เลือกตั้งและการเมือง
"เศรษฐา" ตั้ง "สุริยะ" นั่งอนุฯอีอีซี ติดตามแก้ปัญหาพื้นที่ ลั่นท่าเรือเฟส ต้องเสร็จกลางปีหน้า
โดย kanyapak_w
4 พ.ย. 2566
75 views
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE2) ตำบลเขาคันทรง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อมารับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดความล่าช้าของโครงการไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ พลังงานสะอาด ระบบรางการเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมกับยืนยันว่าโครงการเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC นั้นเป็นโครงการที่ดีมาก ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด ที่จะตอบสนองรัฐบาล ว่ารัฐบาลไทยเปิดแล้ว ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ซึ่งการมาวันนี้ก็เพื่อดูปัญหาหยังเชิญแก้ปัญหาไปแต่ละเรื่อง
โดยเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ นักลงทุนถามว่ามีแหล่งน้ำเพียงพอต่อการทำอุตสาหกรรมหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สทนช กับกรมชลประทานต้องตอบปัญหานักลงทุนให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาข้อความขัดแย้ง ระหว่างบริษัทท่อส่งน้ำวงสยามและอีสวอเตอร์ วันนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่เลขาธิการ EEC ได้มาพูดคุย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเจรจา ระหว่าง 2 บริษัทที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ เพราะปัญหานี้ต่างชาติกังวลใจ และในวันนี้ก็เห็นแล้วว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ได้รับการแก้ไขแล้ว
ขณะที่ความล่าช้าในการก่อสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับปากจะไปเจรจากับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 ซึ่งใครขณะนี้ถือว่าติดอันดับที่ 19 ของโลก เพราะมีปริมาณสินค้าเข้าออกจำนวนมาก แต่หากสร้างเสร็จ จะเป็น1 ใน 15 ของโลก ขณะที่ผู้ว่าการการท่าเรือแห่งประเทศไทยก็ยอมรับ ว่าเกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง ซึ่งตนสั่งการว่าเรื่องนี้ยอมรับไม่ได้ เมื่อผู้รับเหมามีปัญหาก็ต้องเรียกมาคุย จะอ้างเรื่องถมทะเลล่าช้า หรืออ้างเรื่องโควิดไม่ได้
ขณะที่นักลงทุนสนใจเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ EEC จำนวนมาก หากท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 สร้างไม่แล้วเสร็จการขนถ่ายรถยนต์จะทำอย่างไร ดังนั้นกลางปีหน้า จะต้องแล้วเสร็จโดยอีก 2 เดือน ข้างหน้าตนจะลงมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่เรื่องพลังงานสะอาดนักลงทุน อยากจะมาลงทุน ยังพื้นที่ EEC ในรูปแบบ PPP หรือสร้างไฟฟ้าหลังอ่างเก็บน้ำ 10,000 กิโลวัตต์ ซึ่งใช้สายส่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
โดยนายเศรษฐา ยอมรับว่าปัญหาในพื้นที่ EEC นั้นมีมาก คณะที่ลงพื้นที่ร่วมกันในวันนี้จึงเห็นตรงกันว่า ตั้ง.นายสุริยะ เป็นคณะอนุกรรมการติดตามการแห้ปัญหาอีอีซี โดยจะมีขนาด 9-10 คนสามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
นายเศรษฐา กล่าวได้ว่า การลงพื้นที่ EEC ในวันนี้เป็นการบ่งบอกว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ และให้ความมั่นใจอย่างสูงสุดกับนักลงทุน ที่รัฐบาลเมื่อเดินทางไปต่างประเทศสามารถพูดได้เต็มปากว่าพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนี้ทำทำงานได้จริงและสามารถเชิญนักลงทุนอย่างตรงไปตรงมา ถูกต้องและรวดเร็ว
หากสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ทุกอย่างได้ ประเทศไทยก็จะเป็นแหล่งลงทุนแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่ ตนจะเดินทางไปประชุมเอเปค ที่สหรัฐอเมริกา มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันระหว่างประเทศ ซึ่งคิดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถ พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อตกลงต่างๆได้จำนวนมาก
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,อีอีซี ,EEC