เลือกตั้งและการเมือง

"พิธา" ไม่หนักใจ พร้อมขึ้นศาลเดือนหน้า ฝากเอฟซีไม่ต้องกังวล

โดย kanyapak_w

24 พ.ย. 2566

137 views

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 พ.ย.2566 ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาบรรยายในหัวข้อ “ประสบการณ์จาก ม.ฮาร์วาร์ดและเอ็มไอที ก้าวสู้เส้นทางผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย”โดยมีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยใกล้เคียง ประชาชนที่สนใจ บุคลากรจากหลายมหาวิทยาลัย และภาคเอกชนร่วมรับฟังการบรรยายและร่วมตั้งคำถามแลกเปลี่ยนพูดคุย



โดยนายพิธา ได้เล่าประสบการณ์ช่วงที่เรียนอยู่ วิทยาลัยฮาร์วาร์ด เคเนดี้ หรือ Harvard Kennedy School ว่าช่วงที่ศึกษานั้น เพื่อนจะมีหลายสัญชาติ โดยประมาณ 40% ไม่ใช่คนอเมริกัน ด้วยความที่หลากหลายของเชื้อชาติ หากพูดถึงความเหลื่อมล้ำ ในห้องเรียนจะเถียงกันหลากหลายความคิดเห็น มองว่าเป็นเรื่องของรายได้ การเข้าถึงที่ดิน การศึกษา ซึ่งมีวิธีคิดหลายแบบว่ามาจากเงินหรือจากอะไร พอคุยเสร็จก็กินเบีบร์กันต่อ ทำให้มีความรู้สึกว่าในห้องเรียนคือห้องที่ปลอดภัยทางความคิด ไม่มีการจำกัดทางความคิด นั่นคือสิ่งที่ฮาร์วาร์ดทำได้ดี และจะไม่เน้นหนังสือเรียนจะเน้นเรียนจากปัจจุบันทันด่วน หนังสือเรียนมีบ้างอย่างเช่นเศรษฐศาสตร์ เรียนเล่มเดียวกันกับที่ม.ธรรมศาสตร์


ต่างกันที่วิธีสอน ด้วยวิธีการบังคับทางสังคมจึงบังคับให้อ่านค้นคว้ามาก่อน แต่หากเรื่องปัจจุบันทันด่วนคือคิดแล้วทำทันที สรุปง่ายๆคือที่ฮาร์วาร์ดนั้น มีเสรีภาพทางความคิด ทางวิชาการ คิดเยอะก็เกิดประโยชน์เยอะ และมีหลักการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการยอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมา และแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด พร้อมกันนี้ยังเปิดให้ผู้เข้าร่วมได้ตั้งคำถามทั้งการเมืองภายในประเทศ การเมืองนอกประเทศ และทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับหัวข้อการบรรยาย ประสบการณ์จาก ม.ฮาร์วาร์ดและเอ็มไอที ก้าวสู้เส้นทางผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ก่อนจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เสร็จสิ้นการบรรยาย



ภายหลังการบรรยาย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ช่วงเดือนธันวาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานคดี ‘พิธา’ ปมถือหุ้นสื่อไอทีวีในวันที่ 20 ธ.ค.66 และคดีล้มล้างการปกครอง ปมพรรค ‘ก้าวไกล’ หาเสียงก่อนเลือกตั้ง แก้ไข ม.112 โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดในวันที่ 25 ธ.ค.66นี้ ว่าทั้ง 2 เรื่องนั้นส่วนตัวและพรรคมีการเตรียมตัวเต็มที่ ไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด ซึ่งตนเองได้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ศาลอยู่ว่าการเรียกพยานจะเป็นอย่างไร และคำถามที่ศาลสงสัยจะเป็นอย่างไร



ซึ่งเราจะได้ชี้แจงให้เกิดความกระจ่างมากขึ้นทุกประเด็น และตอนนี้ส่วนตัวและพรรคทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีความกังวลใจและไม่ประมาทเช่นเดียวกัน โดยจะทำให้รัดกุมและรอบคอบมากที่สุด และในวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมาพบกับนศ.มข.และหลายภาคส่วน โดยได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องต่างๆ ทั้งการเมืองในประเทศ การเมืองระหว่างประเทศ ในส่วนของกองเชียร์ที่วิตกกังวลกับคดีของตนเองนั้น บอกตรงนี้เลยว่าไม่ต้องกังวลใจ เราทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องของพรรคสามารถชี้แจงได้ทั้งหมดอยู่แล้ว



นอกจกานี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเยือนจังหวัดอุดรธานี ร่วมเวทีบรรยาย “ก้าวต่อไป อุดรท้องถิ่น” จัดขึ้น ณ โรงแรมสยามแกรนด์ โดยมี นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ สส.อุดรธานี เขต 1 พร้อมด้วยสมาชิกพรรคก้าวไกล จังหวัดอุดรธานี และประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการบรรยายกว่า 400 คน



