วยธนาคารของรัฐ ที่มีเครื่องมือหลายอย่าง เช่นการให้กู้รายละ 5 หมื่นบาท หรือสินเชื่ออาชีพอิสระเพื่อรายย่อย ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ส่วนที่ดินที่ติดจำนอง ก็สามารถมารีไฟแนนซ์ มีวงเงินรองรับสำหรับเกษตรกร อีกทั้งมีช่องทาง พิโกไฟแนนซ์ สำหรับธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งมีมาลงทะเบียนแล้วกว่า 1 พันราย



คุณอาจสนใจ

Related News