เลือกตั้งและการเมือง

‘อดิศร’ แจงแค่หยอก ‘ศิริกัญญา’ ท้าบวชชี หากเงินดิจิทัลสำเร็จ - 'วิษณุ' ชี้ออก พ.ร.บ.กู้เงินได้เหมือน กม.ทั่วไป

โดย nattachat_c

13 พ.ย. 2566

34 views

วันที่ 11 พ.ย. 2566 นายเอกราช อุดมอำนวย หรือทนายจอจาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง จากพรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความว่า


ผมถามกลับ อดิศร เพียงเกษ หรือคุณตุ๊ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า


โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท แท้ง คุณตุ๊จะรับผิดชอบอย่างไร?


ผมขอ มีให้เลือก 4 ข้อ เช่นกัน

1.เลิกแต่งกลอน แต่งเพลง

2.ไปบวชพระ

3.ลาออกจากประธานวิปรัฐบาล

4.กราบขอโทษประชาชน


ซีเรียสเช่นกันนะ…ตอบด้วย

-------------

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีท้าให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ลาออกจาก ส.ส. เลิกให้ความเห็นเรื่องเศรษฐกิจ, บวชชี และกราบขอโทษประชาชน หากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จ ว่าตนแค่หยอกล้อ น.ส.ศิริกัญญา ตนเป็นนักประชาธิปไตย เวลาที่มีความเห็นที่แตกต่างทั้งฝ่ายค้านหรือรัฐบาลถือเป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายค้านเป็นกระจกเงาที่สะท้อนปัญหาต่างๆ ด้วยความห่วงใยว่านโยบายดิจิทัลมีการขัดต่อกฎหมายใดหรือรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถือเป็นข้อท้วงติงที่น่ารับฟัง ซึ่งฝ่ายกฤษฎีกา อัยการ หรือแม้แต่นิติกร ทุกกระทรวงต่างๆ ก็เป็นมือกฎหมายให้แก่รัฐบาลทุกรัฐบาลอยู่แล้ว


นายอดิศรกล่าวต่อว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ก็น่าจะผ่านกฎหมายไปได้ จึงเห็นว่าการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะออกเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เข้าสู่การพิจารณาของทั้งสองสภา เป็นการเปิดใจกว้าง มีอะไรก็ไปพูดกันในสภา ตนขอเชิญทุกฝ่ายให้ยกเลิกการใช้วาทกรรมได้หรือไม่ แล้วไปทำงานร่วมกันในสภา การคิดนอกกรอบของพรรค พท.แน่นอนว่าหากพรรค ก.ก.เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จะไม่เอานโยบายนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่จะใช้นโยบายสวัสดิการ 3,000 บาทแทน ซึ่งก็เอาเงินภาษีมาใช้เช่นกัน ในจำนวนเงินที่เท่าๆ กัน


นายอดิศรกล่าวด้วยว่า การใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้จึงเป็นวิถีทางที่จะให้ทุกฝ่ายเคารพวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ซึ่งโครงการนี้ตนคิดว่าไม่ล่มอย่างเด็ดขาด รวมถึงไม่ใช่อย่างที่หลายฝ่ายบอกว่านายกฯจะยืมมือสภาไม่ให้โครงการนี้ผ่าน เพราะนี่เป็นความตั้งใจของนายกฯ พรรคร่วมรัฐบาลอย่างแท้จริง เชื่อว่าจีดีพีที่โต 1.9 รั้งท้ายในประเทศอาเซียน หากไม่ทำโครงการใหญ่ๆ เช่นนี้ก็หาหนทางยาก โอกาสที่จะพลิกฟื้นขึ้นมา จึงคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี


“อย่างไรก็ตาม ผมรับฟังและไม่ได้เป็นศัตรูของใคร ผมเป็นผู้ใหญ่พอ แต่ผมก็หยิกแกมหยอก เพราะดูเหมือนว่าคุณศิริกัญญาคล้ายจะขวางทุกเรื่อง และลืมบอกไปว่าลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย แล้วมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านจริงๆ และที่บอกว่ากฤษฎีกาเห็นอย่างไร บันทึกการประชุมเป็นความลับหากต้องการก็สามารถขอได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง และขอขอบคุณคุณศิริกัญญาที่เป็นห่วง” นายอดิศรกล่าว


