เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' เยือนจีน พบปะ 'สี จิ้นผิง' - ชวน 'ปูติน' เยือนไทย กระชับความสัมพันธ์

โดย nattachat_c

18 ต.ค. 2566

32 views

เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.66) เวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงปักกิ่ง ที่ Reception Hall มหาศาลาประชาชน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง หารือกับนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีความสำคัญลำดับ 3 ของจีน


นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่มีนักท่องเที่ยวจีนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ห้างสรรพสินค้าในไทย ย้ำรัฐบาลไทยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด พร้อมกับได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างดีที่สุด


ด้านประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า จีนให้ความสำคัญกับการเยือนของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนพร้อมร่วมมือกับไทยในกรอบพหุภาคี ทั้งกรอบอาเซียนและกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โอกาสนี้ ประธานสภาฯ ฝากความระลึกถึงประธานรัฐสภาไทย ยืนยันจีนต้องการมีความร่วมมือกับไทยในระดับรัฐสภา และในทุกระดับ


ทั้งนี้ไทยและจีน ยินดีที่การไปมาหาสู่ระหว่างประชาชน 2 ประเทศได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว รัฐบาลได้ประกาศมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยวจีนเป็นระยะเวลา 5 เดือน

----------
เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.66) เวลาประมาณ 18.30 น. ที่เรือนรับรอง เตี้ยวหยูไถ่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือทวิภาคีกับ วลาดิมีร์ ปูติน (Mr. Vladimir Putin) ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย


โดยนายวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียมีมาอย่างยาวนาน ซึ่งทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้เป็นศัตรูกัน และมีความสัมพันธ์กันเกือบทุกด้าน  โดยในปี ค.ศ. 2022 ไทย-รัสเซีย ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ครบรอบ 125 ปี ย้ำว่าทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันในหลายมิติทั้งในด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านต่างๆ ความสัมพันธ์ทางด้านการทหาร ซึ่งเมื่อปีค.ศ. 2022 มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศลดลง เนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศมีนักเรียนไทยเรียนอยู่ที่ประเทศรัสเซีย ประมาณ 150 คน  และมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวยังประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม ประมาณ 1,000,000 คน และในปี 2024 - 2025 จะเป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของไทยและรัสเซีย


ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นการพบกันครั้งแรก ซึ่งไทยกับรัสเซียมีความสัมพันธ์กันมายาวนานในหลายมิติ ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ขยายเวลาให้กับนักท่องเที่ยวรัสเซียสามารถอยู่ในประเทศไทยได้จาก 30 วัน เป็น 90 วัน และประเด็นที่สำคัญ คือ เรื่องสินค้าทางการเกษตรระหว่างไทยกับรัสเซีย ไทยหวังว่าสินค้าทางเกษตรจะช่วยขยายมูลค่าทางการค้า ระหว่างกันยิ่งขึ้น และหวังว่าไทยจะได้มีโอกาสเปิดตลาดเนื้อสัตว์ให้กับรัสเซีย


ภายหลังการหารืออย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้เชิญด้วยวาจาให้นายวลาดิมีร์ ปูติน เยือนประเทศไทย และถ้ามีโอกาสหวังว่าจะได้พบกัน ซึ่งประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง จากนั้นผู้นำทั้งสองประเทศได้แนะนำคณะที่เข้าร่วมหารือ


หลังจากนั้น นายเศรษฐา โพสต์ทวิตเตอร์ (X) ระบุว่า “พบท่านวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เป็นครั้งแรกครับ แต่เราต่างรู้สึกประทับใจและชื่นชมในความสัมพันธ์อันใกล้ชิดยาวนานของทั้ง 2 ประเทศ โดยนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่ง ครม.เพิ่งมีมติเพิ่มวันพำนักให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจาก 30 วันเป็น 90 วันไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา


ผมได้ขอให้ฝ่ายรัสเซียส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกัน พร้อมชวนให้รัสเซียพิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทย และได้เชิญท่านปูตินเยือนไทยเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของเราให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วยครับ”

----------

เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  ทวิตข้อความ ระบุว่า “ร่วมงานกาล่าดินเนอร์ต้อนรับผู้นำเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพครับ ทำให้ผมมีโอกาสทักทายกับผู้นำหลายประเทศ ซึ่งในอนาคตคงจะหาโอกาสพบหารือเพื่อพูดคุยและผลักดันความร่วมมือกันต่อไป


ก่อนหน้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ ผมได้พบกับประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน โดยเราได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของเราทั้ง 2 ประเทศ พร้อมร่วมเดินหน้าความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย-จีนครับ”


นายกฯ ยังโพสต์ภาพที่งานกาล่าดินเนอร์ต้อนรับผู้นำเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพ และระบุว่า “ได้พบปะพูดคุยกับผู้นำหลายชาติเลยครับ ตั้งแต่อินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม กัมพูชา ตลอดจนเลขาธิการสหประชาชาติ  ทุกคนอยากเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งใด ๆ ไม่ว่าที่ไหน เพราะสันติภาพจะนำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนทุกประเทศครับ”


ส่วนอีกโพสต์ นายกฯ ทวิตให้กำลังใจทีมงาน ที่กำลังเตรียมงานสำหรับการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF โดยระบุว่า “วันนี้ ที่ไทยต้องวางบทบาทให้เหมาะสม โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ซับซ้อน  ขอบคุณทีมทุกคนที่ช่วยกันทำงานอย่างหนัก และดีใจที่เห็นข้าราชการรุ่นใหม่ไฟแรงหลายคนช่วยกันออกความเห็นครับ”

----------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aQJe1fO4898


คุณอาจสนใจ

Related News