“ปดิพัทธ์” เผยโครงการส่งมอบรัฐสภา ไม่ทัน 18 ก.ย. นี้ เหตุยังมีความไม่สมบูรณ์

“ปดิพัทธ์” เผยโครงการส่งมอบรัฐสภา ไม่ทัน 18 ก.ย. นี้ เหตุยังมีความไม่สมบูรณ์ ชี้ต้องรับฟังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คาดชัดเจนสิ้นเดือนนี้ ยืนยันพร้อมชี้แจงโปร่งใส คดีใน ป.ป.ช. เดินขนานกันได้




21 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 แถลงข่าวชี้แจงความคืบหน้าของการตรวจรับงานและเตรียมส่งมอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา โดยระบุว่า ตามกรอบเวลาที่ควรจะเป็น ต้องมีการตรวจรับอาคารนี้เมื่อวันจันทร์ (18 ก.ย.) ที่ผ่านมา แต่ยังมีความเห็นแย้งในคณะกรรมการตรวจการจ้างอยู่ คาดว่าจะทราบความชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้



นายปดิพัทธ์ ยังกล่าวว่า หากผู้ใดเห็นว่าอาคารรัฐสภาแห่งนี้ยังมีจุดที่ไม่สมบูรณ์ ไม่พร้อมสำหรับการตรวจรับ สามารถส่งเรื่องมาที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อช่วยกันตรวจสอบอาคารแห่งนี้ที่เป็นบ้านของเรา และเป็นอาคารสำคัญของประเทศไทย



ส่วนเรื่องของค่าปรับและการส่งมอบที่เลยกำหนดเวลาตรวจรับมานานนั้น มีเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงจะมีการรวบรวมข้อเท็จจริงและเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นความโปร่งใสและให้สังคมรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเงินภาษีของพวกเรา ที่ทำให้สภาแห่งนี้ไม่สามารถตรวจรับได้ตามเวลา มีใครได้ใครเสียและใครต้องรับผิดชอบเรื่องใดบ้าง หากสามารถตรวจรับได้ภายในสิ้นเดือน ก.ย. นี้ ก็จะมีการเปิดใช้อาคารรัฐสภาอย่างเป็นทางการ



สำหรับข้อร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับอาคารรัฐสภา ในชั้น ป.ป.ช. นั้น สามารถแยกออกจากการตรวจรับได้ และทางรัฐสภาพร้อมให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเรื่องการทุจริตต่างๆ ทั้งนี้ หากรอเรื่องคดีด้วยก็คงจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสามารถเปิดใช้อาคารรัฐสภาได้อย่างเป็นทางการ



"ผมไม่ใช่ตัวแทนของผู้ว่าจ้าง ผมจะเป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบเรื่องนี้ให้โปร่งใสมากที่สุด"



ทั้งนี้ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่สามารถตรวจรับได้ในวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น มีหลายปัจจัย ส่วนใหญ่เป็นความไม่สมบูรณ์ตามเงื่อนไขของแบบแปลนการก่อสร้าง อีกทั้งการตรวจรับต้องพิจารณาร่วมกันหลายส่วน ทั้งสำนักเลขาธิการสภาฯ เอง กรมศิลปากร และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมยืนยันว่า ต้องรับฟังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจรับทั้งหมด