เลือกตั้งและการเมือง

'ก้าวไกล' ฟัน 2 สส.คุกคามทางเพศ ขับ ‘สส.ปราจีนบุรี’ พ้นพรรค ส่วน ‘สส.ปูอัด’ ถูกคาดโทษ

2 พ.ย. 2566

111 views

ก้าวไกล ประชุมร่วม 6 ชั่วโมง ได้ทางออก สส.คุกคามทางเพศ มีมติขับ ‘สส.ปราจีนบุรี’ พ้นพรรค ขณะที่ ‘สส.ปูอัด’ ยังรอด คาดโทษตัดสิทธิตลอดสมัยประชุม ต้องขอโทษ-เยียวยาผู้เสียหาย ฝ่าฝืน สส.พรรคประชุมถกอีกรอบขับออกได้ ‘ชัยธวัช’ รับ 2 เคสคุกคามทางเพศจริง ยันไม่ได้ตัดหางปล่อยวัด แต่ทำตามบทบาทพรรค ตอบกลับคนเห็นต่าง ล่าช้าแต่จำเป็นต้องฟังรอบด้าน เหตุกระบวนการซับซ้อน


เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันระหว่าง สส.พรรคก้าวไกลและคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อสรุปบทลงโทษ สส.พรรคที่ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศ 2 กรณี ได้แก่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี และนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ สส.ปูอัด สส.กทม. ฝั่งธนบุรี (จอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม)


โดยการประชุมใช้เวลาตั้งแต่ 17.00 -23.00 น. รวมเวลากว่า 6 ชั่วโมง เพื่อหารือข้อเท็จจริงและพิจารณาโทษของทั้งสองคน ซึ่งก่อนประชุมได้มีการยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดของ สส.ทุกคนไว้ชั่วคราว เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลและป้องกันการอัดเสียง และทันทีที่เริ่มการประชุมเจ้าหน้าที่พรรคก้าวไกลได้มีการนำโต๊ะมากั้นให้ผู้สื่อข่าวออกจากบริเวณใกล้ห้องประชุม เพราะกลัวเสียงจากด้านในจะดังออกมาข้างนอก

--------------

โดยหลังประชุมเสร็จ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมแถลงถึงมติการประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคก้าวไกล ว่า


คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าทั้ง 2 กรณีมีความผิดจริง และมีมติให้ขับออกจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ การที่จะขับสมาชิกพรรคให้พ้นจากพรรคจะต้องอาศัยเสียง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งในวันนี้มีกรรมการบริหารและสส. มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 128 คน


ผลจากการพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับสส.เห็นตรงกันว่าทั้ง 2 กรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และขัดต่อวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง โดยโทษสูงสุดสำหรับกรณีนี้คือขับให้พ้นจากสมาชิกพรรคและโทษรองลงมาคือตัดสิทธิ์ทั้งหมด รวมถึงคาดโทษตามแต่กรณี


นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ผลการลงมติของที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคให้นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรคก้าวไกล ด้วยมติ 120 เสียง


ส่วนนายไชยามพวาน เสียงส่วนใหญ่ เห็นควรให้ขับเอาสมาชิกพรรค 106 เสียง แต่เนื่องจากว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 คือ 116 เสียง ของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ที่มีอยู่ ก็เท่ากับว่าไม่สามารถมีมติที่จะขับ นายไชยามพวานออกจากพรรคได้


แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรจะตัดสิทธิพึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมใดๆที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก จะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค


นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นว่า นายไชยามพวานจะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษต่อสังคมและขอโทษต่อผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงจะต้องชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ


หากนายไชยามพวานยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีที่จะขอโทษต่อผู้เสียหาย และไม่ยินดีที่จะชดใช้ความผิดของตนเอง ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.พรรคก้าวไกลร่วมกันอีกครั้งเพื่อมีมติต่อไป


เมื่อถามว่าอาจจะมีข้อสงสัยว่าอีกคนหนึ่งขับออกจากพรรค แต่อีกคนหนึ่งไม่ขับออกจากพรรคนั้น

นายชัยธวัช กล่าวว่า เราประชุมกันนานมาก คณะกรรมการวินัย คณะกรรมการบริหารพรรคและสส. ของพรรค เห็นตรงกันว่า สส. ทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรง


แต่เมื่อกระทำความผิด ก็มีบทลงโทษหลายระดับ ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นว่า นายไชยามพวาน แม้จะเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เจ้าตัวจำเป็นจะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษรวมถึงเยียวยาผู้เสียหาย และมีข้อถกเถียงกันมากในที่ประชุม


ซึ่งต่างจากกรณีนายวุฒิพงศ์ ที่เห็นตรงกันเกือบทั้งหมดว่ามีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาทตั้งแต่เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. มาจนถึงการเป็น สส. และเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบในการคุกคามทางเพศ รวมถึงพยายามที่จะใช้อำนาจของตนเองในการปกปิดความผิด จึงทำให้ สส.จำนวนหนึ่งเห็นว่า มาตรการในการลงโทษรุนแรงแตกต่างกัน


