เลือกตั้งและการเมือง

"พิธา" เข้าใจ "เศรษฐา" หากปรึกษาอดีตนายกฯ บอกเป็นเรื่องปกติ-ยันความสัมพันธ์ "ปิยบุตร" ยังดี

โดย kanyapak_w

23 ก.ย. 2566

133 views

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกับสื่อต่างประเทศ ที่นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ว่าหากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นโทษจะตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า ตนทราบจากข่าวเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่านายเศรษฐาไม่ได้พูด และตนเข้าใจว่านายเศรษฐาต้องการปรึกษากับอดีตนายกฯที่ผ่านมา ในเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ศีลธรรม และจริยธรรม ซึ่งไม่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอะไร



เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ อาจได้รับการปฏิบัติ2 มาตรฐานพรรคก้าวไกลจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตามเรื่อง แต่เท่าที่ทราบทางพรรคได้มีการพูดคุย เรื่องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม เพื่อที่จะทำให้เกิดความทัดเทียมและเป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าสมาชิกพรรคและผู้ที่เกี่ยวข้อง กำลังเตรียมกฏหมายในเรื่องดังกล่าว เพื่อยื่นเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรอยู่



เมื่อถามถึงกรณีที่ได้ไปเข้าพบ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ในงานวันชาติจีนใน ช่วงเวลาเดียวกับที่นายเศรษฐา เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ ถือว่าตนเองเป็นนายกฯเงาหรือไม่ นายพิธา หัวเราะก่อนกล่าวว่า คงไม่ได้เกี่ยว เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันชาติจีน ตนคงเลือกวันที่จะพบกับทูตฯจีนไม่ได้ เพราะเป็นวันชาติของประเทศเขา



ทั้งนี้ ในส่วนทูตสหรัฐฯนั้น ได้นัดหมายกันมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว แต่เนื่องจากตนติดธุระและต้องลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดระยอง จึงไม่มีโอกาสได้เข้าไปพบ เวลาจึงเหมาะมาเจอกันภายในอาทิตย์เดียวกัน ซึ่งได้มีการพูดคุยเพื่อประโยชน์ของทั้งสองชาติ ทั้งคนของประเทศจีน คนของสหรัฐฯและคนของประเทศไทย



นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุมใหม่ ว่า โดยภาพรวมเป็นการปรับองค์กรปรับข้อบังคับ ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ในการที่จะก้าวต่อไปในอนาคต



เมื่อถามว่า คาดหวังคนที่จะเข้ามาบริหารพรรคอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังอะไร ตนคิดว่าคนที่มาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนต่อไปเป็นเรื่องของบุคคล เป็นเรื่องของการเดินทางของพรรคโดยรวม และคนที่เข้ามาก็มีความพร้อมทุกคน



เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าคนที่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคชั่วคราว เพื่อรอการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้นายพิธากลับมาอีกครั้งหนึ่งน้ัน นายพิธา กล่าวว่า อันนี้เร็วเกินไปที่จะพูด แต่ใครที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ก็มีความท้าทายทุกวัน ทุกอาทิตย์ ทุกเดือน เพราะฉะนั้นเขาต้องพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าตัวจริงและเลขาธิการพรรคตัวจริง



เมื่อถามว่า ในการประชุมวันนี้จะมีการตั้งตำแหน่งพิเศษให้นายพิธา เพื่อทำหน้าที่ผู้นำพรรคหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เดี๋ยวรอดู ภายหลังการประชุมเสร็จจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง จะมีความชัดเจน 100%



เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่พร้อมลงพื้นที่พบปะประชาชนใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนพร้อมทำงานเพื่อพรรคก้าวไกลในทุกบทบาท หรือแม้ไม่มีตำแหน่งก็ยังทำงานต่อเหมือนเดิม



ส่วนกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนคณะก้าวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ประกาศยุตติบทบาทแสดงความเห็นทางการเมืองหลังถูกแฟนคลับพรรคก้าวไกลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เสียมวลชนไปนั้น นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องที่จะเสียมวลชนหรือไม่เสียมวลชน แต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือต้องคำนึงถึงความรู้สึกของคนในพรรคและของนายปิยบุตรด้วย ซึ่งตัวของผมเองยังคิดถึงนายปิยบุตรตลอด ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงและเข้ามาช่วยพรรคในช่วงของการหาเสียงต้นปีที่ผ่านมาก็ยังคิดถึงนายปิยะบุตรเสมอ และเชื่อว่าพวกเราก็คิดถึงนายปิยบุตร รวมถึงกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ



ส่วนจะมีการพูดคุยปรับความเข้าใจกับนายปิยบุตรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนก็ยังเจอกับนายปิยบุตรอยู่เรื่อยๆ เพิ่งไปทานข้าวด้วยกันมา มีการพูดคุยตลอดในกรอบที่กฎหมายอนุญาตและถือว่าเป็นเพื่อนกัน



ส่วนกรณีที่ด้อมส้มทัวร์ลงในเฟซบุ๊กของนายปิยบุตร จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่าความสามัคคีสำคัญกับทุกฝ่าย ในบริบทนี้ขอให้ทุกคนอดทนอดกลั่นที่จะแสดงความเห็นทางการเมือง เพื่อให้พวกเราฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง



ส่วนจะมีความกังวลหรือไม่ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ใช่นายพิธา และทำให้กระแสความนิยมของพรรคลดลง นายพิธากล่าวว่า ไม่มีความกังวลและทุกอย่างยังเหมือนเดิม อย่างที่บอกว่ามีความจำเป็น ที่จะคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เปิดทางให้มีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ว่าในมหภาคเชิงมหภาคหรือจุลหภาคก็มีความจำเป็น ฉะนั้นก็ไม่แตกต่างกันมากในการทำงานของแกนนำทั่วไป



ส่วนกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 รู้สึกเสียดายหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า แน่นอน แต่ตนเชื่อว่านางอมรัตน์ยังเป็นส่วนหนึ่งของพรรคก้าวไกล สำหรับพรรคก้าวไกลไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลและตำแหน่งยังไงก็ทำงานเป็นทีม สมมติว่าไม่มีคนหนึ่งอยู่หรือไปการทำงานก็ต้องเดินต่ออยู่ดี



เมื่อถามว่า การปรับโครงสร้างพรรคมีปัจจัยรองรับคดีของนายพิธา ทำให้พรรคมีเอกภาพหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงจะตอบเหมือนเดิมว่าเป็นการปรับโครงสร้างให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ และทำงานแบบฝ่ายค้านเชิงรุก ตั้งรับอุบัติเหตุทางการเมือง รักษาพื้นที่ทางการเมืองที่พรรคควรได้รับ แต่ไม่ใช่รับอย่างเดียวไม่รุก หรือรุกอย่างเดียวแล้วไม่สามารถตั้งรับอะไรได้ก็ไม่น่าจะเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่ดี



นอกจากนี้นายพิธายังให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ ถึงคุณสมบัติของการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ต้องตรงไปตรงมาตรวจสอบได้ หนักแน่นเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชนเพราะพลังสนับสนุนของประชาชนจะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น ยืนยันพรรคไม่ได้มาเพื่อล้มรัฐบาล แต่ต้องการทำให้ประชาชนรู้ถึงความสำคัญของการเป็นพรรคฝ่ายค้านซึ่งสามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและทำให้นโยบายที่มีประโยชน์เกิดขึ้นได้จริง




คุณอาจสนใจ

Related News