เลือกตั้งและการเมือง

'ทีมวันนอร์' พบกลุ่มฮามาส ยันปล่อยตัวประกันแน่ - 'เนทันยาฮู' ต่อสายคุย 'เศรษฐา' เร่งช่วยคนไทย

โดย nattachat_c

2 พ.ย. 2566

460 views

วานนี้ (1 พ.ย. 66) ที่รัฐสภา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ แถลงข่าว เกี่ยวกับการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันคนไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบตะวันออกกลาง


โดย นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะ ได้เดินทางไปพบตัวแทนที่ประเทศอิหร่าน วันที่ 26 ตุลาคม 2566


โดยได้พบกับแกนนำของกลุ่มฮามาส และตัวแทนจากอิหร่าน แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ซึ่งใช้เวลาพูดคุย 2 ชั่วโมง โดยกลุ่มฮามาส เข้าใจว่าการมาครั้งนี้ มาในนามประธานรัฐสภาของประเทศไทย และความรู้สึกของมุสลิมด้วยกัน เพื่อขอให้ปล่อยตัวคนไทย เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้


ซึ่งกลุ่มฮามาสได้บอกว่า ตัวประกันได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่เดือดร้อน แต่ไม่สามารถกำหนดวัน-เวลา ที่จะปล่อยตัวได้ เนื่องจากอาจเกิดเหตุอันตราย จากการโจมตีของอิสราเอลขึ้นได้


โดยกลุ่มฮามาสหวังอยากให้ตัวประกันเหล่านี้ บอกกับสังคมโลก ว่าอยู่กับฮามาสโหดร้ายจริงหรือไม่ จึงพยายามเพื่อให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัย และกลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข


ทั้งนี้ ได้มอบรายชื่อให้คนไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันแล้วทั้ง 22 คน โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างรอการยืนยันกับทางการอิหร่านว่า รายชื่อตรงกันหรือไม่


จากนั้น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ได้เข้าพบกับ อยาตุเลาะ อัดตารี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีและ ประธานสมัชชาองค์กรปาเลสไตน์ แห่งสำนักประธานาธิบดีอิหร่าน , ดร.ระมีฮียาน เลขาธิการใหญ่องค์การช่วยเหลือประชาชาติปาเลสไตน์แห่งชาติ , ดร.รูวัยรอน ประธานสมาพันธ์ พิทักษ์เยาวชนปาเลสไตน์ และต่อต้านอิสราเอลแห่งชาติ ใช้เวลาพูดคุย 3 ชั่วโมง ซึ่งได้มีการรับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือเพราะประเทศไทยมีคุณอนันต์ต่อมุสลิมทั่วโลกที่อยู่ประเทศไทย และประเทศอิหร่านก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย


นอกจากนี้ ทราบว่า มีการรายงานเรื่องดังกล่าวต่อประธานาธิบดีอิหร่าน จากนั้นได้มีหนังสือไปยัง บุคคลสำคัญของอิหร่าน 4 คน พร้อมกับประสานไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านและได้เข้าพบกับหัวหน้าของกลุ่มฮามาส แต่ยังไม่ทรสบรายละเอียดของการพูดคุย


นายอารีเพ็ญ ยังเล่าว่า อยากให้คนไทยเข้าใจว่าปาเลสไตน์ ต่อสู้มายาวนาน และคนทั่วโลกไม่ให้ความสนใจ พร้อมยอมรับว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันเนื่องจาก คลื่นโทรศัพท์หากมีการใช้ ก็จะมีการยิงระเบิดเข้าทันที


ซึ่งทางกลุ่มฮามาสได้เชิญเราให้เข้าไปพบตัวประกัน แต่เราไม่เข้าไปเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย


ส่วนกรอบเวลาที่จะปล่อยตัวคาดว่าจะเร็วที่สุด เพราะความปลอดภัยของภาวะสงคราม ถ้าบอกว่าจะปล่อยเมื่อไหร่ ระเบิดจะลงทันที และอาจทำให้สังคมโลกมองว่ากลุ่มฮามาสทำร้ายตัวประกัน แต่ตนคิดว่าการปล่อยตัวประกันคงไม่นานเกินรอ


ซึ่งคณะประสานงานของประธานรัฐสภาก็ได้มี ประจำการอยู่ที่ประเทศอิหร่านเพื่อคอยประสานงานหากมีการปล่อยตัวคนไทยออกมา ประธานรัฐสภาก็จะเดินทางมารับด้วยตนเอง ซึ่งถ้าหากปล่อยตัวที่ประเทศอิหร่านก็จะเป็นการสะดวก


