เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ สั่งระดมเที่ยวบินเพิ่มอพยพคนไทยในอิสราเอล หลังยอดขอกลับทะลุ 7000 คน

โดย gamonthip_s

15 ต.ค. 2566

70 views

นายกฯ สั่งระดมเที่ยวบินเพิ่มอพยพคนไทยในอิสราเอล หลังยอดขอกลับทะลุ 7 พัน ยัน ทำทุกวิถีทางช่วยตัวประกัน แต่ตราบใดที่ยังไม่มีข่าวร้ายออกมาก็ถือว่ายังมีความหวัง เชื่อแรงงานไทยไม่ใช่เป้าหมายของฮามาส



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงผลการประชุมเพื่อเตรียมการอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลว่า อีก 4 รายวันนี้ มีการประชุมสถานการณ์ความไม่สงบที่อิสราเอลซึ่งหลายท่านทราบตัวเลขอยู่แล้วมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย



ยืนยันเจตนารมณ์ว่าเราให้ความสำคัญสูงสุดในการนำคนไทยออกจากประเทศอิสราเอลให้เร็วที่สุด ซึ่งตารางการบินไปรับคนไทยภายในสิ้นเดือนนี้จากสายการบิน นกแอร์ เอเชีย และการบินไทยและสายการบินสไปร์ทเจ็ท ทั้งหมด 32 เที่ยวบิน ซึ่งสามารถรับคนไทยกลับได้ประมาณ 5,700 คน ซึ่งยังไม่เพียงพอเพราะคนที่ประสงค์จะเดินทางกลับมีประมาณ 7,000 คน และตัวเลขก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ทางนี้ก็มีความกังวลเรื่องการลำเลียงคนออกมาแม้อิสราเอลมีการเลื่อนการโจมตีทางภาคพื้นไปออก



ส่วนการเคลื่อนย้ายทางเรือก็ถูกปิดไปแล้วจึงต้องพึ่งทางอากาศอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้ทางสถานทูตไทยประจำอิสราเอลทำงานเต็มที่สามารถนำคนมายัง ศูนย์พักพิงได้ประมาณวันละ 400 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีแต่เครื่องบินเรายังไม่พอ



ขณะที่เรื่องเอกสาร ที่ทำหายก็ไม่เป็นปัญหาเพราะสถานที่มีการอำนวยความสะดวกให้ที่ศูนย์พักพิง ซึ่งสามารถดำเนินการได้วันละ 200 ราย




นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เรื่องการลำเลียงคนออกจาก อิสราเอลมีอยู่สองทางคือบินตรงอิสราเอลยังกรุงเทพฯ และไปที่ดูไบ จอร์แดน ไซปรัส แล้วค่อย นำเครื่องบินไปรับกลับไทยโดยเร็วที่สุด



ส่วนเรื่องแรงงานที่เดินทางกลับมาไทยแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจะดูแลเรื่องเงินเยียวยาและหาสถานที่ทำงานใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด



สำหรับเรื่องตัวประกันนายกรัฐมนตรีระบุว่าขณะนี้ยังอยู่ที่ 17 คน ซึ่งเราใช้ 4 ช่องทางในการพยามติดต่อในการนำตัวคนไทยออกมาที่สุดคือด้านการทูต ข่าวกรอง การทหาร และภาคประชาสังคมหรือเอ็นจีโอ ที่มีเครือข่ายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเองก็มีการพูดคุยทั้งปาเลสไตน์ และอิสราเอลขอให้คนไทยกลับมาได้โดยเร็วและปลอดภัยที่สุด ซึ่งสถานการณ์ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ แต่ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญสูงสุด และพยายามทุกช่องทางในการช่วยเหลือรวมถึงนำคนไทยทั้งหมดกลับมาให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้



นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ณ เวลานี้ ยังเป็นปลอดภัยอยู่ แต่ยังไม่ได้คำตอบว่าจะได้ปล่อยตัวเมื่อไหร่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีการพูดคุยประสานขอความช่วยเหลือเพื่อให้มั่นใจว่าตัวประกันยังปลอดภัย แต่สถานการณ์ภาพรวมในอิสราเอลนั้นยังไม่น่าไว้วางใจ ไม่ดีขึ้นเลย





เมื่อถามถึงปัญหาและอุปสรรคในการอพยพคนไทย นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังมี 2-3 ปัญหาคือการนำคนจากจุดสุ่มเสี่ยงมายังจุดพักพิงแล้วเดินทางเข้าสนามบิน สองคือจำนวนจำนวนเที่ยวบินที่จะไปรับได้ ซึ่งมีข้อเสนอให้เช่าเครื่องบินเพิ่มเติมเช่นแอร์บัส A-380 ที่จอดอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเครื่องบินสองชั้นรองรับคนได้ประมาณ 500 คน เหตุใดจึงไม่นำเครื่องดังกล่าวไปรับคนไทยกลับมา การบินไทยได้ชี้แจงว่าเครื่องดังกล่าวจอดไว้นานแล้ว การจะนำไปใช้ต้องมีการนำไปซ่อมบำรุงซึ่งต้องใช้เวลา จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดหาเช่าเครื่องบินที่สามารถทำได้



เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจกับครอบครัวของ ของคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันอย่างไร นายกรัฐมนตรีระบุว่า เราเห็นใจ พยายามทุกช่องทางตราบใดที่ยังไม่ติดต่อไม่ได้ และยังไม่มีข่าวร้ายออกมาก็ถือว่ายังมีความหวัง ย้ำทำเต็มที่ไม่ได้สิ้นหวัง



เมื่อถามถึงท่าทีของรัฐบาลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไม่เปลี่ยนแปลงท่าที เพราะเราต้องวางตัวเป็นกลาง เราไม่ได้อยู่ในความขัดแย้ง



เมื่อถามว่า แรงงานไทยจัดตกเป็นเป้าหรือไม่ เพราะมีความสำคัญต่อภาคการเกษตร และอาหารของอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า แรงงานไทยไม่ได้เป็นชาติเดียวที่อยู่ในอิสราเอล และเชื่อว่าฮามาสไม่ได้เจาะจงเฉพาะแรงงานไทยเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News