เลือกตั้งและการเมือง
ไม่ได้นั่งเฟิร์สคลาส! ส่องเที่ยวบินนายกฯ บินนิวยอร์ก - แจงดรามาเช่าเหมาลำการบินไทย ยันลูกสาวออกเงินเอง
20 ก.ย. 2566
437 views
เริ่มแล้ว! การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่78 (UNGA78) รมช.กต. ร่วมพิธีเปิดการอภิปรายทั่วไป
วานนี้ (19 ก.ย.) นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมพิธีเปิดการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่78 ประจำปี ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
โดยในปีนี้ จัดภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นหนึ่งเดียวของประชาคมโลก เพื่อเร่งการขับเคลื่อนการปฏิบัติตามวาระ การพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ.2030 ”
ขณะที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน จะเริ่มภารกิจแรก ในเวลา 11:00 น. โดย เอกอัครราชทูตไทย จะเข้าบรีพงานให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะหลังจากนั้น มีกำหนดเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG Summit
และกล่าวถ้อยแถลง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดหารือกับบริษัทเอกชนของสหรัฐฯหลายบริษัท เพื่อชักชวนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและในช่วงค่ำจะเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เป็นเจ้าภาพด้วย
-----------------------------
นายกรัฐมนตรี’ เตรียมเสนออก ’หุ้นกู้สีเขียว’ สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในเวทีระดับผู้นำ UNGA ครั้งที่ 78
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเตรียมเสนอแนวคิดว่าด้วยการออกหุ้นกู้ธุรกิจสีเขียว Sustainability Linked Bonds เพื่อส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจสีเขียว (Green Business )โดยจะออกหุ้นกู้ วงเงิน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
"เราจะพูดเรื่อง Sustainability Linked Bond เป็นหุ้นกู้ที่ออกเกี่ยวกับ Green ที่เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ผมตั้งเป้าไว้ที่ 2 billon dollars US ซึ่งทาง UN ก็ชอบ ก็เห็นด้วยเพื่อช่วยให้ธุรกิจสีเขียวเกิดขึ้นได้"
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า จะได้พบกับเอกชนรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อขยายการลงทุนในไทย เช่น Tesla ซึ่ง Elon Must จะเข้าร่วมประชุมคอนเฟอร์เซ็นต์มาด้วย เป็นโอกาสที่จะชักชวนให้มาลงทุนในไทย เพราะ Tesla กำลังพิจารณาว่าจะลงทุนใน อินเดีย มาเลเซีย หรือ ไทย ซึ่งเป็นหน้าที่นายกรัฐมนตรีจะไปขายของ
นอกจากนี้ยังมี J.P.Morgan ,Microsoft, City Bank,Estee Lauder และ BlackRock กองทุนการเงินขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ
-----------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี นั่งในชั้น Business Class ร่วมกับคณะที่มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมข้าราชการระดับสูง ไม่ได้นั่งในชั้น First Class อย่างที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากเครื่องบินเช่าเหมาลำไม่ได้มีชั้น First Class มีแต่ชั้น Business Class ที่ต้องนั่งรวมกัน
"นั่งรวมกับทุกคนครับในชั้น Business Class ไม่จำเป็นต้องนั่งแยกกัน เอาที่ต้นทุนมีประสิทธิภาพที่สุด อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกันครับ ก็สบายๆ ครับ"
นายเศรษฐา กล่าวย้ำว่า การตัดสินใจเช่าเหมาลำของการบินไทยราคาถูกกว่าส่วนราชการ มีการเปรียบเทียบราคาโปร่งใส อย่างที่ได้ชี้แจงมาแต่ตั้น และการมาเครื่องของการบินไทยนายกรัฐมนตรีก็ต้องนั่งแค่ชั้น Business เหมือนข้าราชการระดับสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเดินทางนายกรัฐมนตรีนั่งเก้าอี้คู่ ไม่ได้นั่งเก้าอี้เดี่ยว โดยนั่งข้าง พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา และพบว่าต้องเหยียดขาจนสุด เพราะขายาว และเป็นคนสูง โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สบายๆ ครับ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วต้องเลือกสิ่งที่สบายที่สุดให้ตัวเอง แต่อยากให้คิดว่าใช้งบประมาณอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
--------------------------------------
'สมชัย' เปิดชื่อ คณะบุคคล ที่ร่วมเดินทางกับนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ใช่ข้าราชการ และ ไม่เป็นข้าราชการ ชี้ อ้าง ‘ออกค่าใช้จ่ายเองแล้วจบ’ ไม่ได้
