เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง' เตรียมชูซอฟต์พาวเวอร์ 11 สาขา ดันไทยเบอร์หนึ่งโลก สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี

4 ต.ค. 2566

66 views

วานนี้ (3 ต.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 ตึกสันติไมตรี 


โดยก่อนเริ่มประชุม นายกรัฐมนตรีเดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้าพร้อมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ  


นายกรัฐมนตรีสวมสูทลายผ้าขาวม้า สีสันสดใส  ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวไทย  ส่วนอุ๊งอิ๊งคาดผ้าข้าวม้า สีสันสดใสไม่แพ้กัน ซึ่งทันทีที่ทั้ง 2 คนเดินออกมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวพากันส่งเสียงฮือฮากับสีสันของสูทนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่านี่เป็นสูทที่ทำจากผ้าขาวม้าที่ได้รับจากประชาชน ขณะลงพื้นที่หาเสียงหรือไม่  

นายกฯ ตอบติดตลกว่า "ไม่ใช่ครับ เพราะผืนใหญ่ไม่พอ" ก่อนจะหัวเราะตบท้าย และบอกต่อว่า ตนชอบสีสดใสอยู่แล้ว ขณะที่คนตัดก็ตัดได้อย่างดีเป็นดีไซเนอร์ที่เก่ง


ขณะที่นางสาวแพทองธาร นำเอาผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว เช่นเดียวกับคณะทำงานและรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ พร้อมกล่าวว่า

ตนตื่นเต้น เพราะไม่ได้เข้าทำเนียบมาเป็น 17 ปีแล้ว  จากนั้น นายกฯ และ น.ส.แพทองธาร ก็เดินเข้าห้องประชุมพร้อมกัน
--------------

นายเศรษฐากล่าวว่า การประชุมวันนี้เข้ามาในห้องประชุมก็มีแต่รอยยิ้ม ทุกคนยิ้มแย้ม สดชื่นแจ่มใส ให้ความสำคัญกับการประชุมในครั้งนี้ และขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาร่วมหารือกัน


ครั้งนี้เป็นการหารือระหว่างหน่วยงานและผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อขับเคลื่อนซอฟต์เพาเวอร์ประเทศไทยอย่างบูรณาการ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายให้ความสำคัญกับซอฟต์เพาเวอร์ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งเสริมภาครัฐ และเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีโลก


ทั้งนี้ ปัจจุบันมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องของไทยหลากหลายคณะ ผ่านอำนาจที่อาจเกี่ยวข้องกับขอบเขตงานของรัฐบาล และจำเป็นต้องมีกลไกรับผิดชอบโดยตรงให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติซอฟต์เพาเวอร์ขึ้นมา


ในช่วงต้น นายเศรษฐากล่าวว่า การประชุมวันนี้เข้ามาในห้องประชุมก็มีแต่รอยยิ้ม ทุกคนยิ้มแย้ม สดชื่นแจ่มใส ให้ความสำคัญกับการประชุมในครั้งนี้ และขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาร่วมหารือกัน


ครั้งนี้เป็นการหารือระหว่างหน่วยงานและผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อขับเคลื่อนซอฟต์เพาเวอร์ประเทศไทยอย่างบูรณาการ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายให้ความสำคัญกับซอฟต์เพาเวอร์ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งเสริมภาครัฐ และเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีโลก


ทั้งนี้ ปัจจุบันมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องของไทยหลากหลายคณะ ผ่านอำนาจที่อาจเกี่ยวข้องกับขอบเขตงานของรัฐบาล และจำเป็นต้องมีกลไกรับผิดชอบโดยตรงให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติซอฟต์เพาเวอร์ขึ้นมา


จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวในที่ประชุมว่า คณะกรรมการชุดนี้จะสร้างระบบนิเวศแก่อุตสาหกรรมของไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยแรงงานทักษะสูง ด้วยอุตสาหกรรมซอฟต์เพาเวอร์ในมิติต่างๆ และเพิ่มความหลากหลายทางวัฒนธรรมของไทย ดังนั้นศักยภาพของวัฒนธรรมและคนไทย หากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จะสามารถไปได้ไกลอย่างแน่นอน และจะทำนโยบายนี้ควบคู่กับนโยบายอื่นๆ ด้วย


โดยแรงงานกว่า 20 ล้านคน จะถูกผลักดันให้เป็นแรงงานที่มีทักษะสูง คาดการณ์ว่าอย่างน้อยจะมีรายได้เข้าประเทศถึง 4 ล้านล้านบาทต่อปี รวมถึงการจ้างงานเพิ่ม 20 ล้านตำแหน่ง ได้การเจริญเติบโตเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เป็นหนึ่งในผู้นำประเทศของโลกในเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ การพัฒนาคน การพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์เพาเวอร์ภายในประเทศ


สำหรับวันนี้จะมีการมานำเสนอ 11 สาขา ได้แก่ อาหาร, กีฬา, เทศกาล (เฟสติวัล), เกม, ภาพยนตร์, หนังสือ, ดนตรี, การออกแบบ, แฟชั่น, ท่องเที่ยว และศิลปะ โดยขั้นตอนนี้จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะถูกจัดตั้งขึ้นในอนาคต รวมถึงจะปรับแก้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่มีอยู่ อาจเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายที่มีมานานแล้วและไม่สอดคล้องกับแนวทางในปัจจุบัน ต้องทำให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างแรงจูงใจด้านภาษี พัฒนาและเพิ่มพื้นที่ในการแสดงผลงานอย่างไร้ขีดจำกัด รวมไปถึงสร้างศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เพื่อต่อยอดเป็นสิ่งที่มั่นคงในระดับชาติ จากนั้นจะสร้างแนวรุกระดับโลก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่อยู่ในกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ทำให้สินค้าของคนไทยมีโอกาสที่จะสามารถร่วมงานกับต่างชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลให้คนไทยมีส่วนร่วมด้วย


จากการทำงานทั้งหมดนี้ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์ในอนาคตอันใกล้ อุตสาหกรรมของประเทศไทยจะเข้มแข็ง และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ประเทศไทยต้องเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียง ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศและกระตุ้น 20 ล้านครอบครัว ยกระดับให้ประเทศที่มีรายได้สูง

-----------

เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.66) เวลาประมาณ 11.45 น. หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี และก่อนการประชุมคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ในช่วงบ่าย  


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมอยู่ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ จนเกิดกระแสวิจารณ์ว่า เหมือนเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เงา คอยกำกับการทำงานของ ครม.ปัจจุบัน  


นายเศรษฐา ชูนิ้วโป้ง 2 นิ้วให้สื่อมวลชน และกล่าวว่า "เดี๋ยวคอยฟังการแถลงข่าวดีกว่า ผมรับรองได้ว่า เก่ง และดีมาก" ก่อนจะยกนิ้วโป้ง 2 นิ้ว อีกครั้ง พร้อมระบุว่า ที่ชูนิ้วโป้ง ไม่ได้โกรธนะ แต่แปลว่า เก่ง และ ดีมาก
-----------







คุณอาจสนใจ

Related News