พร้อมย้ำว่า การทำหน้าที่ในครั้งนี้ไม่ได้ข้ามหน้าข้ามตาใคร แต่เป็นการช่วยเหลือตามศักยภาพ ซึ่งการเดินทางไปประเทศอิหร่านนั้น เพราะประเทศอิหร่านเป็นผู้มีอิทธิพลต่อกระบวนการฮามาส และเป็นแหล่งสำคัญที่สนับสนุนกลุ่มฮามาส เมื่อคนที่มีบุญคุณใหญ่หลวงขออะไรไปเขาก็น่าจะไม่ปฏิเสธ


"ตนมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาพูดคือความจริง เราเป็นกลุ่มแรกที่ไปพูดคุยกับกลุ่มฮามาสอย่างเป็นทางการ ถ้าหากคนไทยได้ปล่อยตัวก็เป็นผลงานของคนไทยทั้งหมดไม่ใช่ผลงานของคนใดคนหนึ่ง เราจะไม่ก้าวก่ายรัฐบาลในการทำหน้าที่ เราทำหน้าที่ในตัวแทนประธานรัฐสภาเท่านั้น ที่เข้าไปพูดคุยโดยตรง" นายอารีเพ็ญ กล่าว


ขณะที่ นายมุข กล่าวว่า เราต้องให้เกียรติกลุ่มฮามาสว่า พูดความจริง เพราะถ้าจะมาพูดอย่างทำอย่างก็ไม่จำเป็นจะต้องให้เข้าพบตั้งแต่แรก ดังนั้น การให้เข้าพบก็แสดงว่ายินดีต้อนรับ และพร้อมที่จะพูดความจริง


นั่นคือตัวประกันคนไทยอยู่ในความปลอดภัยดีแล้ว เราก็ต้องเชื่อในศักดิ์ศรี ของความเป็นมนุษย์ และ นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ ที่ต้องยึดมั่นในศาสนาจึงจะไม่พูดโกหก


พร้อมฝากสื่อและประชาชน เพราะมีการพูดโจมตีฮามาส  ปาเลสไตน์ และอิหร่าน จึงอยากให้ฟังหลายฝ่ายเพื่อวิเคราะห์ความเป็นจริงว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถยืนยันได้ 1,000 % หรือ 10,000 เปอร์เซ็นต์


แต่ตนเชื่อว่า เมื่อวันที่คนไทยกลับมาปลอดภัยทั้งหมดคือคำตอบ และให้สังคมพิจารณาว่า คณะพูดคุยเดินทางถูกต้องแล้วหรือไม่


แต่ถ้าท้ายที่สุดคนไทยไม่ถูกปล่อยตัว ก็จะได้รู้ว่าที่ทำมาไร้ผลและไม่ถูกต้อง


ขณะที่นายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการอีกทางหนึ่งแต่ไม่ว่าจะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่สำคัญท้ายที่สุดคือการนำคนไทยกลับมาเท่านั้นเอง

-------------
วานนี้ (1 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความเพิ่มเติมหลังให้สัมภาษณ์ถึงการโทรศัพท์พูดคุยกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ว่า


“วันนี้ท่านนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้โทรมาหาผมเพื่อแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของพี่น้องแรงงานไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอล ผมได้ขอให้นายกฯ อิสราเอลให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันให้ได้รับอิสรภาพอย่างปลอดภัยโดยเร็ว


และย้ำไปว่า พี่น้องแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอลไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จึงขอให้รัฐบาลอิสราเอลช่วยดูแลความปลอดภัยของคนไทยที่ยังคงทำงานอยู่ในอิสราเอลกว่า 20,000 คนด้วย


และหากมีความจำเป็นต้องอพยพคนไทยเพิ่มเติมหากสถานการณ์ยืดเยื้อหรือเลวร้ายลงไปอีก ซึ่งนายกฯ อิสราเอลได้รับปากที่จะให้ความช่วยเหลือฝ่ายไทยอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันที่จะช่วยเหลือให้แรงงานไทยกลับไปทำงานที่อิสราเอลเมื่อสถานการณ์คลี่คลายและจะแจ้งความคืบหน้าของสถานการณ์ให้ผมทราบด้วยครับ”

--------------



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RjX_qKZPLps

คุณอาจสนใจ

Related News