เลือกตั้งและการเมือง

"สุทิน" ต้อนรับแรงงานชาวไทยที่เดินทางจากอิสราเอลล็อตที่ 4

16 ต.ค. 2566

115 views

ทันทีที่เครื่องบิน A-340-500 เที่ยวบิน RTAF218 ETA ไปรับแรงงานไทย จากสนามบินนานาชาติ Ben Gurion อิสราเอล มายัง ท่าอากาศยานกองบิน 6 ดอนเมือง ประทศไทย โดยเครื่องบินออกจากประเทศอิสราเอล ในเวลา 19.30 น. ของวันที่ 15 ตุลาคม และถึงประเทศในเวลา 06.50 ของวันที่ 16 ตุลาคม แรงงานทั้ง 130 คน ได้ทยอยเดินลงมาจสกเครื่องบิน โดยทุกคนต่างถือธงชาติไทย บางคนโบกมือให้กับเจ้าหน้าที่ และยกมือไหว้ ซึ่งการต้อนรับมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มายืนรอต้อนรับ




โดยเมื่อทั้งหมดลงมาแล้วก็จะเข้าสู่ห้องรับรองที่ทางกองทัพอากาศจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อตรวจร่างกายและกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองรวมถึงความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆที่มาอำนวยความสะดวก



จากนั้นนายสุทิน ได้มากล่าวให้กำลังใจและกล่าวขอบคุณลูกเรือที่ปฎิบัติหน้าที่ไปรับแรงงานไทยกลับมาโดยสวัสดิภาพพร้อมกับภารกิจที่สำเร็จอย่างสมบูรณ์สู่ความอบอุ่นของแผ่นดินและครอบครัวคนไทย



นอกจากนี้ นายสุทิน ยังกล่าวอีกว่า การปฏิบัติภารกิจในครั้งที่ส่งเครื่องบินไปรับแรงงานไทยเดิมจะกลับมา 138 คน แต่กลับมาจริงเพียง 130 คนเท่านั้น ส่วนคน 8 คนที่แจ้งความประสงค์ไว้และไม่กลับมาด้วยก็คงมีเหตุผล แต่เข้าใจว่าอาจจะมีอุปสรรคในการเดินทางมาสนามบินหรือยังคงลังเล โดยคนที่กลับมาจากนี้ก็จะนำใบตรวจสุขภาพที่สถาบันบำราศนราดูล



ขณะที่แผนการไปรับคนไทยของกองทัพอากาศครั้งต่อไปจากนี้จะมีอีก 5 เที่ยวบิน โดยครั้งต่อไปจะเป็นวันที่ 18 ตุลาคมนี้



เมื่อถามถึงความปลอดภัยของคนไทยที่จะเดินทางมายังศูนย์อพยพ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็ยังมีอุปสรรคอยู่เนื่องจากมีสถานการณ์สู้รบ ฉะนั้นจึงทำให้การเดินทางจากจุดยังคงลำบากซึ่งถือว่าเป็นปัญหาส่วนใหญ่ ขณะที่ปัญหาหนังสือเดินทางถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย



เมื่อถามถึงการจัดเปิดพื้นที่ปลอดภัย นายสุทิน ระบุว่า ทางสถานทูตก็ดำเนินการอยู่ตลอด และทางกองทัพก็ส่งบุคลากรไปช่วยเหลือและประสานงานอยู่ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าในสถานการณ์เช่นนี้ทางอิสราเอลก็เคร่งครัดในเรื่องมาตรการต่างๆ พร้อมเผยว่ายอดคนที่จะนำกลับมีคร่าวๆภายในสิ้นเดือนนี้ จะมีคนไทยกลับมาเกือบ 6 พันคน และถ้าหาทางออกได้เพิ่มอีกก็เชื่อว่าจะสามารถนำมาได้เพิ่มอีก



เมื่อถามว่า เที่ยงบินดังกล่าวมีเด็กและชาวต่างชาติมาด้วยนั้น นายสุทิน ชี้แจงว่า เป็นครอบครัวของข้าราชการไทยกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งก็ถือว่าเป็นครอบครัวของเรา



