บอดี้การ์ดร้องขอความเป็นธรรม ถูกสารวัตรเมากร่างถอดเสื้อ บีบคอตบหน้า

บอดี้การ์ดร้องขอความเป็นธรรม ถูกสารวัตรเมากร่างถอดเสื้อ บีบคอตบหน้า



จากภาพบริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูนซึ่งจะเห็นว่า มีบอดี้การ์ดได้เชิญตัวลูกค้าที่ถอดเสื้อออกจากร้าน ซึ่งเพื่อนๆของลูกค้าที่ถอดเสื้อได้เดินกอดคอกันออกมาจากร้าน ตามปกติ และมีบอดี้การ์ดของทางร้านเดินตามมา 1 คน จากนั้นไม่นาน ลูกค้าได้เอามือทั้งสองข้าง บีบคอบอดี้การ์ดพร้อมทั้งตบหน้า และบีบคออยู่พักใหญ่ จนมีบอดี้การ์ดของทางร้านมาช่วยห้าม จากนั้นจึกแยกย้ายกันไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นาย แบล็ก (นามสมมติ) เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่าตนเองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่บอกี้การ์ด อยู่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน ซึ่งปกติแล้วตนเองต้องทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยหรืออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เดินทางมาเที่ยวสถานบันเทิง รวมถึงดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้าน

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 66 เวลาประมาณ 01.00 น. ในขณะที่ตนเองทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่นั้น ตนเองเห็นว่ามีลูกค้าชายท่านหนึ่งมีอาการเมาอย่างหนัก และได้ถอดเสื้อภายในสถานบันเทิงที่ตนเองดูแลอยู่ ซึ่งตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่บอดี้การ์ดอยู่ประมาณสี่ถึงห้าคน ได้เดินไปเชิญลูกค้าท่านนั้นออกจากร้าน ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ และเดินออกมาโดยดี

พันตำรวจเอก วีรชาติ ระตะเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนิคมอุสาหกรรมลำพูน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเบื้องต้นวันที่ 2 ตุลาคม 2566 บอดี้การ์ดมาแจ้งทางพนักงานสอบสวน เวลา 14.00น. ว่าถูกชายไทยทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน โดยผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บโดยการถูกตบหน้า 2 ครั้ง จากการตรวจสอบทางกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร จึงยังติดตามผู้กระทำความผิดไม่ได้ รวมถึงยังไม่ทราบว่าบุคคลที่กระทำความผิดนั้นเป็นตำรวจจริงหรือแอบอ้าง

กำลังติดต่อผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ระบุรูปพรรณสันฐาน และทำการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นิ่งนอนใจ

สักพัก มีลูกน้องเดินมาสามถึงสี่คนจากนั้นลูกค้าคนนั้นเกิดอาละวาด พร้อมพูดขึ้นว่า “มึงรู้มั้ยกูเป็นใคร กูเป็นสารวัตร” จากนั้นกระชากคอเสื้อบอดี้การ์ดเอามือตบหน้า บอดี้การ์ดพยายามยกมือขึ้นมาไหว้หลายครั้ง ส่วนตนเองพยามอธิบายว่าที่ถอดเสื้อไม่เหมาะสม จากนั้นได้แยกย้ายกันออกไป ตนเองและบอดี้การ์ดคนอื่นๆจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้สถานีตำรวจภูธรนิคมอุตสาหกรรม ลำพูน แต่คดีความไม่มีความคืบหน้า

จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับอาชีพของตนเอง

เนื่องจากที่ผ่านมานั้น มีแต่ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับอาชีพบอดี้การ์ด ขนาดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีกล้องวงจรปิดคนอย่างนึกว่าบอดี้การ์ดเป็นคนทำร้ายลูกค้าแต่ความเป็นจริงแล้วบอดี้การ์ดถูกลูกค้าทำร้ายเสียเอง