เลือกตั้งและการเมือง

“วิษณุ” ประกาศไม่รับร่วมคณะแก้รัฐธรรมนูญ แต่พร้อมให้คำปรึกษาเป็นกรณี

โดย paranee_s

24 ก.ย. 2566

269 views

นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยากทาบทามมาร่วมคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ว่า ขอบพระคุณมากที่ยังนึกถึง แต่ท่านอาจจะไม่นึกถึงก็ได้ แต่มีสื่อมวลชนไปถามนำท่านก่อน แต่ก็ขอบคุณที่นึกถึง ซึ่งงานที่ทำเป็นงานใหญ่และต้องใช้เวลา มีความยุ่งยาก ข้อสำคัญอยู่กับความเห็นที่แตกต่าง ที่อาจจะเกิดความขัดแย้ง


"ผมพ้นออกมาจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ควรจะกลับไปเป็นบุคคลสาธารณะอีก เพราะการไปทำงานนี้ คือเป็นไปบุคคลสาธารณะอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ก็สบายอกสบายใจอยู่แล้ว"


ส่วนหากมาขอคำแนะนำเป็นบางครั้งบางคราว นายวิษณุ บอกว่า ก็ยินดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีรัฐมนตรีหน้าเก่าๆ ที่เคยอยู่ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอขา ซึ่งคุ้นเคยกันอยู่ ก็โทรมาถามแบบที่สื่อฯสอบถามว่าสมัยนั้นสมัยนี้เป็นอย่างไร แต่ไม่ถามว่าควรจะอย่างไรเพราะท่านตัดสินใจเองได้ และถามเรื่องในอดีต เข่น มติ ครม.เก่าๆ ซึ่งก็มีคนโทรมาถามบ่อยๆ ทุกวัน


นอกจากนี้ยังได้แสดงความเห็นแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้ตนตอบไม่ถูก แต่ให้เขาคิดกันเอง เพราะว่ามันยุ่งยากซับซ้อน แต่ข้อสำคัญหากจะใช้วิธีไหนก็ตามก็ควรจะหลบหลีกการทำประชามติหลายครั้ง และตนเห็นด้วยกับแก้ไขเป็นรายมาตรา ทีละหลาย ๆ มาตรา ก็ได้เพราะรัฐธรรมนูญห้ามไว้แต่เพียงว่า ในกรณีที่เป็นการแก้ไขหมวด 1 ทั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ หมวด 15 เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการแก้ไขอำนาจและหน้าที่ขององค์กรอิสระ และการแก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามขององค์กรอิสระ โดยเรื่องเหล่านี้ เมื่อแก้เสร็จวาระ1 วาระ2 และ วาระ3 ก่อนที่จะนำขึ้นต้องทำประชามติ


นายวิษณุ กล่าวว่า การแก้ไข ที่ควรทำคือ ถ้าต้องการแก้เกี่ยวกับองค์กรอิสระ และไปกระทบกับเรื่องอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ ตรงนี้ต้องทำประชามติ เพราะฉะนั้นเก็บไว้ทำคราวหลังได้ไหม ตอนนี้ถ้าอยากแก้ไปก่อนคือหมวด 3 เรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งประชาชนต้องการ หมวด 4 หน้าที่ของรัฐ หมวด 5 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย หมวด 6แนวนโยบายแห่งรัฐ หมวด 7 รัฐสภา ซึ่งแก้ได้ตามใจชอบไม่ต้องทำประชามติ หมวด 8 ครม. หมวด 9 ผลประโยชน์ขัดแย้งกัน หมวด10 เรื่องศาล หมวด 11 องค์กรอิสระ ซึ่งเรื่องเหล่านี้แก้ได้หมด แต่พอไปถึงองค์กรอิสระอำนาจหน้าที่ และคุณสมบัติต้องห้ามมันจะไปเจอเรื่องทำประชามติคืออย่าพึ่งไปทำ


ส่วนการทำประชามติควรทำครั้งเดียวตอนแล้วเสร็จหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ที่ต้องทำประชามติเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 256 กำหนดไว้ ถ้ามาตรา256 บอกว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ต้องทำประชามติ มันก็ไม่ต้องทำประชามติ แต่การจะแก้ครั้งแรกในเรื่องมาตรา 256 ต้องทำประชามติหนึ่งครั้งก่อน และจะลบล้างเรื่องประชามติไปได้


เมื่อถามย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องทำประชามติ 3-4 ครั้งใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้ำว่าก็ต้องแก้ไขมาตรา 256เสียก่อน พอเสร็จวาระ 1-3 ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯฯต่อไป จะไม่ได้เจอเรื่องทำประชามติ แต่ถ้าแก้ตามแนวทางของรัฐบาลก็ต้องทำประชามติ คือ

1.คุณก็ต้องทำประชามติแก้ทั้งฉบับว่าเห็นด้วยหรือไม่

2.ต้องตั้ง สสร.

3. ถ้า สสร. ต้องไปทำประชามติทั้งประเทศอีก ซึ่งการทำประชามติครั้งหนึ่งประมาณ 3 พันล้านบาท


ดังนั้นก็แก้ที่มาตรา256 แต่การแก้มาตรา256 หากพูดกันไม่ดี อาจไม่ผ่าน เพราะต้องผ่านความเห็นของสว. และ เขาก็กลัวว่าจะไปแก้อะไร ต่อมิอะไรกัน


อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยการทำประชามติควรทำ2 ครั้งก็ยังดี คือต้องเริ่มแก้ไข และตอนจบที่จะไปประกาศใช้

คุณอาจสนใจ

Related News