'เศรษฐา' ไม่กังวล ยันตั้ง ผบ.ตร. ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ลุแก่อำนาจ

วานนี้ (5 ต.ค. 66) เวลา 16.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สอบนายกฯ ฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และ ก.ตร.คนอื่น ๆ รวมแล้ว 10 คน ที่แต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14 ว่า ตนไม่ได้ลุอำนาจ และทำไปด้วยอำนาจและตามรัฐธรรมนูญ

---------------

เวลา 14.50 น. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) และ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า

ต้องชี้แจงว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นไปตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ โดยวาระการพิจารณาวันที่ 27 กันยายน มีรอง ผบ.ตร. 4 คน ที่เข้าคุณสมบัติ  ส่วนจเรตำรวจเกษียณอายุราชการ ซึ่งการคัดเลือกยึดตามหลักเกณฑ์ โดยพิจารณาอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน

นายชัยกล่าวว่า ก่อนที่นายกฯจะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้ที่ประชุมลงมติ ได้เปิดให้ที่ประชุม ก.ตร.แสดงความคิดเห็น มุมมองความรู้ความสามารถของแคนดิเดต มีการรับฟังรอบด้าน และเมื่อประเมินแล้วเห็นว่า อาวุโสต่างกันแค่ปีเดียว และดูความรู้ความสามารถประกอบ

นายกฯ จึงเสนอชื่อ และ ก.ตร.ลงมติ 9 ต่อ 1 เสียง เลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร.จากแคนดิเดต 4 คน แต่สังคมเข้าใจกันว่า ต้องไล่ลำดับอาวุโสเรียงกันมา ทั้งที่ความจริง ความแตกต่างระดับอาวุโสมีแค่สองระดับ โดยผู้อาวุโสสูงสุดคือ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ส่วนรองอันดับ 2, 3 และ 4 อาวุโสเท่ากัน

ยืนยันว่า การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่น่ามีอะไร ถูกต้องตามหลักการกฎหมาย และมีความชอบธรรม สมเหตุสมผล ไม่ได้ลุแก่อำนาจ และยึดตามกฎหมาย โดยรับฟังความเห็นจากรอบด้านแล้ว

“กรณีนี้ ไม่เหมือนกับปี 2565 ที่มีคนไปร้องศาลปกครอง โดยระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ที่มีการเข้าไปคัดเลือกไปสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้อภิปรายเรื่องความรู้ความสามารถ ผลงาน และประเมินผล พิจารณาแค่ 4 นาที แล้วตัดสินเลย คนที่ไปร้องศาลเพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และศาลปกครองก็เห็นด้วยว่าเป็นการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรม ต่างจากการแต่งตั้งครั้งนี้ที่พูดคุยกันมาก และผู้บังคับบัญชามีการประเมินผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ใครทำงานอย่างไร นายกฯรับฟังเรื่องแล้วจึงพิจารณาเสนอชื่อ” นายชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการฟ้องร้องจะดำเนินการอย่างไรต่อ

นายชัย กล่าวว่า ชี้แจงตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่แค่นายกฯ แต่คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมรับรู้ว่า อะไรเกิดขึ้น และสามารถชี้แจงได้

“นายกฯไม่กังวลเรื่องนี้ แต่ระบุว่านึกไม่ถึงว่าจะเป็นปัญหา และไม่ควรจะเป็นเรื่อง เสียเวลา เสียสมาธิ ในการทำงาน แต่เมื่อเป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว สังคมอยากรู้ จึงมอบหมายให้มาชี้แจง” นายชัยกล่าว

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XZY57DKd9EQ