มิติใหม่! 'พีระพันธุ์' ไม่ว่างวันกระทู้สด ชิงเชิญ 'ก้าวไกล' หารือปมพลังงาน ชี้เห็นตรงกันเรื่องลดราคา

วานนี้ (26 ก.ย. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการหารือกับพรรคก้าวไกล ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาพลังงาน ว่า

ตนเองและตัวแทนพรรคก้าวไกลทั้ง 3 คน มีประเด็นและข้อห่วงใยที่ตรงกัน ซึ่งการหารือเป็นไปด้วยดี แต่มีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับแผน PPP (การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ) ต้องการให้มีการกระจายใช้เชื้อเพลิงอย่างสมดุล ที่ทางพรรคก้าวไกลได้มีข้อเสนอแนะมา ตนเองจึงขอให้พรรคก้าวไกลทำหนังสือเป็นข้อเสนอแนะกลับเข้ามา เพื่อให้เห็นข้อเสนอแนะอย่างชัดเจน และตนเองจะได้นำไปประกอบการพิจารณา

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาก๊าซธรรมชาติ, ก๊าซนำเข้า, ก๊าซหุงต้มที่นำมาใช้ในครัวเรือน และก๊าซที่ผลิตไฟฟ้า ควรจะมีการปรับแผนให้ประชาชนใช้ก๊าซที่มาจากอ่าวไทยมากขึ้น และได้ในราคาที่ถูกลง ซึ่งตรงกับนโยบายของตนอยู่แล้ว แต่ต้องใช้เวลา เพราะเพิ่งเข้ามาทำงานเพียง 3 สัปดาห์ พร้อมย้ำว่า นโยบายที่ทางพรรคก้าวไกลเสนอมา ก็ตรงกันหมด

นายพีระพันธุ์ บอกอีกว่า ภายหลังจากการหารือ ได้กล่าวเชิญพรรคก้าวไกลมาร่วมวงสัมภาษณ์ แต่พรรคก้าวไกลปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจ

เมื่อถามว่า หากไม่สามารถไปตอบกระทู้ที่สภาได้ จะเชิญมาพูดคุยในลักษณะนี้ใช่หรือไม่

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า หารือก็คือการหารือ ส่วนกระทู้ก็คือกระทู้ แต่บางกระทู้เป็นการตั้งคำถามสด จึงไม่ทันได้ตั้งตัว และบางครั้งก็ติดภารกิจที่นัดหมายไว้แล้ว อาจทำให้ผู้ถามเสียเวลาถามคำถาม และเข้าใจผิดว่า ตนหลบเลี่ยงการตอบคำถาม

“ดังนั้นการนัดหารือในวันนี้ เนื่องจากในวันที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสที่ 28 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ตนเองติดภารกิจ จึงกังวลว่า ผู้ตั้งคำถามอาจมองว่าตนมีเจตนาที่จะหลบเลี่ยง แต่เมื่อความเห็นทุกอย่างตรงกันแล้ว ผมจะต้องไปรอให้เขาถามในสภาทำไม”

นายพีระพันธุ์ ระบุอีกว่า ในที่ประชุมสภา ตนเองตอบคำถามได้แค่คนเดียว แต่การเรียกมาหารือในลักษณะนี้ ตนสามารถเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมหารือและตอบคำถามได้ด้วย ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า แต่ไม่ได้บอกว่าหลังจากนี้ จะเรียกฝ่ายค้านเข้ามาเพื่อจะตอบคำถามจะเป็นลักษณะนี้อีก

เมื่อถามว่า การปรับลดราคาน้ำมันในครั้งนี้ มีการทำความเข้าใจกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ ถึงกรณีการใช้งบประมาณ

นายพีรพันธุ์ ยืนยันว่า การปรับลดน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ ไม่ได้นำงบประมาณใดมาใช้ ซึ่งพรรคก้าวไกลเข้าใจอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นห่วงว่าจะมีมาตรการระยะยาวหรือไม่  ซึ่งตนได้ชี้แจงไปว่า นี่เป็นเพียงมาตรการเฉพาะหน้า ภายใต้หลักเกณฑ์ โครงสร้างปัจจุบันที่มีการใช้กันมานานมากแล้ว และอาจจะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งสำคัญคือ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องเป็นประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน

