เลือกตั้งและการเมือง
“เศรษฐา” ชนหมัด “ชัชชาติ” คุยกันแบบพี่น้อง หารือแก้ปัญหา กทม.
18 ก.ย. 2566
89 views
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการหารือร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า วันนี้เป็นการพูดคุยกันบรรยากาศแบบสบาย ๆ อยากเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเอง เชื่อว่าวิธีแบบนี้ จะทำให้เป็นการพูดคุยกันได้อย่างสบายใจ
กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่ใหญ่ 1 ใน 3 GDP ของประเทศอยู่ที่นี่ ประชาชนทั้งประเทศมีความคาดหวัง ทั้งรายได้จากการท่องเที่ยว เรื่องฝุ่นเรื่องปัญหารถติด การใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง กรุงเทพฯ เป็นที่หมายตาของทุกคน
ตนกับนายชัชชาติรู้จักกันมานาน มีการคุยกันตั้งแต่การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 จำได้ว่านายชัชชาติ ไปหาตนที่ทำงานเก่า ผมบอกว่าท่านน่าจะสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปลงผู้ว่าหรอก ท่านบอกว่าท่านอยากเป็นผู้ว่าฯดีกว่า ให้ผมมาลงเป็นนายกฯแทน และทำงานร่วมกัน พี่ๆ น้องๆ นั่งคุยกัน อย่างสบายๆ วันนั้นจริงๆ แล้วก็ไม่คาดฝัน ว่าจะมีวันนี้มานั่งคุยแบบพี่ๆ น้องๆ ได้
พอผมเข้ารับตำแหน่ง หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ผมคิดถึงคนแรกๆ คือผู้ว่าฯชัชชาติ ซึ่งท่านก็มาด้วยฉันทามติที่ท่วมท้น 1.4 ล้านเสียง ถือว่าสูงมากในประวัติศาสตร์ ถือเป็นภารกิจแรก ๆ ที่ผมอยากจะทำ อยากพูดคุยสนับสนุน ผู้ว่าฯชัชชาติให้ทำงานลุล่วง ไปด้วยดี เพราะกรุงเทพมหานครเป็นภาคส่วนที่สำคัญของการขับเคลื่อนประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การมานั่งคุยในวันนี้ เกิดจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนไปนั่งทานอาหารกลางวันกับผู้ว่าฯชัชชาติ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และมีการพูดคุยกันว่าจะตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนา กทม. ชุดเล็กขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพฯ โดยการใช้นโยบายเป็นหลัก
เรื่องการใช้งบประมาณคงมีน้อยมาก หน้าที่ของรัฐบาลคือสนับสนุนให้ผู้ว่าสัญชาติให้แก้ไขปัญหา อย่างน้อยคือเรื่อง Quick Win อะไรทำได้ทำก่อน โดยเป็นเรื่องที่ใช้งบประมาณน้อยหรือไม่ใช้เลย อาจเป็นการประสานงานกับหน่วยงานราชการที่ขึ้นตรงกับตนเอง ให้มาสนับสนุนการทำงานของนายชัชชาติ ในเรื่องการจราจร อาชญากรรม ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่จะสามารถบรรเทาไปได้ จากการประสานงานที่ดีกว่า ซึ่งวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีแนวทางมานำเสนอ หน้าที่ตนคือการสนับสนุน ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหากรุงเทพฯ คือการประสานงานระหว่างหน่วยงาน เพราะกทม.มีข้อจำกัดในการใช้อำนาจ หากมีการประสานงานที่เข้มข้น มีทิศทางชัดเจน เชื่อว่าปัญหาหลายอย่างจะบรรเทาลงไปได้เยอะ ซึ่งครั้งแรกที่คุยกันจะมีการตั้งเป็นคณะทำงาน มีเพียงไม่กี่คน อาจมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง กระทรวงมหาดไทย ตำรวจนายกรัฐมนตรี และกรุงเทพฯ
พร้อมกับระบุว่าไม่เน้นเมกะโปรเจกต์ในการลงทุน แต่เน้นเรื่องการผลักดันสิ่งที่เป็นข้อติดขัด ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง หากเป็นปัญหาเร่งด่วนก็จะใช้คณะทำงานชุดนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนคุยกับนายกรัฐมนตรี ว่าคณะทำงานห้ามเกินพิซซ่า 2 ถาด คือมีจำนวนไม่มาก เพราะถ้าคณะกรรมการเยอะมันจะไม่จบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วย
ขณะเดียวกันนายชัชชาติ ยังระบุอีกว่า แนวคิดเรื่องการท่องเที่ยว ปัญหาที่เจอมากที่สุด ที่ทูตทุกคนพูดถึงคือเรื่องของความปลอดภัยการโกงนักท่องเที่ยว แท็กซี่ผี ไกด์ผี วันนี้กทม.ทำได้ในระดับหนึ่ง หากได้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดจะทำเทศกาลฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนธันวาคมให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกัน จะจัดให้เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ให้ถึงระดับโลก ให้คนมาเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มรากหญ้า
ส่วนเรื่องการนำสายสื่อสารลงดิน นายชัชชาติ ระบุว่า แม้ทางกทม.สามารถทำได้ แต่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน หากมีการทำเชิงนโยบายเชื่อว่าจะสามารถผลักดันได้เร็ว
โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเห็นด้วยในเรื่องของการสนับสนุน หน้าที่ตนคือการสนับสนุนน้องชาย ที่ดูแลภาคส่วนที่ใหญ่ สั่งการในสิ่งที่ผู้ว่าฯไม่มีอำนาจสั่งการ วันนี้เรามาพูดคุยกันก็จะมีคณะกรรมการเกิดขึ้น จะมีการนำเสนอผลงานทั้งขั้นตอนการทำงานให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว นายชัชชาติ ระบุว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ตอนนี้กทม.ต้องตอบในประเด็นที่มหาดไทยทำจดหมายมาถาม ซึ่งต้องให้รายละเอียดไป จากนั้นมหาดไทยจะนำเรียนนายกฯอีกที
ซึ่งตนได้เรียนต่อนายกรัฐมนตรีแล้วว่าต้องให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งประชาชนและเอกชนในอนาคต อาจมีรถไฟฟ้าอีกหลายสาย ที่ต้องเชิญเอกชนมาลงทุน ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงความมั่นใจและความโปร่งใส วันนี้เรื่องอยู่ในสภาฯกทม. เชื่อว่าจะสามารถตอบทางกระทรวงมหาดไทยได้ใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนนำเรื่องเสนอต่อนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี และนายชัชชาติได้ชนหมัดหลังการแถลงร่วม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีได้โอบไหล่นายชัชชาติ พร้อมขอบคุณสื่อมวลชน บอกต้องรีบเตรียมตัวเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก ระหว่าง วันที่ 18 -24 ก.ย 2566
แท็กที่เกี่ยวข้อง