ช่วงหนึ่งระหว่างที่พบกับคนไทยที่เดินทางกลับมา นายสุทิน พูดว่า ทราบว่าคนที่มาเป็นคนอีสานเยอะ แม่นเบิด ก่อนอวยพรว่า "มาเด้อขวัญเด้อ คือเอาขวัญมาบ้าน หมดทุกข์หมดโศกแล้ว รอดตายแล้ว กลับบ้าน" เช่นเดียวกับพี่น้องชาวเหนือและใต้เหมือนกัน พร้อมทิ้งท้ายว่าก็ดีใจที่ทุกคนได้กลับมา




ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถามแรงงานที่เดินทางกลับมาในวันนี้ คือนาย วันมงคล มินไทยสง ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้เล่าเหตุการณ์วินาทีที่กลุ่มฮามาส เข้ามาโจมตี บอกว่า เหตุการณ์นั้นน่ากลัวมาก และจุดที่ตนเองอยู่นั้นเป็นจุดแรกที่ถูกกลุ่มฮามาสเข้าบุก ห่างจากฉนวดกาซ่า ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งตอนแรกจะมีการยิงจรวดภาคอากาศก่อน จากนั้นไม่นานก็จู่โจมภาคพื้นดิน



ตอนแรกตนเองคิดว่าเป็นแบบที่ผ่านมาที่มีการยิงกันจึงออกมาดู เพราะไม่มีสัญญานแจ้งเตือนอะไร แต่เมื่อออกมาดูก็พบว่ากลุ่มฮามาสถืออาวุธครบมือกราดยิงผู้คนตามถนน ทันที่เห็นก็กลัวจึงรีบหาที่ซ่อนตัว ที่โดมกำบัง ตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น ซ่อนกัน 11 คน ซึ่งจุดที่ตนเองและเพื่อนอยู่นั้นมีรายงานข่าวว่ากลุ่มของตนเองเสียชีวิต แต่ความจริงคืออพยบและไปซ่อนตัวตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ และจุดที่พวกตนซ่อนตัวอยู่นั้น อยู่ห่างจากกลุ่มฮามาส เพียง 30-40 เมตรเท่านั้น ซึ่งหากกลุ่มฮามาสเห็นพวกตนก็คงตายไปแล้ว



นายวันมงคล ยังบอกอีกว่า พอรอดออกมาได้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ อยากกลับบ้านอย่างเดียว ไม่อยากกลับไปที่นั้นอีกแล้ว




ขณะที่แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บ คือนายสุทธิภัทร อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดน่าน ได้เล่าว่า กลุ่มฮามาสได้บุกเข้ามา จังหวะนั้นตนเองจึงพยายามโดดหน้าต่างหนี ซึ่งตนเองก็ได้รับจากอุบัติเหตุหกล้มอยู่แล้ว และเมื่อหนีทางหน้าต่างก็ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก ซึ่งแคมป์ที่ตนเองพักอยู่นั้นอยู่ติดกับค่ายทหารและเมื่อเกิดเรื่องก็มีคนวิ่งเข้ามาแจ้งให้หลบหนี ไปหลบอยู่ป่ามะเขือ ประมาณ 2-3 วัน




จากนั้นก็มีกลุ่มนายจ้างมาพาไปทางใต้ ตอนนั้นนึกว่าจะพาหนีแต่นายจ้างกลับพาไปทำงานต่อ ซึ่งไม่ได้ถามความสมัครใจพวกตนเลย ทำให้พวกตนประมาณ 7-8 คนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่หนีมายังสนามบินเพื่อขอความช่วยเหลือ และตอนนี้กลุ่มเพื่อนของตนที่หนีกันมายังรอการกลับไทยอีก 5-6 คน ซึ่งตนเป็นชุดแรกที่ได้กลับมา พร้อมยอมรับว่าหลังจากนี้ไม่อยากกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว






คุณอาจสนใจ

Related News