นายพีรพันธุ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีแนวทางที่เป็นไปได้ อีกทั้ง ได้รับฟังรายงานจากกรมธุรกิจพลังงาน แล้วทำความเข้าใจในหลายเรื่อง ซึ่งมองว่า บางเรื่องผิดตรรกะ แต่พยายามทำงาน และประสานทำความเข้าใจกันให้ได้

โดยได้มอบนโยบายไปแล้วว่า ให้คิดจากน้ำมันเบนซินเกรดต่ำที่สุดเป็นเกณฑ์ ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น เพราะผู้ใช้น้ำมันเบนซินไม่ได้มีแค่วินจักรยานยนต์รับจ้าง แต่ยังมีประชาชนทั่วไปก็ใช้น้ำมันเบนซินด้วย

แต่หากมีปัญหามากในเรื่องของหลักเกณฑ์ ตนเองก็ได้กำชับไปว่า เหตุใดจึงไม่เอาเกณฑ์ของผู้มีรายได้น้อยมาคิดเกณฑ์การลดราคาพลังงาน ตนเองจึงมอบโจทย์ไปในลักษณะนี้

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ขอให้มั่นใจว่า กรมธุรกิจพลังงานน่าจะหาแนวทางออกมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินได้ ซึ่งคาดว่า เดือนตุลาคมนี้ จะได้คำตอบ และจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะด้วย

พร้อมยืนยัน จะพยายามช่วยเหลือคนไทยให้ได้ และจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ยังดีกว่าไม่ได้คิดแค่มานั่งเฉย ๆ

-------------

วานนี้ (26 ก.ย. 66) นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึง การพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรื่องแนวทางแก้ไขปัญหาพลังงาน ว่า

การหารือในวันนี้ ภาพรวมเป็นไปได้ดี ซึ่งนายพีระพันธุ์ก็รับฟัง โดยได้มีการนำปัญหาที่ได้รับจากการร้องเรียนของประชาชนมาแจ้งให้นายพีระพันธุ์ทราบ โดยเฉพาะปัญหาราคาค่าไฟแพง

ซึ่งเรื่องนี้ ต้องมองเป็น 2 ส่วน ว่า ส่วนหนึ่งอาจแพงจากราคาเชื้อเพลิงพลังงานแต่สิ่งสำคัญต้องพิจารณา คือราคาค่าไฟที่แพง เป็นธรรมแล้วหรือยัง และสามารถอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจได้หรือไม่ ซึ่งในส่วนของพรรคก้าวไกลเห็นว่า ยังไม่เป็นเช่นนั้น จึงได้เสนอวิธีการที่จะทำให้ค่าไฟ เป็นธรรมกับประชาชนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงเจรจาแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เพื่อลดค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งนายพีระพันธุ์รับปากที่จะนำกลับไปพิจารณา

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาพลังงานระยะยาว เพราะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงได้เสนอให้มีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ โดยให้เอาของถูกก่อนให้กับภาคธุรกิจ แล้วเอาของแพงให้กับภาคประชาชน รวมถึงการถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ และการทำแผนพลังงาน ลดการผูกขาด รวมถึงเปิดตลาดเสรีซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต และทำให้ประชาชนมีตัวเลือกมากขึ้น และเกิดสภาวะการแข่งขันในภาคพลังงาน

ส่วนมาตรการที่รัฐบาล ลดค่าไฟจาก 4.10 บาทเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย นายศุภโชติ กล่าวว่า เห็นด้วยว่าเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ควรทำ แต่เรื่องที่ว่าจะเอาเงินส่วนไหนมาชดเชยตรงนี้ นายธีรพันธุ์ขอไปศึกษาก่อน

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/REc80_UthPY