เลือกตั้งและการเมือง
เปิดหน้าครั้งแรก 'สส.ปูอัด' ยันโดนดิสเครดิต พร้อมเข้าสู่กระบวนตรวจสอบในชั้น กกต.
2 พ.ย. 2566
132 views
วานนี้ (1 พ.ย. 66) เวลา 16.40 น. ที่รัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ (สส.ปูอัด) สส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าที่ประชุมของ สส. และกรรมการบริหารของพรรคก้าวไกล ถึงกรณีถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ ว่า
ขอโทษที่ไม่ได้ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ เพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อทีมงาน การจะชี้แจงอะไร หันซ้ายไปก็เป็นทีมงาน ทำให้กล้ำกลืนฝืนทน จะพูดอะไรก็ลำบากใจ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทีมงาน และส่งผลกระทบต่อพรรค ทำให้ไม่สามารถออกมาพูดอะไรได้ หลายอย่างเป็นหลักฐาน เป็นช่องแชทส่วนตัว
ทราบว่า เมื่อเราเงียบจะทำให้หลาย ๆ ฝ่ายลำบาก ซึ่งกระบวนการที่จะเข้าต่อไปคือกระบวนการของ กกต. เนื่องจากมีผู้ยื่นไปร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้มีความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพรรคตัดสินเบา หรือหนัก ก็จะเป็นข้อครหา หากให้ กกต.เป็นคนกลางมาตัดสิน ตัวผู้ร้องจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนบริสุทธิ์ใจที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของกกต. และยืนยันว่า สิ่งที่ผู้ร้องร้องทุกกรณี ตนไม่ได้มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และยังทำงาน 7 วัน อย่างหนักหน่วง ถึงแม้จะไม่ได้โพสต์ลงโซเชียล ตนยังพยายามแก้ปัญหาในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายไชยามพวาน ได้โค้งขอโทษประชาชน และกล่าวว่า “ขอโทษที่ทำให้ทุกคนลำบากใจในวันนี้ เข้าใจว่าการเงียบหายไม่ส่งผลดีต่อใคร และวันนี้ ผมพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการชั้น กกต.สุดความสามารถ”
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรต่อ หากพรรคตัดสินว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนในฐานะผู้ถูกร้อง ยังไม่ได้เห็นหลักฐานว่ามีอะไรบ้าง วันนี้ จะมาขอหลักฐานที่เป็นเอกสาร และนำมาสื่อสารกับประชาชน และพร้อมออกทุกรายการ และทุกช่องทาง
เมื่อถามว่า ได้ชี้แจงกับ กก.บห. พรรคอย่างไรบ้าง
นายไชยามพวาน กล่าวว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่ได้มีหลักฐานที่เป็นเอกสาร ซึ่งเป็นข้อกล่าวหา เราตั้งใจที่จะคลี่คลายทีละข้อ สำคัญที่สุดคือ ตนได้เข้าไปสู่กระบวนการ กกต.เพื่อพิสูจน์ความจริง
เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่ สส. และต่อสู้กับข้อกล่าวหาดังกล่าว
นายไชยามพวาน กล่าวว่า เราจะสู้กับข้อเท็จจริง แต่ขอยืนยันว่า จะไม่มีทางฟ้องผู้ร้องแน่นอน เพราะเรามีความสัมพันธ์กับทุกคนในการทำงานร่วมกัน อาจจะมีการเข้าใจผิด
“แต่ขอยืนยันว่า ในฐานะลูกผู้ชาย และเป็น สส. จะไม่มีการฟ้องร้องแน่นอน แต่ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ต้องเข้าเพื่อพิสูจน์ต่อไป
หากพรรคมีมติทางใดทางหนึ่งในการลงโทษ ก็เป็นกระบวนการลงโทษของพรรค แต่ผมไม่อยากให้เป็นข้อครหาว่า พรรคตัดสินเบา หรือตัดสินหนัก ผมเป็นห่วงพรรค รวมถึงเป็นห่วงผู้ร้อง จึงอยากให้ทุกฝ่ายรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง การเข้าสู่กระบวนการที่มีคนกลางดีที่สุด” นายไชยามพวาน กล่าว
เมื่อถามว่า หากทางพรรคไม่ทำอะไรเลย จะเป็นข้อครหาหรือไม่ เนื่องจากว่าทางพรรคแถลงยอมรับว่า เข้าข่ายความผิดร้ายแรง
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้ง กระบวนการที่ผมไม่ได้อยากได้ให้มีข้อครหา คือ อยากได้ความเป็นธรรมมากกว่า ความเป็นธรรมที่คนกลางมาตัดสิน
ส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตนขอให้ได้เอกสารข้อกล่าวหาก่อน ทางที่ดีควรดูจากเอกสารจะได้ชี้แจงเป็นข้อต่อข้อ
เมื่อถามว่า ได้ทำตามที่เป็นข่าวหรือไม่
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ยืนยันว่า ในทุกข้อกล่าวหาที่ร้องเรียนตนออกมา คนไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ผู้ร้องเรียนร้องเรียนมาในทุกข้อกล่าวหา
เมื่อถามว่า ท้ายที่สุดหากพรรคมีมติขับออกจากพรรค ก็น้อมรับหรือไม่
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนยืนยันว่า วันนี้ ตั้งใจมาชี้แจง และลงไปหาสื่อมวลชนก็หาไม่เจอ หากเข้าสู่กระบวนการ กกต.แล้วบอกว่าผิด ตนก็พร้อมที่จะลาออกจากพรรคก้าวไกล แต่หากตัดสินว่าถูก ก็ต้องว่าไปตามถูก
เมื่อถามว่า การที่โยนให้ กกต.ตัดสิน แปลว่า พรรคไม่มีความเป็นกลาง ใช่หรือไม่
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น แค่บอกว่าการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของ กกต. ทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด
ส่วนเป็นการส่งสัญญาณให้พรรครอคำตัดสินของ กกต. หรือไม่นั้น
นายไชยามพวาน กล่าวว่าไม่ใช่ เราไม่ได้ส่งสัญญาณถึงใคร แต่กระบวนการดังกล่าวคือ การทำให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการดิสเครดิตบุคคล และพรรคหรือไม่
นายไชยามพวาน กล่าวว่า ก็อย่างที่เห็นว่ามีกระบวนการดิสเครดิตทั้งตนและพรรค ตนไม่อยากพูดอะไรเพราะมีหลักฐานอยู่ และตนอยากพิสูจน์ข้อเท็จจริงกับ กกต. ก่อนนำไปสู่การพิสูจน์ว่า การพยายามดิสเครดิตเป็นเรื่องจริง
นายไชยามพวานยืนยันว่า ในสิ่งที่ผู้ร้องร้องมานั้น ตนไม่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทั้ง 3 ข้อร้องเรียน
-------------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/c8L1o2sc1Yw