เมื่อถามว่าในกรณีการขับออกจากพรรคของ นายวุฒิพงศ์นั้น เป็นการตัดหางปล่อยวัดหรือไม่

นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการตัดหางปล่อยวัด แต่ทำตามบทลงโทษของพรรคเท่าที่ทำได้


หลังจากนี้ พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมา ที่มีนางสาวเบญจา แสงจันทร์ รองหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยจะปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้นอีก รวมถึงมีมาตรการและกระบวนการที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในพรรค ซึ่งรวมถึงการอบรมด้วย


ทั้งนี้ ยืนยันว่า พรรคย้ำคุณค่าและให้ความสำคัญกับการไม่อดทนต่อการคุกคามทางเพศ แต่ต้องยอมรับว่าในหลักการคนจะรับรู้ แต่ในทางปฏิบัติ ความเข้าใจในแต่ละคนไม่เท่ากัน ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ อะไรไม่ใช่คุกคามทางเพศ


สำหรับเรื่องนี้เป็นบทเรียนของพรรค ถ้าหากใช้บทบาทหน้าที่และอำนาจของตนเอง ไปมีพฤติการณ์ในการคุกคามทางเพศ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าไม่ได้เกิดการบังคับขืนใจ ไม่เกิดการปฏิเสธและดูเหมือนจะเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย แต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่าการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เป็นการยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริง แต่เกิดขึ้นภายใต้อำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน


เมื่อถามว่า กรณีของนายไชยามพวาน ยังอยู่ในพรรคก้าวไกลอยู่ หากมีคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎรหยิบยกขึ้นมาพิจารณา ยินดีหรือไม่

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า น้อมรับ และให้ความร่วมมือ หากมีการยื่นร้องคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารพรรคและกรรมการวินัย ก็มีมติตรงกันว่าทั้ง 2 กรณี มีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อกล่าวหา


และหากนายไชยามพวาน ไม่ยอมรับผิด และยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ขอโทษ และไม่พร้อมที่จะเยียวยาผู้เสียหาย พรรคพร้อมที่จะนัดประชุมใหม่อีกครั้ง


ก่อนจะชี้ว่า เรื่องนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้จะรู้แล้วการ แต่ก็ไม่ควรจะคุกคามหรือละเมิดทางเพศใคร แต่มีข้อเท็จจริงที่ผู้กล่าวหารู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เลยความยินยอมพร้อมใจ


หลังจากนี้ คณะกรรมการวินัยของพรรคจะแจ้งบทลงโทษให้กับผู้ถูกร้อง และผู้เสียหาย ได้รับทราบมติของกรรมการบริหารพรรคกับมติของที่ประชุม


โดยทางพรรคไม่ได้มีการเจรจา หรือเรียกร้องให้ 2 สส.ที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ถูกร้อง


"บางครั้งการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นเรื่องที่พึงทำ ซึ่งคนทำผิด หากแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองสังคม ก็พร้อมที่จะให้โอกาส


และการรับผิดชอบทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องรอให้ข้อเท็จจริงยุติ อย่าคิดว่าความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นการยอมรับผิด และต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นทางการ ให้สิ้นสุดก่อนเท่านั้น สนับสนุนหากผู้ที่ถูกกล่าวหา จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นมาตรฐานทางการเมืองที่ดี" นายชัยธวัชกล่าว


หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้แจงข้อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้ระยะเวลาเนิ่นนานในกระบวนการตรวจสอบและได้ข้อสรุป โดยระบุว่า

บางกรณีอาจล่าช้าแต่เป็นความจำเป็น ที่กระบวนการสอบซับซ้อนและต้องฟังความอย่างรอบด้าน และต้องมีพยานและข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย


ยกตัวอย่าง กรณี สส. ปราจีนบุรี ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อมีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้ข้อยุติ พร้อมกับข้อมูลข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อกรรมการที่จะพิจารณา โดยเฉพาะมีผลต่อที่ประชุมที่จะลงมติในวันนี้ ดังนั้น จะรวบรัดกระบวนการมากเกินไปไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ก่อนจะยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะมีการปรับปรุงกระบวนการทั้งของคณะกรรมการวินัยและมาตรการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพมากขึ้น


ทั้งนี้ มีรายงานว่าบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้เสียหาย ได้มาร่วมสังเกตการอยู่บริเวณหน้าห้องประชุมด้วย ซึ่งถ้าหากมติของพรรคไม่เป็นไปตามที่น่าพอใจ คาดว่าจะมีการเดินเรื่องต่อ

-----------



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lFl74NYKlCs

คุณอาจสนใจ

Related News