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ “มาแล้ว ชื่อคณะบุคคล ที่ร่วมเดินทางกับนายกรัฐมนตรี 19 รายชื่อแรก ปรากฏชื่อ บุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการ และ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง อย่างน้อย 2 รายแล้ว คือ
1. นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นักธุรกิจเอกชน
2. นางสาวชนัญดา ทวีสิน บุตรสาวนายกรัฐมนตรี
ส่วน ภรรยานายกรัฐมนตรี คุณพักตร์พิไล ทวีสิน นั้น สามารถเดินทางร่วมด้วยในฐานะ First Lady ที่สามารถไปได้เมื่อนายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศในงานที่สำคัญครับ
ประเด็นเอกชน และ บุตรสาว คงเป็นประเด็นที่สังคมต้องตั้งคำถามว่า สามารถทำได้หรือไม่ที่ใช้งบราชการ และที่สำคัญ เมื่อวานนายกรัฐมนตรี ตอบสื่อว่า “ไม่มี” (เสียงต่ำ)”
"บุคคลที่เป็นเอกชน 2 ราย ที่ร่วมคณะเดินทางของนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถใช้ประโยคว่า ออกค่าใช้จ่ายเองแล้วจบ
คนแรก คือ คุณคณาพจน์ จะอ้างเป็นเลขา ติดตามนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะไม่มีการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และบุคคลดังกล่าวก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองได้ เนื่องจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง เมื่อปี 2562 เป็นเวลา 10 ปี จากการเป็นกรรมการบริหารพรรคกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ
คนที่สอง คุณชนัญดา บุตรสาวของนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมเดินทางด้วยเหตุผลว่า เพื่อช่วยผู้เป็นมารดาในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะภรรยานายกรัฐมนตรี และ ได้ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างเป็นการส่วนตัว
สิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ คือ เครื่องบินที่ใช้เป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำ จาก บริษัทการบินไทย ด้วยการเสนอราคาขนผู้โดยสาร 50 คน ไปกลับ ในราคา 30 ล้านบาท ซึ่งจะบอกว่า ผู้ร่วมเดินทางได้จ่ายเงินในส่วนนี้เองไม่ได้ เพราะไม่ใช่การบินที่สามารถแยกซื้อโดยสารตามที่นั่ง
------------------------------------
ด้านนางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขานายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ชี้แจงกรณีนี้ว่า การเช่าเหมาลำในครั้งนี้ ได้เปรียบเทียบปัจจัยหลายอย่าง โดยมี 2 ทางเลือกคือใช้เครื่องบินจากกองทัพอากาศ และการใช้บริการเช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งสายการบินไทยเสนออยู่ที่ 25 ล้าน แต่สาเหตุที่ขึ้นราคาเป็น 30 ล้านเนื่องจากมีการขยับตัวของราคาน้ำมัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วเครื่องบินของกองทัพอากาศที่เรียกว่า รุ่นแอร์บัส 350 เสนอราคาอยู่ที่ 32 ล้าน โดยยังไม่ได้รวมถึงค่าน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น มี First class 6 ที่นั่ง และ Business class 30 ที่นั่ง ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงเพียง 15 ที่นั่ง ซึ่งหากรวมแล้วราคาค่าใช้จ่าอาจพุ่งสูงถึง 40 ล้าน
แต่ปัจจัยสำคัญเมื่อเทียบราคากองทัพอากาศเสนอราคาสูงกว่าของการบินไทย และกองทัพอากาศไม่สามารถรับประกันได้ว่าเมื่อถึงเวลาการเดินทาง หากกองทัพอากาศติดภารกิจ ไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมา ส่วนสาเหตุที่เลือกการบินไทยเรื่องนอกจากราคาต่ำกว่ากองทัพอากาศแล้ว ยังเป็นการบินตรง กรุงเทพฯ- นิวยอร์ก และการบริการเป็นแบบที่ดำเนินการให้กับหน่วยงานราชการ ในเรื่องราคาก็เป็นไปตามจริง
ส่วนคณะที่เดินทางกับนายกรัฐมนตรีก็จะมี 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นทางการ และส่วนที่ติดเครื่องมาเช่นบุตรสาวของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ออกค่าใช้จ่ายเอง ทั้งค่าเครื่องบินค่าอาหาร และค่าที่พัก ไม่ได้ใช้งบราชการแม้แต่บาทเดียว และสาเหตุที่บุตรสาวของนายกรัฐมนตรีเดินทางมาด้วย ในฐานะที่เป็นผู้ติดตามคู่สมรสนายกรัฐมนตรี เพราะสหรัฐอเมริกาเชิญคู่สมรสมาด้วย และมีภารกิจ เช่น จะไปดูศูนย์บริการผู้สูงวัยของสหรัฐฯ และเยี่ยมชุมชนไทยในสหรัฐฯ โดยบุตรสาวจะมาช่วยศึกษาและดูแล เนื่องจากไทยมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการผู้สูงวัย แต่ไม่มีภารกิจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของนายกรัฐมนตรี
ยืนยันว่าการเดินทางของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่ได้มีภาคเอกชนเดินทางร่วมคณะบนเครื่องบินเช่าเหมาลำด้วย แต่มาเองตามคำเชิญของสหรัฐอเมริกา
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4sxwA2vpopc