เมื่อถามว่า หาก พ.ร.บ.เงินกู้ เข้าสู่สภามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้รับเสียงสนับสนุน โดยเฉพาะจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอดิศรกล่าวว่า พ.ร.บ.เช่นนี้ในเวลาที่ผ่านมาเขาจะใช้เป็น พ.ร.ก. ซึ่งมีศักดิ์เท่ากัน และต้องมีการนำไปขอความเห็นจากสภา จึงจะออกเป็นกฎหมายได้ แต่ลักษณะเช่นนั้นถือเป็นการมัดมือชก นายเศรษฐาจึงเห็นว่าสภาทั้งสองสภามีผู้ทรงคุณวุฒิ แม้ว่านายสมชาย แสวงการ ส.ว. จะมาตีปลาหน้าไซ คัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ถือเป็นความคิดที่ดี แต่รัฐบาลก็มีเสียงสนับสนุนเป็นปึกแผ่นอย่างมั่นคง จึงมั่นใจว่า พ.ร.บ.เงินกู้ฉบับนี้จะผ่านสภาได้โดยการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน และไม่มีปัญหาเรื่องเสียงสนับสนุน


เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ที่จะมีคนเตรียมไปร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายอดิศรกล่าวว่า ธรรมดาประเทศไทยมีนักร้องลูกทุ่ง นักร้องลูกกรุง นักร้องอาชีพ จิ้งจกตัวหนึ่งทักเราก็ต้องฟัง แต่ก็คิดว่าไม่น่าผิดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญแต่อย่างใดทั้งสิ้น


เมื่อถามถึงกรณีที่นายเอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กทม. พรรค ก.ก. ระบุว่าหากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตแท้ง นายอดิศรจะรับผิดชอบอย่างไร 1.เลิกแต่งกลอน แต่งเพลง 2.ไปบวชพระ 3.ลาออกจากประธานวิปรัฐบาล และ 4.กราบขอโทษประชาชน นายอดิศรกล่าวว่า “โห นี่เลียนแบบผมเป๊ะเลย คิดอะไรสร้างสรรค์บ้าง อย่าเลียนแบบคนอื่น อยากให้พรรคก้าวไกลหากจะโต้กับผมให้โต้มาเป็นกลอนเลย จะมีความสนุกทางการเมือง เรื่องกวีนิพนธ์ วัฒนธรรมพระพุทธศาสนา อยู่ในสายเลือดผมแล้ว ขออย่างอื่นขอได้แต่ขอเช่นนี้อย่าขอเลย ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมกลอนที่ผมเขียนไว้เป็นพ็อคเก็ตบุ๊ก แล้วจะเอาไปมอบให้คุณเอกราช ช่วยอ่านให้จบด้วย แต่ไม่เป็นอะไร ผมเห็นนักการเมืองใหม่ๆ ผมมีความสุข ขอให้รักษาตำแหน่งหน้าที่ไว้ให้ได้ตลอด แล้วอย่าลืมกวาดบ้านให้สะอาดด้วย คนจะได้ไปอยู่เยอะๆ

-----------

เมื่อวานนี้  (12 พ.ย.66) นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนส่งคณะกรรมกฤษฎีกาตรวจสอบข้อกฎหมายที่ถูกมองอาจขัดรัฐธรรมนูญว่า ตนไม่รู้เรื่องนี้ และให้ความเห็นไม่ได้ เพราะเมื่อส่งมาที่คณะกรรมกฤษฎีกา ก็ต้องส่งไปคณะอื่น ไม่ใช่คณะของตน เข้าใจว่าเป็นคณะนายพนัส สิมะเสถียร กรรมการกฤษฎีกา

เมื่อถามว่าในฐานะนักกฎหมาย มองในแง่กฎหมายเรื่องนี้อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่เคยดูเรื่องนี้ เพราะว่าตอนแรกเขาก็พูดกันไม่รู้เรื่องว่าคืออะไรมาจากไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาถามไปว่ายังไง


เมื่อถามต่อว่า ถ้าออกเป็นพระราชบัญญัติกู้เงิน จะทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ ทำได้อยู่แล้ว แต่ว่าจะผ่านสภาหรือไม่ หรือว่าอาจมีคนส่งศาลรัฐธรรมนูญตอนหลังก็ทำได้ เหมือนการออกกฎหมายทั่วไป


เมื่อถามว่า จะเป็นการผิดพ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลัง ของรัฐ พ.ศ.2561 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลคงถือว่าเขาดูดีแล้ว ว่าไม่ขัด พ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลังฯ มาตรา 6 และ มาตรา 9 แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าขัด เพราะมีประโยคที่ต้องแปลกัน ที่ระบุว่าต้องไม่ใช้ประโยชน์ไปในการหาเสียง หาคะแนนนิยม

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Liw9RkTr_Q0


คุณอาจสนใจ

Related News