ช่วงต้นของการบรรยาย นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่เสียกำลังใจและมีสมาธิพร้อมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน คะแนนเลือกตั้งที่พี่น้องชาวอุดรธานีมอบให้ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ เริ่มต้นที่ 140,000 คะแนน จนมาถึงพรรคก้าวไกล ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อปี 2563 เพิ่มเป็น 180,000 คะแนน และ 220,000 คะแนนจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เชื่อว่าเลือกตั้ง อบจ.รอบนี้ จะเก็บคะแนนเพิ่มและคว้าชัยชนะแน่นอน



ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึง “3ข.” ได้แก่ “ขยับ” เนื่องจากพรรคก้าวไกลมี สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานกรรมาธิการที่ดินฯ ก็เป็นของก้าวไกล จึงพร้อมเดินหน้าผลักดันและขยับเพื่อชาวอุดรธานี ต่อมาคือ “ขยาย” พรรคต้องขยายฐานสมาชิกให้มากขึ้น ขยายอาสาสมัครและแนวร่วมให้มากขึ้น เมื่อขยายแล้วจึงพร้อม “แข่ง” โดยไม่ต้องรอถึง 4 ปีในการเลือกตั้งใหญ่ เพราะยังมีการเลือกตั้ง อบจ. ที่ต้องแข่งขันในระดับท้องถิ่น



นายพิธา กล่าวถึงการเลือกตั้ง อบจ. ที่จะมาถึงว่า พรรคก้าวไกลต้องการชนะในหลายจังหวัด เพื่อขยายผลจากการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา จากข้อมูลจะพบว่ามีประมาณ 40 จังหวัดทั่วประเทศ ที่คะแนนของพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 แต่ยังเหลืออีก 20-30 จังหวัด ที่คะแนนพรรคมาเป็นอันดับ 2 ดังนั้นต้องเดินหน้ารณรงค์เต็มที่ โดยในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งตัวแทนผู้สมัครลงเลือกตั้งครบทุกจังหวัด แต่อุดรธานีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เราส่ง และตนจะเดินทางมาหาเสียงที่อุดรธานีด้วยตัวเองอย่างแน่อน มั่นใจว่าจะปักธงที่อุดรธานีได้ เนื่องจากมีคนทำงานท้องถิ่นอยู่แล้ว มี สส. พรรคก้าวไกลที่ทำงานอย่างแข็งขันและคะแนนของพรรคก็โตขึ้นโดยตลอด ภายในระยะเวลา 1 ปี ตนมั่นใจว่าจะสามารถชนะได้



นายพิธา ยังได้ยกตัวอย่างการเมืองแนวกว้างที่พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศครั้งที่ผ่านมา ที่ชนะทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้สูงอายุ ชนะในทุกจังหวัด สิ่งเหล่านี้คือ ชัยชนะในแนวกว้าง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องชนะในแนวลึกต่อไป นั่นคือสนามท้องถิ่น เพราะปัญหาของคนอุดรฯ ต้องแก้ไขด้วยคนอุดรฯ ปัญหาของคนท้องถิ่นต้องแก้ไขด้วยท้องถิ่นเอง ขณะที่หน้าที่ของผู้แทนฯ คือพูดแทนประชาชนในสภาฯ และผ่านกฎหมาย แต่หน้าที่ของนักการเมืองท้องถิ่น คือแก้ไขปัญหาให้ท้องถิ่น



ประเทศไทยต้องมีการกระจายอำนาจ และให้ท้องถิ่นแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ยกตัวอย่างปัญหาของคนอุดรธานี เช่น ปัญหาขยะ 1,400 ตันต่อวัน แต่กลับมีงบประมาณในการจัดการ 10 ล้านบาท/ปี เพราะวิธีคิดคือเก็บภาษีและส่งไปยังส่วนกลางแล้วคิดตัวเลขกลับมา หรือปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย แต่กลับมีงบประมาณในการแก้ไขเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นได้รับงบประมาณน้อย เราไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปได้



ใน 4 ปีข้างหน้า หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล และทำเรื่องการกระจายอำนาจแบบค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มงบปีละ 2 แสนล้านบาททั่วประเทศ และได้นายก อบจ. เป็นของก้าวไกล รวมถึงมี สส. ของก้าวไกลในสภา เป็นแบบนี้ประเทศต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอน ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนไม่อยากให้เก็บภาษีแล้วส่งเข้ากรุงเทพฯ หากอยากให้ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง และทำงานเพื่อพี่น้องชาวอุดรธานี ขอให้ยึดแนวทางแบบพรรคก้าวไกล ประเทศไทยต้องมีการกระจาย 4 ด้าน ได้แก่ กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร และกระจายภารกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาของคนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

คุณอาจสนใจ

Related News